แน่นอนว่าการแข่งขันฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองมนุษย์อย่างฟุตบอลโลก เป็นทัวร์นาเมนต์ที่รวมเหล่ายอดนักเตะในวงการลูกหนังไว้เยอะที่สุด แต่มีซูเปอร์สตาร์บางราย ที่ทำผลงานได้ดีกับสโมสรต้นสังกัดและกับทีมชาติในรายการอื่น ๆ ไม่เคยได้ลงเล่นในฟุตบอลโลกเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ว่าแต่จะมีใครกันบ้าง The Sportings News Thailand ได้รวบรวมรายชื่อมาไว้ที่นี่แล้ว
ไรอัน กิ๊กส์ - ทีมชาติเวลส์
ปีกทีมชาติเวลส์ ลงเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไป 963 เกม ทำได้ 168 ประตู โดยได้ออกสตาร์ทเล่นทีมชาตินัดแรกในเกมเจอกับ เยอรมัน ในปี 1991 และเขาเป็นส่วนหนึ่งในยุคของเวลส์ ที่มี เอียน รัช, มาร์ค ฮิวจ์ส, และ เนวิลล์ เซาธ์ฮอลล์
โดยพวกเขาตกรอบฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกด้วยการแพ้ โรมาเนีย ในปี 1993 ส่งผลให้พวกเขาชวดเล่นฟุตบอลโลกในปี 1994 ที่สหรัฐอเมริกา
กิ๊กส์ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกกับปีศาจแดง 13 สมัย, ยูฟ่า แชมเปียส์ลีก 2 สมัย, เอฟเอ คัพ 4 สมัย, ลีกคัพ 3 สมัย และ ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ กับ สโมสรโลก อีกอย่างละ 1 สมัย แถมยังได้รับรางวัลผู้เล่นดาวรุ่งยอดเยี่ยมในปี 1992, 1993 และรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมอีก 1 สมัยในปี 2009
อัลเฟรโด้ ดิ สเตฟาโน - อาร์เจนติน่า, โคลอมเบีย, สเปน
เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ถูกยกย่องโดย เปเล่ และ ดิเอโก้ มาราโดนา ว่าเป็นนักฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล โดย ดิ สเตฟาโน ได้เริ่มเล่นฟุตบอลกับทีมดังจากอาร์เจนติน่าอย่าง ริเวอร์ เพลท โดยยิงได้ 44 ประตูจาก 66 เกม และได้ทำการย้ายไปค้าแข้งที่สโมสรของประเทศโคลอมเบียต่อ
ก่อนที่เขาจะเลือกมาอยู่กับ เรอัล มาดริด และทำไป 216 ประตูจากการลงเล่น 282 เกม โดยในยุคนั้นเขาได้เล่นควบคู่กับ เฟเรนซ์ ปุสกัส พร้อมช่วยกันคว้าแชมป์ยูโรเปียนส์ คัพ 5 สมัย และ ลาลีกา 8 สมัย อีกทั้ง ดิ สเตฟาโน เขายังได้รับรางวัลบัลลงดอร์ในปี 1957 และ 1959 อีกด้วย
ดิ สเตเฟาโน ได้เปลี่ยนสัญชาติไปเป็น โคลอมเบีย และสเปน หลังได้กลายเป็นพลเมืองของประเทศนี้ในปี 1956 ซึ่งเขาได้ติดทีมชาติสเปนชุดใหญ่และเป็นทีมเต็งที่จะได้ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกในปี 1958 แต่สุดท้ายพวกเขาแพ้ให้กับสกอตแลนด์
ในปี 1962 เขาสามารถพาทัพกระทิงเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้สำเร็จ แต่เจ้าตัวได้รับบาดเจ็บหนัก ทำให้เขาพลาดลงเล่นทัวร์นาเมนต์นั้นในท้ายที่สุด
จอร์จ เวอาห์ - ไลบีเรีย
เขาเป็นหนึ่งในผู้เล่นแอฟริกันที่ยอดเยี่ยมตลอดกาลและได้รับรางวัลนักเตะแห่งปีของฟีฟ่าและบัลลงดอร์ในปี 1995
นอกจากนี้เขายังได้รองแชมป์รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปี 1996 อีกด้วย ซึ่งในปีนั้นเป็น โรนัลโด้ ของบราซิลได้รางวัลนี้ไปครอง เขาได้เข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศศึกยูโรเปียนส์คัพที่โมนาโกในปี 1992 ก่อนที่จะย้ายไปอยู่กับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง พร้อมกับยิง 32 ประตูจาก 96 เกมและคว้าแชมป์ลีกในปี 1994
เวอาห์ ย้ายไปอยู่กับ เอซี มิลาน พร้อมกับคว้าแชมป์ เซเรีย อา 2 ปี ยิงได้ 46 ประตู จากทั้งหมด 114 เกม
เอริค คันโตนา - ฝรั่งเศส
คันโตนา เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมและมีฟอร์มการเล่นที่น่าหลงใหล แต่ทว่า เขากลับไม่เคยได้ไปเล่น ฟุตบอลโลก เลยแม้แต่ครั้งเดียว
หลังจากที่ย้ายจากบ้านเกิดมาอยู่ในอังกฤษกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด เขาก็กลายเป็นส่วนสำคัญที่พาทัพยูงทองเป็นแชมป์ในปี 1974 ก่อนที่เขาจะย้ายมาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเวลาต่อมา พร้อมกับมีสถิติยิงไป 82 ประตู จาก 185 เกม และช่วยทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 4 สมัย
คันโตนา เป็นผู้เล่นในอันดับที่ 3 ในรางวัลบัลลงดอร์ปี 1993 ก่อนที่จะมาได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของ PFA ในปี 1994
จอร์จ เบสต์ - ไอร์แลนด์เหนือ
เช่นเดียวกับ จอร์จ เวอาห์ เนื่องจาก เบสต์ ได้เล่นกับทีมชาติที่ถือว่าเป็นทีมเล็ก ๆ หากไปเทียบกับทีมอื่น ทำให้โอกาสไปเล่นฟุตบอลโลกนั้นไม่ต้องพูดถึง อย่างไรก็ตาม เขาก็ถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักเตะที่เก่งที่สุดตลอดกาล แถมยังมีความโด่งดังเทียบเท่ากับเหล่าดารานักแสดงและนักดนตรีอีกด้วย
เบสต์ ได้ลงเดบิวต์ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปี 1963 ก่อนที่ชื่อของเขาจะโด่งดังไปทั่วโลก ด้วยการเป็นส่วนสำคัญในการคว้าแชมป์ลีกในปี 1965 และ 1967 แต่โมเมนต์ที่ดีที่สุดของเขาก็คือการยิงประตูในเกมชนะ เบนฟิก้า 4-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษของนัดชิงชนะเลิศศึกยูโรเปียนส์คัพปี 1968 ที่สนามเวมบลีย์ ซึ่งนั่นทำให้ในปีนั้น เขาได้รับรางวัลบัลลงดอร์และผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีจาก FWA
เอียน รัช - เวลส์
เขาเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดในเกาะอังกฤษ ด้วยการยิงไปทั้งหมด 346 ประตู จากการลงเล่น 660 เกม ให้กับ ลิเวอร์พูล
ตำนานของทีมหงส์แดง เคยเล่นอยู่กับ ยูเวนตุส 1 ฤดูกาล แต่มีผลงานที่ไม่ดีนัก ยิงไปได้เพียง 7 ประตูเท่านั้น จาก 29 เกม แต่ในช่วงเวลาที่เขาอยู่กับยอดทีมจากเมอร์ซีย์ไซต์ เขาคว้าแชมป์ลีก 5 สมัย, เอฟเอ คัพ 3 สมัย, ลีกคัพ 5 สมัย และ ยูโรเปียนส์ คัพ ในปี 1981 และ 1984
นอกจากนี้เขายังเคยได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมจาก PFA และ FWA ในปี 1984 อีกด้วย
รัช ทำผลงานในทีมชาติได้ยอดเยี่ยมในปี 1980 และในปี 1981 เขายิงประตูชัยใส่แชมป์โลกอย่างเยอรมันในการแข่งยูโร ปี 1982 รอบคัดเลือก
ในปี 1993 เวลส์ ชวดไปฟุตบอลโลกหลังแพ้ให้กับ โรมาเนีย ในรอบคัดเลือก ในขณะที่ เอียน รัช เคยนำเป็นดาวซัลโวเดี่ยว ๆ ของทีมชาติเวลส์จนถึงปี 2018 ก่อนที่ผู้เล่นอย่าง แกเร็ธ เบล จะมาทำลายสถิตินั้นลงได้