ฟุตบอลโลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์จะถูกจัดขึ้นในทวีปอเมริกาเหนือปี 2026 โดยมีประเทศเจ้าภาพ 3 ประเทศ ประกอบไปด้วย สหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก ซึ่งเป็นครั้งแรกของฟุตบอลโลกที่มีเจ้าภาพถึง 3 ประเทศ อีกทั้งในฟุตบอลโลก 2026 ทีมที่ได้เข้ามาเล่นในรอบสุดท้ายจะถูกเพิ่มเป็น 48 ทีมอีกด้วย
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2018 ฟีฟ่า ได้ยืนยันว่าฟุตบอลโลก 2026 จะมีการแข่งขันไปทั่วทวีปอเมริกาเหนือ โดยการแข่งขันทั้ง 80 แมตช์ จะถูกจัดขึ้นใน 3 ประเทศใหญ่ของทวีป
โดย 3 ชาติจากทวีปอเมริกาเหนือสามารถเอาชนะโหวตการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพของ โมร็อกโกไปได้ และนี่จะเป็นฟุตบอลโลกครั้งแรกที่มีเจ้าภาพมากกว่า 2 ชาตินับตั้งแต่ฟุตบอลโลก 2002 ที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่นร่วมมือกันเมื่อสองทศวรรษก่อน
ฟุตบอลโลก 2026 จัดขึ้นที่ประเทศไหน?
ฟุตบอลโลกปี 2026 จะแข่งขันกันใน 3 ประเทศได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก
ทัวร์นาเมนต์นี้จะแข่งขันกันทั้งหมด 80 เกม โดย 60 เกมจะแข่งขันกันที่ สหรัฐอเมริกา ส่วนทางด้าน แคนาดา และเม็กซิโก จะมีการแข่งขันกันประเทศละ 10 เกม
สหรัฐอเมริกา และ เม็กซิโก เคยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลมาก่อน โดย เม็กซิโก นั้นจะกลายเป็นประเทศแรกที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรายการนี้ถึง 3 ครั้งด้วยกัน (1970, 1986 และ 2026)
หลังจากเป็นเจ้าภาพในปี 1994 สหรัฐอเมริกา ก็จะได้กลับมาเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกอีกครั้ง หลังจากไม่ได้เป็นเจ้าภาพในการแข่งขันรายการนี้มานานกว่า 22 ปี
เมืองที่ใช้จัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026
เมืองและสนามแข่งขันในฟุตบอลโลก 2026 ได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการโดย ฟีฟ่า เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2022 ที่ผ่านมา
โดยเมืองที่จัดการแข่งขันในครั้งนี้ได้ถูกรับเลือกมา 16 เมือง และจะกระจายไปทั่วทั้ง 3 ประเทศ ซึ่งมี 11 เมืองในสหรัฐอเมริกา 3 เมืองในเม็กซิโก และ 2 เมืองในแคนาดา
โดยสนามกีฬาทั้ง 2 แห่งอย่าง เอสตาดิโอ อัซเตก้า ในเม็กซิโกซิตี้ และ โรส โบวล์ ในลอสแองเจลิส เคยจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมาแล้วทั้งสิ้น ซึ่งในปัจจุบัน เอสตาดิโอ อัซเตก้า ยังคงเป็นหนึ่งในสองสนามของโลกที่เคยถูกใช้ในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายมาถึง 2 ครั้ง ควบคู่ไปกับสนาม มาราคานา ในบราซิล
สนามแข่งขันฟุตบอลโลก 2026
เมือง | รัฐ | ประเทศ | สนาม | ความจุ |
---|---|---|---|---|
Mexico City | Mexico | Estadio Azteca | 87,523 | |
New York City | NY/NJ | USA | MetLife Stadium | 82,500 |
Dallas | TX | USA | AT&T Stadium | 80,000 |
Kansas City | KS | USA | Arrowhead Stadium | 76,416 |
Houston | TX | USA | NRG Stadium | 71,795 |
Atlanta | GA | USA | Mercedes-Benz Stadium | 71,000 |
Los Angeles | CA | USA | SoFi Stadium | 70,240 |
Philadelphia | PA | USA | Lincoln Financial Field | 69,176 |
Seattle | WA | USA | Lumen Field | 69,000 |
San Francisco | CA | USA | Levi's Stadium | 68,500 |
Boston | MA | USA | Gillette Stadium | 65,878 |
Miami | FL | USA | Hard Rock Stadium | 64,767 |
Vancouver | BC | Canada | BC Place | 54,000 |
Monterrey | NL | Mexico | Estadio BBVA | 53,500 |
Guadalajara | JAL | Mexico | Estadio Akron | 46,232 |
Toronto | ON | Canada | BMO Field | 45,500* |
ฟุตบอลโลก 2026 มีทีมเข้าร่วมกี่ทีม?
ย้อนกลับไปในปี 2017 ฟีฟ่า ได้ประกาศไว้ว่าฟุตบอลโลกปี 2026 จะเป็นครั้งแรกที่จะมีการเพิ่มทีมจาก 32 ทีม เป็น 48 ทีม
แน่นอนว่าการที่มี 48 ประเทศเข้าร่วมในการแข่งขันนั้นจะสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับแฟนบอลเป็นอย่างดี แต่ทางฝั่งของนักกีฬาและโค้ชเองคงไม่ปลื้มเท่าไหร่ เพราะห่วงว่าจะต้องมีการเพิ่มเกมการแข่งขันขึ้นตามมา
อย่างไรก็ตาม ฟีฟ่า ยืนยันว่าการเพิ่มทีมในครั้งนี้จะไม่เพิ่มจำนวนเกมขึ้นมาแต่อย่างใด เพราะแต่ละทีมจะมีเกมสูงสุดให้ลงเล่น 7 เกมเท่าเดิมในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายครั้งหน้า
การแข่งขันในรูปแบบใหม่สำหรับฟุตบอลโลกปี 2026 รอบแบ่งกลุ่มจะประกอบไปด้วยกลุ่ม 16 และแต่ละกลุ่มจะมี 3 ทีม โดย 2 ทีมที่ทำผลงานได้ดีที่สุดของแต่ละกลุ่มจะผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ที่คราวนี้จะเป็น 32 ทีมแทน
NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก