คนแรกรอบ 7 ปี : ทำไม อาเหม็ดฮอดซิช ไม่สวมปลอกแขนกัปตันสีรุ้งในเกมพรีเมียร์ลีก?

12-08-2023
1นาทีที่อ่าน
Getty Images

ลิเวอร์พูล ของ เยอร์เก้น คล็อปป์ เครื่องยังแรงต่อเนื่อง หลังนัดล่าสุด ทีมเพิ่งจะเอาชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ทีมน้องใหม่มาได้ 2-0

แต่นอกจากเรื่องผลงานของหงส์แดงแล้ว อีกเรื่องที่น่าสนใจและกำลังเป็นที่พูดถึงในเกมนี้นั่นก็คือการที่ อาเนล อาเหม็ดฮอดซิช เซ็นเตอร์แบ็ควัย 24 ปีของ เดอะ เบลดส์ ไม่ยอมสวมใส่ปลอกแขนกัปตันทีมทีรุ้งต่ามที่พรีเมียร์ลีกกำหนดไว้

ซึ่งนั่นก็ทำให้เขากลายเป็นนักเตะคนแรกในรอบ 7 ปีของพรีเมียร์ลีก ที่ไม่ยอมสวมปลอกแขนสีรุ้ง

แล้วทำไมถึงเป็นแบบนั้น? เบื้องหลังของปลอกแขนสีรุ้งคืออะไร? ติดตามเรื่องราวทั้งหมดได้ที่นี่

ทำไมต้องปลอกแขนสีรุ้ง?

ในช่วงวันที่ 2-7 ธันวาคมนี้ ทางพรีเมียร์ลีก ได้ประกาศว่ากัปตันทีมของทั้ง 20 สโมสร จะต้องสวมปลอกแขนกัปตันทีมที่เป็นสีรุ้งลงสนาม เพื่อเป็นการยืนหยัดสนับสนุนกลุ่ม LGBTQ

ทำไม อาเหม็ดฮอดซิช ถึงไม่ใส่?

คริส ไวล์เดอร์ ผู้จัดการทีมของ เชฟฟิลด์ ได้ตอบคำถามกับสื่อในเรื่องนี้หลังกลายเป็นประเด็นว่า เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม อาเหม็ดฮอดซิช ถึงไม่ใส่ปลอกแขนสีรุ้ง

“ผมไม่รู้ มันไม่ใช่การตัดสินใจของสโมสรหรือการตัดสินใจส่วนตัว ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเขาถึงทำแบบนั้น”

ซึ่งหลาย ๆ คนนั้นได้สันนิษฐานเอาไว้ว่า ด้วยความที่ อาเหม็ดฮอดซิช เป็นนักเตะจากบอสเนียและเป็นคนมุสลิม ซึ่งเคร่งในเรื่องนี้เอามาก ๆ จึงเลี่ยงที่จะเข้าร่วมแคมเปญนี้ของพรีเมียร์ลีก

Scroll to Continue with Content

แต่ถึงกระนั้น แม้ว่า อาเหม็ดฮอดซิช จะไม่ได้สวมใส่ปลอกแขนสีรุ้ง แต่ว่า เชฟฟิลด์ ก็ได้แสดงการสนับสนุนแคมเปญนี้ผ่านธงสีรุ้งตรงมุมสนาม

คนอื่นว่าอย่างไร?

อย่างที่ได้กล่าวไป อาเหม็ดฮอดซิช เป็นผู้เล่นที่เป็นคนมุสลิม จึงเลี่ยงที่จะสวมปลอกแขนสีรุ้ง

แต่ก็มีผู้เล่นที่เป็นมุสลิมและสวมใส่ปลอกแขนสีรุ้งเหมือนกัน อย่างเช่น กรานิต ชาก้า อดีตมิดฟิลด์ของ อาร์เซนอล หรือว่า มามาดูซาโก้ อดีตนักเตะของ ลิเวอร์พูล และ คริสตัล พาเลซ ก็เคยเหมือนกัน

นั่นหมายความว่า จริง ๆ แล้วเรื่องนี้ น่าจะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจส่วนตัวของตัวนักเตะล้วน ๆ นั่นเอง

ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลฟุตบอลประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด

"ร่วมทายผลกีฬาลุ้นโชคพร้อมโบนัสสูงสุด 100 เปอร์เซนต์"

ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา

Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand