London is RED : อาร์เซนอลชนะเชลซี บทพิสูจน์ว่าทัพปืนใหญ่คือของจริง

11-07-2022
2นาทีที่อ่าน
SN Illustration

หากย้อนกลับไปในฤดูกาลก่อน อาร์เซนอลในยุค มิเกล อาร์เตต้า จะมีปัญหาใหญ่คือการที่พวกเขาไม่สามารถที่จะเอาชนะทีมใหญ่ได้เลย มีแค่ไม่กี่ครั้งที่พวกเขาทำสำเร็จ นั่นถือเป็นหนึ่งในเหตุผลที่สุดท้าย พวกเขาล้มเหลวในการคว้าตั๋วไปลุยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 

แต่ดูเหมือนว่าอาร์เซนอลในตอนนี้จะมีพัฒนาการดีมาก ๆ พวกเขากลายเป็นหนึ่งในทีมลุ้นแชมป์ การเอาชนะทีมใหญ่ในฤดูกาลนี้ ก็เกิดขึ้นสม่ำเสมอ 

ผลงานล่าสุด ในการบุกไปชนะเชลซี 1-0 ถึงสแตมฟอร์ด บริดจ์ เป็นเครื่องยืนยันได้ชัดเจนว่า อาร์เซนอลของอาร์เตต้าแข็งแกร่งขึ้นมาก ๆ ในตอนนี้ และดีที่สุดจากตลอดหลายปีที่ผ่านมา

อาร์เซนอลเหนือกว่าทุกอย่าง

วิธีการเล่นของอาร์เซนอล ในเกมที่บุกไปชนะเชลซี เรียกได้ว่าเหนือกว่าในทุกด้าน พวกเขามีแทคติคที่ดีอยู่แล้ว กับระบบ 4-2-3-1 ที่เล่นมาตลอดทั้งฤดูกาล 

แต่ในเกมนี้ การกลับมาของ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ แบ็คซ้ายที่เจ็บไปนาน ช่วยให้พวกเขาสามารถขึงเกมบุก และครอบครองบอลบุกใส่เชลซีได้อย่างต่อเนื่องมากกว่าเดิม

เพราะซินเชนโก้จากผังจะยืนเป็นตำแหน่งแบ็คซ้าย แต่ความเป็นจริงแล้วจะยืนในแดนกลางร่วมกับ โธมัส ปาร์เตย์ เพื่อช่วยลำเลียงบอลจากกลางขึ้นไปหน้าได้มากขึ้น รวมถึงคอยตัดเกมเก็บจังหวะสำคัญ ๆ เมื่อเชลซีจะบุกขึ้นมา 

Getty Images

นี่เป็นด่านสำคัญก่อนที่ไปถึงผู้เล่นแนวรับที่รออยู่ การตัดเกมสวนกลับเร็ว เป็นสิ่งที่ขาดหายไปเมื่อซินเชนโก้ไม่ได้ลงเล่น และทำให้พวกเขาเคยเสียท่ามาแล้ว แต่เมื่อเขากลับมา เราเห็นชัดเจนว่าอาร์เซนอลบุกได้อย่างต่อเนื่องมากแค่ไหน 

อาร์เซนอลสามารถครอบครองบอลได้โดยที่ไม่เสียง่าย ๆ มันส่งผลให้การบุกของพวกเขาต่อเนื่อง จนกดดันแนวรับเชลซีได้อย่างสม่ำเสมอ 

นี่คือวิธีการเล่นที่ใช้ของทีมใหญ่ คือต้องมีแทคติคชัดเจน และมีมาตรฐาน โดยที่สามารถทำได้ทุกนัด นี่คือพื้นฐานสำคัญของการมีผลงานอันยอดเยี่ยมในโลกฟุตบอล 

ผู้เล่นเกมรุกของอาร์เซนอลช่วยกันเล่นงานผู้เล่นริมเส้นของเชลซี กดเอาไว้เพื่อไม่ให้ขึ้นมาบุกใส่อาร์เซนอลได้ ฝั่งขวาเป็นหน้าที่ของ บูกาโย่ ซาก้า และซ้ายคือกาเบรียล มาร์ติเนลลี่ 

ขณะที่กองหน้าอย่าง กาเบรียล เฆซุส มีอิสระมาก ๆ ในการดึงตัวประกบ พยายามเปลี่ยนตำแหน่งอยู่เรื่อย ๆ เพื่อดึงผู้เล่นเชลซีให้ออกมาจากตำแหน่งในหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งชัดเจนว่ามันสำเร็จไปได้ด้วยดี เฆซุสมีโอกาสได้จบสกอร์หลายต่อหลายครั้ง

(Getty Images)

สิ่งเหล่านี้ทำให้เห็นถึงความห่างชั้นของอาร์เซนอล และเชลซีในตอนนี้ แสดงให้เห็นชัดเจนว่าทีมอาร์เซนอลเป็นทีมในระดับลุ้นแชมป์แล้ว ขณะที่ฝั่งเชลซีกลายเป็นทีมที่ลุ้นแค่พื้นที่ฟุตบอลยุโรปในฤดูกาลนี้ไปแล้ว  

เชลซีออกลูกมึน

การจัดทัพมาของเชลซีเหมือนว่าจะไม่ได้มีอะไรผิดแปลกมากมายนัก เมื่อ แกรห์ม พอตเตอร์จัดทีมมาในระบบ 4-2-3-1 โดยผู้เล่นแต่ละคนดูเหมือนว่าจะได้ลงเล่นในตำแหน่งทที่พวกเขาถนัด 

