ไม่ได้ดีทุกคน : 10 การเซ็นสัญญาที่แย่ที่สุดของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา

เป๊ป กวาร์ดิโอลาร์ คือกุนซือสมองเพชรอย่างที่ไม่มีใครเทียบได้ในยุคนี้ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อตัวผู้เล่นหรือการแก้เกมในสนาม

แต่ทว่าคนเราไม่สามารถทำให้ทุกอย่างถูกต้องเสมอไป แน่นอนว่าการซื้อผู้เล่นตัวดีๆเข้ามาแบบเห็นเป็นที่ประจักษ์นั้นมีไม่ใช่น้อยๆ แต่การเซ็นสัญญาผู้เล่นที่ไม่เวิร์คเข้ามาก็มีเหมือนกัน 

10 การเซ็นสัญญาที่แย่ที่สุดของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ตลอดอาชีพการโค้ชของเขามีใครบ้าง? ติดตามไปพร้อมกันได้ที่นี่

10 การเซ็นสัญญาที่แย่ที่สุดของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา

10. มาริโอ เกิทเซ (32 ล้านปอนด์)

เกิทเซนั้นเป็นเหมือนของขวัญที่ เป๊ป ได้มาเมื่อเขาเข้ามาคุม บาเยิร์น มิวนิค ในฤดูกาลแรก เนื่องจากเจ้าตัวทำไปได้ถึง 10 ประตูให้กับทีม พร้อมกับเป็นฮีโร่ให้เยอรมนี ยิงประตูชัยใส่ อาร์เจนตินา ในนัดชิงฟุตบอลโลกปี 2014

น่าเสียดายที่หลังจากนั้นฟอร์มเขาก็หายไปเลย ส่วนหนึ่งต้องบอกว่าเขาไม่สามารถปรับตัวกับการเปลี่ยนหน้าที่ผู้เล่นของ กวาดิโอลาร์ ได้จนทำให้สุดท้ายเขาก็ต้องย้ายออกไปจากทีม

9. โนลิโต้ (14 ล้านปอนด์)

การคว้าตัว โนลิโต้ มาจาก เซลตา บีโก้ ถือเป็นการซื้อขายที่น่าสนใจหลังจากที่เขาฟอร์มดีขึ้นมาในช่วงอายุปลาย 20 แต่น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถปรับตัวกับการอยู่ที่อังกฤษได้ พร้อมกันนั้น ลูกสาวของเขาก็มีปัญหาในการอยู่ที่ แมนเชสเตอร์ เหมือนกันเพราะมีแสงแดดน้อยเกินไป

8. มาร์ติน กาเซเรส (14 ล้านปอนด์)

กาเซเรสคือผู้เล่นคนแรกที่ เป๊ป เซ็นเข้ามาตอนเริ่มทำหน้าที่เป็นโค้ชของบาร์เซโลนา แต่ทว่าเซ็นเตอร์ที่ซื้อมาจาก บียาเรอัล คนนี้กลับมีฟอร์มที่น่าผิดหวัง จนสุดท้ายกลายเป็นกองหลังตัวเลือกคนที่สี่จนไม่สามารถกลับมาเป็นตัวจริงได้อีกเลย

7. เมห์ดิ เบนาเตีย (22 ล้านปอนด์)

การมา บาเยิร์น มิวนิค ของ เบนาเตีย นั้นเต็มไปด้วยเรื่องลบ เพราะว่าเขาไม่สามารถยืนระยะได้ดี แถมยังมีความผิดพลาดอยู่บ่อยครั้ง นั่นจึงทำให้เขาได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเพียงแค่ 24 เกมเท่านั้นจากสองฤดูกาลที่เขาลงเล่นในบุนเดสลีกา

6. เจา กันเซโล (60 ล้านปอนด์)

ต้องบอกตรงนี้ก่อนว่าเขาไม่ใช่ผู้เล่นที่ไร้ฝีมือ แต่สิ่งที่ทำให้มันเป็นการเซ็นสุดแย่ก็เพราะว่าเขาเป็นคนที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูงและนั่นทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเขาและ กวาร์ดิโอลา ไม่ดีเท่าไหร่นัก 

สองฤดูกาลที่เขาอยู่กับซิตี้ต้องบอกว่าเขานั้นยอดเยี่ยมมากๆ แต่ทว่าก็มีการทะเลาะกับกวาดิโอลาร์อยู่บ่อยครั้งเช่นกัน และในศึกนี้จะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะชนะไปได้ ซึ่งนั่นก็คือหัวหน้าโค้ชนั่นเอง

5. คลอดิโอ บราโว (17 ล้านปอนด์)

หลังจากที่เข้ามาคุมซิตี้ได้ไม่นาน กวาร์ดิโอลา ก็ตัดสินใจทิ้ง โจ ฮาร์ท เพื่อไปนำผู้รักษาประตูคนใหม่เข้ามาเนื่องจากผู้รักษาประตูคนเก่านั้นใช้เท้าได้ไม่ดีนัก ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่ เป๊ป ต้องการ

หลังจากนั้นทีมก็ไปคว้าตัว บราโว เข้ามา แต่นั่นก็ยังไม่ตอบโจทย์เพราะเขาคนนี้ใช้เท้าไม่ได้และปรับตัวกับฟุตบอลอังกฤษได้อย่างยากลำบาก ไม่นานเขาก็ถูกดรอปเป็นสำรอง แต่เรื่องที่น่าสนใจก็คือเขาอยู่กับทีมจนถึงปี 2020 เลยทีเดียว

4. ดิมิโทร ชิกรินสกี้ (22 ล้านปอนด์)

ในฤดูกาลที่สองของ กวาร์ดิโอลา กับ บาร์เซโลนา เจ้าบุญทุ่มพยายามทุ่มเงินสร้างทีมตามชื่อเพื่อให้ เป๊ป ประสบความสำเร็จ และ ชิกรินสกี้ ก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่กาลเวลาเพียงไม่นานก็พิสูจน์ว่าเขานั้นเข้ากับระบบของ บาร์เซโลนา ไม่ได้ 

ถึงแม้ว่าผลลัพธ์ของทีมจะไม่ได้แย่ ชนะ 8 จาก 10 นัดที่เขาลงเล่นเป็นตัวจริง แต่ทว่าเขาก็ไม่สามารถดึงประสิทธิภาพของแผนออกมาได้อย่างเต็มที่จนต้องกลับทีมเดิมอย่าง ชัคตาร์ โดเนสก์ ไปในปีถัดมา

3. คัลวิน ฟิลลิปส์ (42 ล้านปอนด์)

ฟิลลิปส์ได้ย้ายมา ซิตี้ ช่วงหน้าร้อนปี 2022 ซึ่งถือว่าเมคเซนส์ไม่น้อยจากสไตล์การเล่นของเขากับ ลีดส์ ยูไนเต็ด และทีมชาติอังกฤษ ที่เหมาะกับซิตี้

แต่อาการบาดเจ็บต่างๆก็เริ่มถามหาเจ้าตัว รวมถึง เป๊ป ก็ได้ตั้งคำถามถึงการใช้ชีวิตของเขาอย่างเช่นการปล่อยให้น้ำหนักเกิน จนสุดท้ายเขาก็ไม่สามารถขึ้นมาเป็นตัวหลักให้กับทีมได้เลย

2. เบนจามิน เมนดี้ (52 ล้านปอนด์)

หลังจากที่จบฤดูกาลแรกไปด้วยการที่ไม่มีถ้วยติดมือ เป๊ปจึงได้ทุ่มเงินซื้อผู้เล่นหลายคนและหนึ่งในนั้นคือเมนดี้ ก่อนหน้าที่เขาจะซบซิตี้ เมนดี้คือกองหลังที่เฉิดฉายมากๆคนหนึ่งของโลกฟุตบอล แต่หลังจากนั้นก็มีแต่เรื่องตามมาไม่เว้น

เขาไม่สามารถโชว์ความมืออาชีพให้ เป๊ป ประทับใจได้เลย ยิ่งบวกกับอาการบาดเจ็บที่รุมเร้าก็ยิ่งทำให้โอกาสลงสนามของเขาน้อยลงไปอีก แุถมสุดท้ายก็ยังมาโดนเรื่องคดีความเรื่องข่มขืนที่เขาไม่ได้ทำอีก ก็ยิ่งทำให้การเซ็นสัญญาครั้งนี้ดิ่งลงเหวไปเรื่อยๆ

1. ซลาตัน อิบราฮิโมวิช (59 ล้านปอนด์)

ซลาตันคือผู้เล่นที่มีความมั่นใจในตัวเองสูงมากๆ และผลงานของเขาก็ยังทำได้ดีโดยกดไป 10 ประตูใน 4 เดือนแรก แถมยังมีประตูที่ยิงใส่ บาร์เซโลนา อีกด้วย

แต่ทว่าเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้คือสาเหตุทั้งหมดของเรื่องนี้ ด้วยอีโก้ที่ ซลาตัน มี และ เป๊ป ที่ไม่ยอมใครเหมือนกัน สุดท้ายความบาดหมางระหว่างกันนี้ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ทั้งสองคนนี้ต้องแยกทางกันถึงแม้ว่าฟอร์มของกองหน้ารายนี้จะดีแค่ไหนก็ตาม

ลุ้นรางวัลใหญ่ เชียร์ทีมชาติไทยถึงเกาหลีใต้

ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลฟุตบอลประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด

ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา

Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand