ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เดินหน้าอยู่เสมอ พวกเขาอยู่ในจุดที่เป็นทีมกำลังพัฒนาเพื่อล่าความสำเร็จมาหลายปี พยายามในหลากหลายวิธีเพื่อที่จะเข้าใกล้การคว้าแชมป์มากขึ้น
สเปอร์สใช้โค้ชฝีมือดีมาก็หลายคน จากเมาริซิโอ โปเช็ตติโน่, โชเซ มูรินโญ่ ก่อนจะมาเป็นอันโตนิโอ คอนเต้
อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขาได้ยอดโค้ชฝีมือดีมาช่วยทีมแล้ว แต่มันยังไม่สามารถที่จะคว้าแชมป์มาประดับตู้โชว์ของสโมสรได้เลย
มากไปกว่านั้นยังมีปัญหาให้ปวดหัวตามมาอีกมากมายอีกด้วยหลังจากจบไม่สวยกับโค้ชระดับโลกอย่าง 2 รายหลังทั้งมูรินโญ่ หรือ คอนเต้ จนต้องมีการเปลี่ยนโค้ชกันหลายรอบในช่วงฤดูกาลนั้น
สเปอร์สต้องการผู้จัดการทีมสักคน ที่จะมาช่วยพาทีมของพวกเขาไปให้ไกลกว่าเดิม ก็คือการลุ้นแชมป์ หรือการคว้าแชมป์ได้สักที โอกาสนั้นเป็นของผู้จัดการทีมคนต่อไปอย่าง อังเก้ ปอสเตโคกลู ที่มีประสบการณ์ช่วยให้เซลติกสามารถคว้าแชมป์มาครองได้ 5 แชมป์จากใน 2 ฤดูกาลหลังสุด กับวงการฟุตบอลสกอตแลนด์ รวมถึงเคยคว้าแชมป์เจลีก ในญี่ปุ่น และพาทีมชาติออสเตรเลียคว้าแชมป์เอเชียมาแล้ว
แต่แน่นอนว่างานหนักรอเขาอยู่ เพราะที่สเปอร์สมีปัญหามากมายให้อังเก้ต้องแก้ไข ในแบบฉบับที่เขาไม่เคยเจอมาก่อน
อังเก้ ปอสเตโคกลู กับปัญหามากมายของสเปอร์สที่ต้องรีบแก้ไข
ปัญหาเรื่องแฮร์รี่ เคน
เป็นเรื่องที่ต้องมาพูดกันแทบทุกฤดูกาลเมื่อถึงตลาดนักเตะในช่วงซัมเมอร์ กับการย้ายทีมของ แฮร์รี่ เคน กองหน้าตัวความหวังทีมชาติอังกฤษ ที่ทำหน้าที่เป็นนักเตะคนสำคัญมาก ๆ ของสเปอร์ส ตลอดหลายฤดูกาลที่ผ่านมา
โดยในวัย 29 ปี ที่กำลังจะ 30 ในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้ ส่งผลให้หลายอย่างมันเข้ามากดดันไปที่เคนว่า เขาจำเป็นต้องเลือกว่าจะอยู่ต่อเพื่อช่วยให้สเปอร์สไปถึงแชมป์ หรือจะเลือกย้ายไปในทีมที่มีทรัพยากรพร้อมมากกว่าในการไปถึงแชมป์
ในช่วงซัมเมอร์นี้แน่นอนว่า มีหลายทีมเข้ามาสนใจกองหน้ารายนี้ ไม่ว่าจะเป็นบาเยิร์น มิวนิคที่ยังหาตัวแทนของโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ไม่ได้, เรอัล มาดริดที่ต้องหาตัวแทนคาริม เบนเซม่า ที่พึ่งย้ายไปอยู่ในลีกฟุตบอลประเทศซาอุดิอาระเบีย และแน่นอนกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดที่เล็งคว้าแฮร์รี่ เคน มานานแล้ว
ทำให้สถานการณ์ไม่สู้ดีนักกับฝั่งสเปอร์ส เพียงแต่ว่าโชคดีหน่อยที่ดูเหมือนว่าเคนไม่ได้อยากย้ายออกนอกประเทศอังกฤษ เขาต้องการทำสถิติดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีกให้ได้
หมายความว่าเขาอาจจะเหลือตัวเลือกเพียงอยู่ต่อกับสเปอร์ส หรือย้ายไปอยู่กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเท่านั้น
ความสำคัญของเขากับสเปอร์ส มีให้เห็นชัดเจนมาเสมอตลอดหลายฤดูกาลที่ผ่านมา แม้ว่าสเปอร์สจะฟอร์มหลุดยังไงก็ตามในฤดูกาลล่าสุด แต่เขาเดินหน้าผลิตสกอร์จนเป็นรองดาวซัลโวพรีเมียร์ลีกกับการทำไปมากถึง 30 ประตูเลยทีเดียว ซึ่งควรได้ดาวซัลโวของลีกแล้ว หากไม่มีเออร์ลิง ฮาลันด์
หากสเปอร์สเสียเขาไปลำบากแน่นอน เพราะแปลว่าพวกเขาต้องหาตัวแทนที่เหมาะสมที่จะเข้ามาช่วยเพื่อให้ทีมมีการยิงประตูได้อย่างต่อเนื่อง ยิงประตูเยอะทุกฤดูกาล มันแทบจะไม่มีทางเลยที่พวกเขาจะหากองหน้าระดับนี้มาร่วมทีมได้ง่ายๆ โดยเฉพาะกับสถานการณ์ทีมตอนนี้
ดังนั้นหากอังเก้อยากได้ทีมที่พร้อมบินฉิวในทันที เขาก็ต้องหาวิธีการอะไรก็ได้ เพื่อรั้ง แฮร์รี่ เคน ไว้ให้ได้
ปัญหาเรื่องเกมรับ
สเปอร์สยิงได้ 70 ประตูในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลล่าสุด ถือว่าพวกเขาก็ยังพอทำได้ดีในเกมรุก แต่กับเกมรับแล้วการเสียมากถึง 63 ประตู คือสัญญาณบอกว่าพวกเขาดีไม่พอกับการเป็นทีมลุ้นแชมป์
การเสียประตูง่าย ๆ ยืนเหม่อ หรือสมาธิเสียไปเพียงเสี้ยววินาทีนั้นส่งผลไปถึงผลการเสียประตูเสมอสำหรับสเปอร์ส
เราเห็นกันจนชินตาที่สเปอร์ส กับความผิดพลาดที่เกิดกับกองหลังของพวกเขา จนไม่แปลกว่าสเปอร์สจะไม่สามารถทำแต้มได้มากพอที่จะไปเล่นฟุตบอลยุโรปในฤดูกาลหน้า
โดยในประเด็นการยกเครื่องเกมรับ ก็แบ่งออกเป็นการหาผู้เล่นใหม่มาทดแทนผู้เล่นแนวรับที่มีอยู่ในตอนนี้ ซึ่งถือว่าคุณภาพต่ำพอสมควรหากเทียบกับทีมแถวหน้าทีมอื่น ซึ่งสะท้อนผ่านตัวเลขการเสียประตู และผลงานในสนามออกมาอย่างชัดเจน
หรืออีกทางแก้ก็คือ อังเก้ ปอสเตโคกลู จะต้องมีวิธีการเด็ดมาเรียกฟอร์มจากแนวรับชุดนี้ขึ้นมา ซึ่งดูแล้วค่อนข้างยาก เพราะไม่ใช่ว่าแนวรับชุดนี้พึ่งรวมตัวกัน แต่พวกเขาอยู่ด้วยกันมาพักใหญ่แล้ว หากเล่นไม่เข้ากัน หรือไม่เหมาะกับทีมก็อาจถึงเวลาที่จะต้องแยกย้าย ล้างไพ่สร้างทีมรับของสเปอร์สขึ้นมาใหม่
ปัญหาของความเป็นผู้ชนะ
การที่สโมสรที่หลายคนบอกว่าเป็น BIG 6 ของพรีเมียร์ลีกอย่างสเปอร์ส กลับไม่สามารถคว้าแชมป์มาได้นานถึง 15 ปี
แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้คุ้นชินกับสถานการณ์กดดัน เมื่อถึงช่วงสำคัญที่จำเป็นจะต้องหาชัยชนะมาให้ได้ พวกเขากลับทำพลาดจนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ซึ่งเคยเกิดขึ้นมาหลายครั้ง
ทั้งตอนที่ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกกับเลสเตอร์ ซิตี้ในฤดูกาล 2015-16 หรือแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับลิเวอร์พูลในนัดชิงชนะเลิศ 2018-19
พวกเขาจากเดิมที่มีศักยภาพทีมยอดเยี่ยม และเชื่อได้เลยว่าไม่ไกลเกินเอื้อมที่พวกเขาจะสามารถคว้าแชมป์รายการนั้น ๆ มาครองได้สำเร็จ กลับพลาดแหกโค้งในช่วงสุดท้าย จน DNA การพลาดแชมป์ กลายเป็นเรื่องปกติของสเปอร์ส แทนที่จะเป็นการประสบความสำเร็จแบบที่สโมสรต้องการ
ซึ่งสิ่งนี้คือส่วนที่ อังเก้ ปอสเตโคกลู จำเป็นที่จะต้องมีการแก้ไขโดยด่วน เพื่อให้นักเตะเชื่อมั่นว่าพวกเขาจะสามารถไปถึงแชมป์ได้
แน่นอนว่าเรื่องดีก็คือ ปอสเตโคกลู ไม่ใช่ผู้จัดการทีมที่ไร้ประสบการณ์ เขาเดินหน้าลุยงานยกระดับทีมมาได้แทบทุกงานที่เขาทำ แน่นอนนั่นรวมถึงการคว้าแชมป์มาประดับบารมีด้วย
ไม่ว่าจะตอนที่คุมทีม โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส หรือ เซลติก รวมถึงทีมชาติออสเตรเลีย โดยเฉพาะเซลติกที่ในฤดูกาลล่าสุดเขาพาทีมล่า 3 แชมป์ภายในประเทศไปได้แบบสุดโหด
ความสำเร็จของอังเก้ อาจเป็นการจุดประกายให้นักเตะของสเปอร์ส ลุกขึ้นมาสู้มากขึ้น แต่ที่สำคัญคืออังเก้ต้องมีวิธีการที่ดีเช่นกัน ที่จะชนะใจนักเตะสเปอร์สให้ได้
เพราะ โชเซ มูรินโญ่ และ อันโตนิโอ คอนเต้ สองผู้จัดการทีมที่มีชื่อเสียงโด่งดังมากกว่าอังเก้ ประสบความสำเร็จมากกว่า มีประสบการณ์มากกว่า แต่งานปลุกทีมสเปอร์สนั้นผลจบลงด้วยความล้มเหลวทั้งคู่
เส้นทางยังอีกไกล สำหรับการสร้างรากฐานใหม่ให้กับสเปอร์ส นำโดย อังเก้ ปอสเตโคกลู เขาพึ่งเข้ามารับตำแหน่งได้ไม่นาน โชคดีหน่อยที่คราวนี้เขาอาจมีแรงกดดันไม่มากนัก จากโปรไฟล์ของเขากับงานที่เคยทำมาในอดีต
อย่างไรก็ตามถือว่าน่าติดตามว่าเขาจะกลายเป็นคนที่พาสเปอร์สกลับมาเป็นทีมระดับลุ้นแชมป์ได้หรือไม่ในฤดูกาลหน้า หรือจะเป็นแค่โค้ชที่เอาชื่อมาทิ้งกับทัพไก่เดือยทอง
บทความโดย : ณพันธ์ สุขนพกิจ (กรอบเขตโทษ/Domo97)
บทความที่เกี่ยวข้อง : รู้จัก อังเก้ ปอสเตโคกลู : โค้ชใหม่ของสเปอร์ส
บทความที่เกี่ยวข้อง : อังเก้ ปอสเตโคกลู ผู้ติดตั้ง ระบบ “Inverted Wing Back” ให้ ธีราทร บุญมาทัน