กฎของคล็อปป์ : ทำไมมีนักเตะลิเวอร์พูล 10 คน ห้ามแตะป้าย This is Anfield?

02-07-2024
2นาทีที่อ่าน
Getty Images

แอนฟิลด์ คือหนึ่งในสนามฟุตบอลที่แฟนบอลต้องการจะมาสัมผัสบรรยากาศสักครั้งในชีวิต เพราะที่นี่คือศูนย์รวมประวัติศาสตร์ของทีมดังอย่าง ลิเวอร์พูล อย่างแท้จริง

จุดเด่นของสนามแข่งขันแห่งนี้ นอกจากที่จะเป็นเรื่องของบรรยากาศและความเก่าแก่แล้ว ป้าย This is Anfield คืออีกหนึ่งจุดที่หลาย ๆ คนอยากที่จะมาเห็นและสัมผัสมันสักครั้ง เพราะป้ายนี้ ผ่านการสัมผัสมือของนักเตะหงส์แดงมาแล้วมากมายหลายราย

แต่รู้หรือไม่ว่า มีนักเตะ 10 คนในยุคของ เยอร์เก้น คล็อปป์ โดนสั่งห้ามแตะป้าย ๆ นี้ก่อนเดินลงสนาม? ทำไมถึงเป็นแบบนั้น? ตามหาคำตอบได้ที่นี่

จนกว่าจะชนะ

ป้าย This is Anfield คือป้ายที่เหล่านักเตะ ลิเวอร์พูล จะทำการแตะก่อนเดินลงสนาม โดยที่ บิล แชงคลีย์ กุนซือระดับตำนานของทีมเป็นผู้ที่นำมาติดไว้ เพื่อเตือนใจนักเตะว่าพวกเขากำลังเล่นเพื่อใคร

อย่างไรก็ดี ในปี 2016 ลิเวอร์พูล ที่เพิ่งจะเริ่มต้นยุคของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ได้ไม่นาน เหล่านักเตะในทีมถูกกุนซือชาวเยอรมันรายนี้สั่งห้ามว่าห้ามแตะแผ่นป้ายนี้ จนกว่าทีมจะได้แชมป์อะไรสักอย่างหนึ่งก่อน

“ผมบอกกับนักเตะว่าอย่าแตะป้าย This is Anfield จนกว่าจะได้แชมป์อะไรสักอย่าง มันเป็นการแสดงความเคารพนะ ผมเคยสัมผัสมันตอนเป็นผู้จัดการทีม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แต่สุดท้ายเกมนั้นเราแพ้ 4-0”

แน่นอนว่า ในทีมชุดแชมป์พรีเมียร์ลีก, เอฟเอคัพ, ลีกคัพ, คอมมิวนิตี้ ชิลด์, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก และ สโมสรโลก มีโอกาสได้สัมผัสแผ่นป้ายสุดขลังนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว

แต่มีนักเตะอีก 10 คน ที่ยังไม่ได้รับโอกาสแตะแผ่นป้ายนี้ นั่นก็คือนักเตะชุดใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่กับทีมได้ไม่นานนั่นเอง

Scroll to Continue with Content

ไม่ว่าจะเป็น ดาร์วิน นูนเญซ, โคดี้ กัคโป, สเตฟาน บายเซติช, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, โดมินิค โซบอสซ์ไล, วาตารุ เอ็นโด, ไรอัน กราเวินเบิร์ช, เบน โดค, จาเรลล์ ควานซาห์ และ คอเนอร์ แบรดลีย์

แต่ถึงกระนั้น นักเตะทั้ง 10 คนที่กล่าวมา มีโอกาสที่จะได้ปลดล็อคแตะป้าย This is Anfield ในเร็ว ๆ นี้ หากว่าพวกเขาคว้าแชมป์ คาราบาวคัพ กับ เชลซี ได้ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้

ร่วมลุ้นโชคฟรีพร้อมโบนัส

ลุ้นรางวัลใหญ่ เชียร์ทีมชาติไทยถึงเกาหลีใต้

ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลฟุตบอลประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด

ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา

Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand