ไขข้อสงสัย : เหตุใด แมนฯ ซิตี้ จึงไม่ติดโลโก้เอฟเอ คัพ ไว้ที่แขนเสื้อ

01-07-2024
1นาทีที่อ่าน
(Getty Images)

ค่ำคืนนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เตรียมเริ่มต้นเส้นทางการป้องกันแชมป์เอฟเอ คัพ ของอังกฤษ ด้วยการเปิดบ้านพบกับ ฮัดเดอร์สฟิลด์ ทาวน์ ทีมท้ายตารางของเดอะ แชมเปี้ยนชิพ ในเอฟเอ คัพ รอบ 3

อย่างไรก็ตาม นอกเหนือจากเกมการแข่งขัน อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจในเกมนี้คือการที่แชมป์เก่าเลือกที่จะปฏิเสธการติดโลโก้ของการแข่งขันไว้ที่แขนเสื้อข้างขวาเหมือนกับที่ทุก ๆ สโมสรล้วนปฏิบัติกัน

เหตุใด แมนฯ ซิตี้ ถึงตัดสินใจเช่นนั้น ติดตามหาเหตุผลได้ที่นี่

ลุ้นรางวัลใหญ่ เชียร์ทีมชาติไทยถึงเกาหลีใต้

ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลฟุตบอลประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด

ร่วมทายผลกีฬาลุ้นโชคพร้อมโบนัสสูงสุด 100 เปอร์เซนต์

ไขข้อสงสัย : เหตุใด แมนฯ ซิตี้ จึงไม่ติดโลโก้เอฟเอ คัพ ไว้ที่แขนเสื้อ

โดยทั่วไปแล้วทุก ๆ สโมสรที่เข้าร่วมการแข่งขันในศึกเอฟเอ คัพ จะต้องติดอาร์มโลโก้ของรายการไว้ที่แขนเสื้อด้านขวา

แต่เหตุผลที่ แมนฯ ซิตี้ เลือกที่จะไม่ติดโลโก้เอฟเอ คัพ ไว้ที่แขนเสื้อ นั่นเป็นเพราะว่าผู้สนับสนุนหลักของเอฟเอ คัพ อย่าง “เอมิเรตส์ แอร์ไลน์” (Emirates) นั่นถือเป็นคู่แข่งสำคัญของ “เอติฮัด แอร์เวย์” (Etihad) ซึ่งเป็นสปอนเซอร์หลักของทีมเรือใบสีฟ้า นั่นเอง

Scroll to Continue with Content

โดยทั้ง เอมิเรตส์ และ เอติฮัด นั้นถือเป็น 2 สายการบินยักษ์ใหญ่ของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่มีการแข่งขันมาอย่างยาวนาน ดังนั้น แมนฯ ซิตี้ จึงได้รับการยกเว้นจากการติดโลโก้การแข่งขันไว้ที่แขนเสื้อ

ซึ่งนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ แมนฯ ซิตี้ ปฏิบัติเช่นนี้ เพราะรอบชิงชนะเลิศเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ทัพเรือใบสีฟ้า ก็ไม่ได้ติดโลโก้ไว้ที่แขนเสื้อข้างขวาเช่นกัน

นอกจากนี้หากย้อนกลับไปในนัดชิงชนะเลิศปี 2019 ในเกมที่พวกเขาถล่ม วัตฟอร์ด 6-0 แมนฯ ซิตี้ ได้นำคำว่า ‘Airways’ ออกไป และเติมคำว่า ‘Choose’ (เลือก) ไว้เหนือสปอนเซอร์ของเอติฮัด อีกด้วย

Getty Images

ลุ้นรางวัลใหญ่ เชียร์ทีมชาติไทยถึงเกาหลีใต้

ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลฟุตบอลประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด

ร่วมทายผลกีฬาลุ้นโชคพร้อมโบนัสสูงสุด 100 เปอร์เซนต์

ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา

Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand