สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ น่าจะเป็นประโยคที่เหมาะสมและเข้ากับทาง แฮร์รี แม็คไกวร์ ปราการหลังชาวอังกฤษของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในตอนนี้มาก ๆ
เพราะในช่วงต้นฤดูกาลที่ผ่านมา ปีศาจแดง ต้องประสบกับปัญหาผู้เล่นต่างพากันบาดเจ็บ โดยเฉพาะผู้เล่นในตำแหน่งกองหลัง และนั่นก็ทำให้ แฮร์รี แม็คไกวร์ ที่ก่อนหน้านี้ตกเป็นตัวสำรองอย่างเต็มตัวในยุคของ เอริค เทน ฮาก กลับมาได้รับโอกาสเป็นตัวจริงอีกครั้งในช่วงหลัง ซึ่งเจ้าตัวก็ทำผลงานได้ดี
ในขณะที่เกมล่าสุดที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เอาชนะ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ไป 2-1 แม็คไกวร์ คือส่วนสำคัญสุด ๆ ที่ทำให้ทีมเก็บ 3 แต้มได้ ซึ่งเขาก็ได้รับรางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ติดมือกลับบ้านไปตามคาด
โดยในเกมนี้ แม็คไกวร์ ได้ทำสถิติเอาไว้ได้น่าสนใจ และมันอาจจะส่งผลถึงขั้นให้เขาสามารถกลับมาเป็นผู้เล่นตัวหลักของทีมได้อีกครั้งเลยก็ว่าได้ เรื่องราวทั้งหมดจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ที่นี่
แม็คไกวร์ เกมรุก
แม้ว่าจะเป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองหลัง และมีจังหวะพลาดให้เห็นอยู่บ่อย ๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่า แม็คไกวร์เป็นผู้เล่นกองหลังที่เลี้ยงบอลหรือว่าพาบอลขึ้นไปยังแดนหน้าได้ดีมาก ๆ คนหนึ่ง
ซึ่งการที่กองหลังสามารถทำแบบนั้นได้ มันส่งผลให้ผู้เล่นฝั่งตรงข้ามที่เข้ามาวิ่งบีบหรือว่าตั้งโซนรับนั้นผิดแผน เสียระบบไปหมด และนั่นจะทำให้พื้นที่เล่นเกมรุกของทีมก็จะเปิดกว้างมากขึ้น
หาดูตามกราฟด้านล่าง สถิติในเกมกับ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด แม็คไกวร์ คือคนที่มีสถิติครองบอลและพาบอลขึ้นไปสู่แดนหน้าได้มากที่สุดในเกมนี้ ไม่ใช่แค่มากกว่าทั้งทีมตัวเอง แต่มากกว่าทั้งทีมของ เดอะ เบลดส์ ด้วย
และถ้าหากจำกันได้ นี่คือจุดเด่นที่ แม็คไกวร์ ทำมาตลอด ตั้งแต่ที่เขาอยู่กับ เลสเตอร์ ซิตี้ แล้ว ซึ่งนั่นก็คือหนึ่งในคุณสมบัติที่หลาย ๆ สโมสรชื่นชอบ ยกตัวอย่างเช่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ก็เคยมีข่าวกับ แม็คไกวร์ อยู่ช่วงหนึ่งเหมือนกัน
ซึ่งถ้าหากว่า แม็คไกวร์ สามารถรักษามาตรฐานเกมรับให้ดี และทำสถิติในแบบดังกล่าวให้คงเส้นคงวาควบคู่ไปด้วย ก็น่าสนใจมากว่าอนาคตของเซ็นเตอร์แบ็คคู่หลักของ ปีศาจแดง จะมีการเปลี่ยนแปลงกลายเป็นตัวเขาที่เข้ามาแทนหรือไม่
ร่วมสนุกทายผลฟุตบอลประจำวัน ที่นี่
เช็คช่องทางที่ดีที่สุดในการลุ้นโชคได้ที่นี่
ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา
Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand