จู๊ด เบลลิงแฮม กองกลางดาวรุ่งตัวเก่งทีมชาติอังกฤษจากสโมสรโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมตามที่หลายคนคาดหวังเอาไว้ เขากลายเป็นเพชรเม็ดงามของฟุตบอลอังกฤษที่ออกไปเติมโตในบุนเดสลีกา และกลายเป็นดาวรุ่งที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคนหนึ่งในโลกลูกหนัง
ไม่แปลกที่เขาจะมีข่าวกับยอดทีมของยุโรป อย่าง เรอัล มาดริด ในตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ก่อนที่สุดท้ายทุกอย่างจะชัดเจนขึ้นมาในช่วงเข้าสู่ซัมเมอร์ 2023
ด้วยเงื่อนไขค่าใช้จ่ายต่าง ๆ กลายเป็นเรอัล มาดริด ที่สุดท้ายคว้าตัวกองกลางรายนี้ไปได้สำเร็จด้วยค่าตัว 103 ล้านยูโรบวกด้วยโบนัส และค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมอีก 20 ล้านยูโร
แน่นอนว่ามันก็ต้องมีสาเหตุที่ทำไมราชันชุดขาวถึงยอมจ่ายราคาแพงขนาดนี้กับกองกลางดาวรุ่งรายนี้ และจู๊ด เบลลิงแฮม จะเข้ามาช่วยพัฒนาเรอัล มาดริดได้มากน้อยแค่ไหน?
คำถามเกิดขึ้นมากมาย และจู๊ด เบลลิงแฮม จะเป็นคนให้คำตอบ
และหากคุณเชื่อมั่นในศักยภาพของจู๊ด เบลลิงแฮม ร่วมสมัครและทายผลงานของเขาเพื่อลุ้นรับรางวัลได้ที่นี่
ทำไม เรอัล มาดริด ยอมซื้อ จู๊ด เบลลิงแฮม ในราคา 103 ล้านยูโร?
มาดริดต้องถ่ายเลือด
จู๊ด เบลลิงแฮม ในฐานะกองกลางดาวรุ่งที่ดีที่สุดในโลก ได้รับการชื่นชมมาเสมอ แน่นอนว่าคาร์โล อันเชล็อตติ ผู้จัดการทีมเรอัล มาดริด ก็ได้มีการชื่นชมนักเตะรายนี้อยู่บ้างเช่นเดียวกัน พร้อมกับมีการแง้มเล็ก ๆ ว่า เขามีแผงกองกลางที่ดีอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตามเขาต้องการนักเตะวัยรุ่นที่เต็มไปด้วยพละกำลังมาเสริมทีมอยู่ดี
มันเหมือนกับเป็นการส่งสัญญาณอะไรบางอย่างให้กับจู๊ดว่า เขาก็ถือเป็นนักเตะอีกคนที่ทางเรอัล มาดริด ต้องการตัวมาก ๆ เช่นเดียวกัน
เราจดจำกันได้ดี 3 ประสานแดนกลางที่แข็งแกร่งสุด ๆ ของเรอัล มาดริด อย่าง โทนี่ โครส, ลูก้า โมดริช และ คาเซมิโร่ แกนหลักในแดนกลางที่สำคัญ จนช่วยให้เรอัล มาดริด คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มาครองได้หลายสมัย
แต่พวกเขาจะไม่ได้อยู่ที่ซานติอาโก้ เบร์นาเบว ไปตลอดกาล การเปลี่ยนถ่ายเริ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
มีการเข้ามาของ เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้, โอเรเลียง ชูอาเมนี และ เอดูอาร์โด คามาวิงก้า แต่นั่นยังไม่เพียงพอสำหรับเรอัล มาดริด
จู๊ด เบลลิงแฮม กลายเป็นคนสำคัญที่จะเข้ามาช่วย ในเมื่อโครสก็อายุ 33 ปีแล้ว ส่วน โมดริช ก็ 37 ปี
มันจำเป็นอย่างมากที่กองกลางเรอัล มาดริด จะต้องแกร่งทั่วแผ่น ไม่ว่าในทีมในฐานะตัวจริงหรือตัวสำรอง คุณภาพของจู๊ดถือเป็นที่ต้องการในการถ่ายเลือดแดนกลางเพื่อให้เข้าสู่ยุคใหม่อย่างไร้รอยต่อ
เพิ่มศักยภาพเกมรุกจากแดนกลาง
จู๊ด เบลลิงแฮมคือกองกลางที่ถือว่าครบเครื่อง สามารถช่วยได้ทั้งเกมรับและเกมรุก โดยเฉพาะเกมรุกสถิติก็ถือว่าโดดขึ้นมา นับตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วที่มีส่วนร่วมในการทำประตูถึง 20 ประตู ขณะที่ในฤดูกาลนี้มีส่วนร่วมที่ 21 ประตู
การเป็นส่วนสำคัญที่เข้ามาช่วยเพิ่มศักยภาพเกมรุก ตัวเลขมีให้เห็นได้เด่นชัดว่า จู๊ดมีความสามารถสูงในการช่วยผู้เล่นเกมรุกเพิ่มศักยภาพในส่วนนี้
นี่เป็นอีกเหตุผลที่ส่งผลให้เรอัล มาดริด เลือกที่จะจ่ายเงินมากมาย เพื่อให้สามารถการันตีว่า จะคว้าตัวจู๊ดมาร่วมทีมได้สาเร็จตามเป้าหมาย
เพื่อให้เห็นภาพชัด จู๊ด เบลลิงแฮม ถือว่ามีสถิติที่มีผลต่อเกมรุก ไม่ว่าจะเป็นการทำประตูหรือจ่ายบอลช่วยเพื่อทำประตูมากกว่าผู้เล่นในแดนกลางทุกคนของเรอัล มาดริด
ไม่เว้นแม้แต่ เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้ ที่ฤดูกาลล่าสุดมีการพัฒนาขึ้นมาในส่วนนี้ แต่ก็ยังเอาสถิติไปเทียบจู๊ดไม่ได้
นี่ถือเป็นจุดสำคัญที่อันเชล็อตติ และทีมงานของเรอัล มาดริด อาจจะกำลังมองหาอยู่เพื่อการพัฒนาทีมต่อไป
ความแตกต่างไม่เหมือนใคร
ความยืดหยุ่นของเรอัล มาดริด ภายใต้คาร์โล อันเชล็อตติ คือจุดเด่น ไม่แปลกเลยว่าทำไมพวกเขาถึงยอดเยี่ยมในฟุตบอลยุโรป หรือในลาลีกา
เพราะความยืดหยุ่นนี่แหละ ทำให้พวกเขาสามารถเล่นได้ในหลากหลายสถานการณ์ และเอาตัวรอดมาได้เสมอ
โดยส่วนมาก เรอัล มาดริด มักจะเป็นฝ่ายครอบครองบอลเหนือคู่แข่ง ไม่แปลกว่าสถิติการครองบอลจากแดนกลางของทีมราชันชุดขาว จะทำได้ดีมาก ๆ ซึ่งก็นำมาซึ่งคำถามว่า จู๊ด จะไปรอดกับมาดริดไหม? เพราะจุดเด่นของเขาไม่ใช่การของบอล
อย่างไรก็ตาม จู๊ดอยู่กับดอร์ทมุนด์ที่ไม่จำเป็นต้องครองบอลเหนือกว่าคู่แข่ง ทำให้จู๊ดมีความสามารถในการช่วยเกมรับดีกว่ากองกลางหลายคนในเรอัล มาดริด
มากกว่านั้นคือการแกะเพรสซิ่ง ซึ่งถือว่าสำคัญหากอยู่ในสถานการณ์ที่ถูกคู่แข่งเข้ามากดดันมาก ๆ และต้องการเริ่มเกมโต้กลับเพื่อเล่นงานเอาคืน จุดนี้จู๊ดถือว่าจะช่วยได้มาก ด้วยความที่แดนกลางเรอัล มาดริดไม่ค่อยได้เจอแบบนี้
แต่หากมีจู๊ดเมื่อต้องเจอสถานการณ์แบบนี้ เขาก็จะสามารถช่วยได้อย่างแน่นอน
เส้นทางยังอีกยาวไกลสำหรับ จู๊ด เบลลิงแฮม ในวัย 19 ปี การย้ายไปอยู่กับเรอัล มาดริดถือเป็นก้าวสำคัญในชีวิตของเขา
หากว่าเขาสามารถงัดศักยภาพที่ยอดเยี่มของเขาออกมาได้ เหมือนในในช่วงเวลาที่อยู่กับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ คงไม่ยากนักที่เขาจะกลายเป็นดีลสำคัญที่ช่วยให้เรอัล มาดริดยิ่งใหญ่ในอีก 5-10 ปีข้างหน้าหลังจากนี้ เพราะคุณภาพของเขาเชื่อได้เลยว่าจะสามารถช่วยให้เรอัล มาดริดก้าวไปอีกขั้นได้อย่างแน่นอน
บทความที่เกี่ยวข้อง : เรอัล มาดริด เปิดตัว "จู๊ด เบลลิงแฮม" พร้อมเสื้อหมายเลข 5
บทความที่เกี่ยวข้อง : จู๊ด เบลลิงแฮม : เปิดประวัติยอดกองกลางอนาคตไกลชาวอังกฤษ
บทความโดย : ณพันธ์ สุขนพกิจ (กรอบเขตโทษ/Domo97)