จนถึงเวลานี้แฟนบอลชาวไทยที่ซื้อตั๋วและของที่ระลึกเข้าชมแมตช์อุ่นเครื่อง สเปอร์ส-เลสเตอร์ คงรู้สึกเสียดายเงินที่พวกเขาจ่ายไปหลังจากทำได้แค่ตากฝนมาดูนักเตะวอร์มอัพในสนามกับเดินขอบคุณแล้วยกเลิกแมตช์แยกย้ายกลับบ้าน
กระนั้นทางฝ่ายจัดยืนยันว่าขั้นตอนคืนเงินแก่แฟนบอลจะดำเนินการให้เร็วที่สุด แต่ท่ามกลางเสียงเรียกร้องว่าต้องคืนให้มากน้อยเท่าไร เราขอพาย้อนไปดูกรณีศึกษาที่คล้ายกันเมื่อ 4 ปีก่อนในเกมอุ่นเครื่องปรีซีซั่นของ ยูเวนตุส ที่ประเทศเกาหลีใต้
เรื่องราวเกิดขึ้นในช่วงปรีซีซั่นฤดูกาล 2019-2020 "ม้าลาย" ยูเวนตุส ทีมดังศึก เซเรีย อา มีคิวเดินทางมาลับแข้งที่ประเทศเกาหลีใต้กับทีมรวมดารา เคลีก ซึ่งทางบริษัทฟาสต้า ในฐานะผู้จัดการแข่งขันประกาศให้แฟนบอลทราบว่า คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (สมัยนั้นยังอยู่ ยูเวนตุส) จะลงเล่นให้แฟนบอลได้ชมอย่างน้อย 45 นาที เนื่องจากได้เซ็นสัญญาตกลงไว้แล้ว
26 กรกฎาคม 2019 เกมคิกออฟที่สนาม โซล เวิล์ดคัพ แฟนบอลแห่เข้ามาชมเต็มสนามมากกว่า 63,000 คน เพื่อหวังว่าจะได้ยลโฉม "พรี่โด้" ตัวจริงเสียงจริง ถนนมุ่งหน้าสู่สนามที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำฮันต่างดังไปด้วยเสียงตะโกนชื่อ โรนัลโด้ ๆ ซ้ำหลายครั้งไม่เว้นแม้แต่ช่วงวอร์มอัพก่อนเตะที่แฟนบอลร้องชื่อดาวเตะโปรตุกีสลั่นสังเวียนทุกวินาทีที่เจ้าตัวออกมายืดเส้นยืดสาย
แต่สุดท้ายกลายเป็นหนังหักมุมเมื่อประกาศ 11 ผู้เล่นตัวจริงออกมาไม่มีชื่อของ โรนัลโด้ ทำแฟนบอลใจหายวาบแต่ก็แอบหวังลึก ๆ ว่าเขาจะลงสนามในครึ่งหลัง แต่พอครึ่งหลังเริ่ม โรนัลโด้ ก็ไม่ได้ลงสนามเท่ากับว่าสัญญาที่ผู้จัดบอกไว้จะให้เล่นอย่างน้อย 45 นาทีไม่เป็นจริง โดยแข้งชื่อดังรายนี้เอาแต่นั่งเฉย ๆ อยู่ในซุ้มม้านั่งสำรองจนจบเกม กระทั่งจบ 90 นาที โรนัลโด้ ที่เดินมาปรบมือให้แฟนบอลก็โดนโห่ตามระเบียบ
ร่วมสมัครเล่นเกมลุ้นรับเงินปลอบใจยกเลิกเกม สเปอร์ส-เลสเตอร์ ได้ที่นี่
การแข่งขันจบลง ทุกคนต่างแยกย้ายไปทางใครทางมัน ซึ่งไม่แน่ว่าถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในประเทศไทยแฟนบอลคงไม่ติดใจและลืม ๆ มันไป แต่ไม่ใช่กับชาวเกาหลีที่ขึ้นชื่อในเรื่องประชาธิปไตยและยึดมั่นในความยุติธรรม ก็ออกมาประท้วงทั่วกรุงโซลขอให้ผู้จัดออกมารับผิดชอบกับการผิดคำสัญญา
เรื่องราวใหญ่โตจนบานปลายไปถึงประชาชนทั่วไปที่ไม่เกี่ยวข้องกับแมตช์ฟุตบอลวันนั้นได้ก่อม็อบลงถนนและเรียกร้องให้รัฐบาลเกาหลีใต้ขึ้นบัญชีดำ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ พร้อมกับแบนห้ามเข้าประเทศตลอดชีพ ก่อนที่ต่อมากลุ่มแฟนบอลจะรวมตัวยื่นฟ้องต่อศาลเกาหลีใต้ให้บริษัทฟาสต้า จ่ายเงินชดใช้ค่าเสียหายให้กับแฟนบอลทุกคนที่ซื้อตั๋วเข้ามาหวังดู โรนัลโด้ เตะบอล ไม่ใช่มาเข้ามาเพื่อดู โรนัลโด้ นั่งเล่นที่ซุ้มม้านั่งสำรอง
ด้านแฟนบอลยกกรณีของ บาร์เซโลนา ที่มาอุ่นเครื่องกับทีมรวมดารา เคลีก เมื่อปี 2010 ซึ่งครั้งนั้นยอดทีมจากสเปนส่ง ลิโอเนล เมสซี่ ลงสนามตามคำสัญญาเป็นเวลา 15 นาทีในครึ่งแรกก่อนเปลี่ยนตัวออกมาเป็นข้อแก้ต่างให้กับศาล ซึ่งในส่วนของการพิจารณาคดีลากยาวมาจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ก็ได้ข้อสรุปว่าบริษัทฟาสต้า ต้องจ่ายเงินชดใข้ให้กับแฟนบอลทุกคนที่ซื้อตัวเข้าชมเกมในวันนั้นคนละ 371,000 วอน (9,900 บาท) เพื่อเยียวยาจิตใจ
แน่นอนว่าการต้องจ่ายเงินชดใช้แก่แฟนบอลกว่า 63,000 คน ทำให้บริษัทขาดทุนจนล้มละลายในทันทีก่อนจะตามด้วยปิดกิจการ ส่วนแฟนบอลก็เป็นผู้ชนะและทวงคืนความยุติธรรมสำเร็จ
เรื่องราวที่กล่าวมาข้างต้นนี้ ขอยกเป็นกรณีศึกษาให้กับเหตุการณ์ยกเลิกแมตช์อุ่นเครื่องปรีซีซั่น สเปอร์ส-เลสเตอร์ ที่กลายเป็นหมันเพราะฝนตกหนักจนน้ำท่วมขังสนามเนื่องจากไม่มีระบบระบายน้ำ โดยตัวแทนของทั้งสองสโมสรเห็นตรงกันว่าหากดื้อทำการแข่งขันก็อาจส่งผลเสียกับสุขภาพของนักเตะ อย่างไรก็ดี ทางผู้จัดจะทำการประกาศรายละเอียดการคืนเงินให้กับผู้ที่ซื้อตั๋วโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ การหาผู้มารับโทษผิดกับความล้มเหลวแมตช์ สเปอร์ส-เลสเตอร์ แลดูจะไม่ค่อยยุติธรรมกับผู้จัดสักเท่าใดเพราะต้นเหตุมาจากฝนซึ่งเป็นตัวแปรที่ยากจะควบคุม หากมองในมุมกลับกันถ้าสมมติว่าฝนไม่ตกแฟนบอลก็จะได้ชมเกมเต็มอรรถรสและได้ประโยชน์กันทุกฝ่าย แต่เมื่อเรื่องราวร้าย ๆ มันเกิดขึ้นแล้วเราก็ต้องเข้าใจว่าผู้จัดการแข่งขันแมตช์นี้มีแต่เสียกับเสียอย่างน่าเห็นใจ
ด้าน ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) ออกมาแสดงความเสียใจต่อเหตุดังกล่าว และขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น
"เรื่องนี้เป็นเหตุสุดวิสัยที่ฝนตกลงมาอย่างหนัก ทั้ง 2 ทีม โดยเฉพาะ สเปอร์ส คำนึงถึงความปลอดภัยของนักเตะ ซึ่งต่างประเมินกันว่า ถ้ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น จะไม่คุ้ม ผมอยู่ในเหตุการณ์ ผู้บริหารทีม ก็มาขอโทษที่จำเป็นต้องยกเลิกแมตช์นี้ ส่วนตัวเข้าใจ และเห็นใจแฟน ๆ เป็นอย่างมาก"