ส่วนหนึ่งคือเหล่ากองหลังได้กลับมาเล่นเป็นแผงหลัง 4 คนอีกครั้ง หลังจากฝืนเล่นกองหลัง 3 คนมาพักใหญ่ แต่แนวรับไม่ใช่ปัญหาอย่างเดียวที่เชลซีต้องแก้ไข เพราะในเกมรุกหนักกว่านี้หลายเท่า 

Scroll to Continue with Content

ความสับสนของผู้เล่นในแนวรุกเชลซีเกิดขึ้น เพราะผู้เล่นหลายคนต้องรับหน้าที่แบบแปลก ๆ เริ่มจากราฮีม สเตอร์ลิง วันนี้เขาได้เล่นเป็นตัวริมเส้นฝั่งขวา แต่แทนที่จะต้องดูแลแต่เกมรุก เขาต้องวิ่งขึ้นสุดลงสุดคล้ายกับผู้เล่นในตำแหน่งวิงแบ็ค และเป็นอีกครั้งที่เขาทำออกมาได้ไม่ดี 

คนต่อมาคือ เมสัน เมาท์ ผู้เล่นที่ถ้าตามตำแหน่งถูกวางเป็นผู้เล่นในตำแหน่งปีกซ้าย ซึ่งเขาทำได้ดีอยู่แล้ว อย่างการตัดเข้าเท้าขวาแล้วยิงจากนอกกรอบ หรือการเปิดบอลจากพื้นที่ทางซ้าย เขาทำได้ดีเสมอ

แต่ในความเป็นจริง เมาท์ไม่ได้เล่นปีกซ้าย แต่ต้องเล่นเป็นกลางรุกกลางสนามปั้นเกม และต้องถอยมาเล่นเกมรับ เพื่อช่วยป้องกันแนวรุกของอาร์เซนอลเพิ่มเติมอีก งานของเขาดูมีมากมายไปหมด จนสุดท้ายไปไม่สุดสักทาง ทั้งรุก และรับ

Getty Images

สุดท้ายคือ ไค ฮาแวร์ตซ์ ที่ในวันนี้เขาถูกวางเป็นผู้เล่นหมายเลข 10 คอยบัญชาเกมรุก แต่ในความจริงเขาต้องขยับไปซ้อนทั้งเมาท์ และ สเตอร์ลิงอยู่เสมอ 

ด้วยรายละเอียดมากมาย แถมยังชวนมึนหัว จึงเป็นเรื่องปกติที่นักเตะเชลซีจะไม่เข้าใจสิ่งที่พอตเตอร์สั่ง จนเกิดความสับสนวุ่นวายภายในทีม เกมรุกสร้างไม่ได้ แน่นอนมันก็จะลำบากเกมรับต้องมาถูกเล่นงานอย่างต่อเนื่องโดยแนวรุกอาร์เซนอล จนสุดท้ายทุกอย่างมันก็พังทั้งหมด  

มีเพียง ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง คนเดียวเท่านั้นที่น่าจะสบายใจในการเล่นมากที่สุดเพราะเขาได้เล่นเป็นกองหน้าตัวเป้าตามปกติ แต่ก็ไม่มีความหมาย เพราะเขาไม่ได้เป็นตัวอันตราย กดดันอาร์เซน่อลได้เลย

อาร์เซนอลคือทีมที่ดีกว่า 

แทคติคที่อาร์เตต้าจัดมา ดูเหมือนว่า ไม่ต่างจากเดิมมากนัก แต่รายละเอียดที่เขาได้ใส่ให้กับนักเตะนั้น ทำให้นักเตะรู้ว่าต้องเจอกับอะไรบ้างในเกมนี้ 

จะเห็นได้ว่าผู้เล่นอาร์เซนอลเมื่อเจอปัญหา เขารู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป ในจังหวะที่กำลังถูกรุมเล่นงาน ต่างกับผู้เล่นฝั่งเชลซีโดยสิ้นเชิงที่มีแต่ความสับสน ไม่รู้ว่าจังหวะนี้ควรแก้ไขอย่างไร และเมื่อเจอปัญหาจะต้องทำอย่างไรบ้าง 

นอกจากนี้สิ่งที่อาร์เซนอลมีเหนือกว่าเชลซีคือความดุดันในการเล่น พวกเขาพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ในเกมนี้พวกเขาจบลงที่ชัยชนะ พวกเขาต้องเจอปัญหาในการสร้างโอกาสได้ แต่จบไม่คมสำหรับเกมนัดนี้ แต่ก็ยังพยายามที่จะสร้างโอกาสทำประตูต่อไปเรื่อย ๆ แบบที่ไม่หยุดวิ่งเข้าใส่ผู้เล่นฝั่งเชลซี ชิงบอลกลับมาแล้วเอากลับไปบุกต่ออีกครั้ง จนทำประตูได้ในที่สุด

ด้วยสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ทำให้เห็นว่าอาร์เซนอลดีขึ้นมากมายแค่ไหน และพวกเขาคู่ควรกับการเป็นผู้ชนะในเกมนัดนี้

Getty Images

  

เราคงพูดได้เต็มปากแล้วว่าอาร์เซนอลของอาร์เตต้า คือทีมที่ดีพอที่จะขึ้นไปลุ้นแชมป์กับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ความสม่ำเสมอที่พวกเขามี และการเล่นที่ยกระดับขึ้นมาได้อย่างยอดเยี่ยม เกมชนะเชลซีคือเครื่องการันตีว่าจนถึงตอนนี้ อาร์เซนอลได้ยกระดับแล้ว และพวกเขากำลังมาในทางที่ถูกต้อง

NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก