หากบอกว่าครั้งหนึ่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยมีนักเตะชาวจีนที่ชื่อว่า ตง ฟางโจว แฟนบอลรุ่นใหม่อาจนึกว่าเป็นเรื่องโม้ แต่ถ้าไปถามสาวก "ปีศาจแดง" เมื่อราว 15 ปีก่อน คงจะพอนึกออกบ้างเพราะตอนที่เขาเซ็นสัญญานั้นเป็นข่าวดังอย่างมาก
วันเวลาผ่านไปจนกระทั่งเกมพรีเมียร์ลีกที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านชนะ ลูตัน ทาวน์ เมื่อคืนนี้ ทางสโมสรได้โพสต์รูปของ ฟางโจว กลับมาเยี่ยมสโมสรอีกครั้งหลังห่างหายไปนาน เพราะนับตั้งแต่ย้ายออกไปเขาก็หายไปจากทุกหน้าสื่อจนเกิดคำถามว่าทุกวันนี้เขาทำงานอะไร อาศัยอยู่ที่ไหน?
เรื่องราวของเขาหลังออกจาก แมนฯ ยูไนเต็ด เป็นอย่างไร แล้วทำไมเขาถึงกลับมาเยี่ยมสโมสรอีกครั้ง ติดตามเรื่องราวของเขาได้ที่นี่...
เกิดอะไรขึ้นกับ "ตง ฟางโจว"
ก่อนเกมพบลูตัน อินสตาแกรมอย่างเป็นทางการของยูไนเต็ดได้โพสต์คลิป ฟางโจว กำลังทักทายกับ เวส บราวน์ อดีตเพื่อนร่วมทีมที่เคยค้าแข้งด้วยกันในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด โดย บราวน์ กล่าวกับเพื่อนเก่าว่า
"ดีใจที่ได้พบคุณ คุณยังดูดีนะ" บราวน์ กล่าวหลังสวมกอดกับ ฟางโจว
คลิปดังกล่าวเหมือนเป็นการรื้อความทรงจำแฟนบอลอีกครั้งเพราะเชื่อว่าคงมีน้อยคนที่จะจำ ฟางโจว ได้เพราะตั้งแต่เขาย้ายออกไปเมื่อปี 2008 ก็ไม่ได้ข่าวคราวอีกเลย ก่อนแขวนสตั๊ดเงียบ ๆ ในบ้านเกิดกับ เหอเป่ย เอฟซี ในปี 2014 ด้วยวัยแค่ 29 ปี เท่านั้น
ปัจจุบันในวัย 38 ปี ไม่มีใครทราบเหตุผลที่แท้จริงว่า ฟางโจว กลับมาเยี่ยมสโมสรเพราะอะไร ซึ่งอาจเป็นไปได้ทั้งเขาถูกเชิญมาหรือไม่ก็มาด้วยความสมัครใจเอง โดยเขาปรากฎตัวผ่านรูปภาพ 2 รูปเท่านั้นคือรูปที่อยู่ในสนามกับรูปที่ยืนอยู่นอกสนาม
ส่วนตัวเขานั้น นับตั้งแต่แขวนสตั๊ดก็แทบไม่โชว์ตัวต่อหน้าสื่อเลย กระทั่งในปี 2016 เขาต้องออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อใหญ่อย่าง AFP ตอบโต้ข่าวลือว่าไปทำศัลยกรรมใบหน้ามา
"ผมแค่เพิ่งลองหัดแต่งหน้าง่าย ๆ ให้ตัวเองดู ถ้าพวกคุณบอกว่าผมไปทำศัลยกรรมเสริมหล่อมา ผมคงต้องบอกว่านี่เป็นการทำศัลยกรรมที่ไม่ได้ดูหล่อเลย" ฟางโจว เผย
อย่างไรก็ตาม ฟางโจว ไม่ได้ห่างหายจากฟุตบอลแบบที่คิดโดยปัจจุบันเขาทำงานเป็นครูสอนฟุตบอลให้กับเด็กเล็กและเด็กพิการในประเทศจีน ซึ่งไม่มีรายงานชัดเจนว่าเขาทำงานให้กับหน่วยงานใด
ร่วมสนุกทายผลฟุตบอลทีมชาติไทยพบจีนที่นี่
นอกจากนี้คุณสามารถ เช็คช่องทางที่ ดีที่สุดในการลุ้นโชคได้ที่นี่
ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา
Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand