อาร์เจนตินาต้องระวัง! เนเธอร์แลนด์พร้อมหยุดทัพฟ้าขาวผ่านเกมกับสหรัฐฯ

12-08-2022
2นาทีที่อ่าน
Anadolu Agency via Getty Images

อาร์เจนตินาคือหนึ่งในทีมที่ใคร ๆ ก็คาดการณ์ว่า มีโอกาสเป็นแชมป์โลก แต่พวกเขาอาจน้ำตาตกได้ง่าย ๆ หากประมาทเนเธอร์แลนด์ ทีมยักษ์ใหญ่ที่หลายคนไม่ได้ให้ราคาในการลุ้นแชมป์โลกปีนี้ เพราะมีฟุตบอลที่ไม่สนุกของพวกเขา

แต่ทีมที่ถูกทุกคนมองข้าม กำลังจะเป็นม้ามืดของทัวร์นาเมนต์ที่ใครหลายคนตามหา เมื่อพวกเขาสามารถแก้ไขสถานการณ์ลำบาก และหาวิธีในการเอาชนะคู่แข่งมาได้เสมอ

โดยในการแข่งขันรอบ 16 ทีมสุดท้าย ที่เนเธอร์แลนด์ เอาชนะ สหรัฐอเมริกา 3-1 ฟาน กัล เลือกใช้วิธีการที่น่าสนใจในการหยุดความร้อนแรงของทีมชาติสหรัฐอเมริกา และกลายเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะ แม้จะแทบไม่ได้ครองบอลเลยก็ตาม และอาร์เจนตินาที่มีวิธีการเล่นไม่ต่างจากสหรัฐฯ มากนัก ควรระวังไว้ให้ดี 

สหรัฐเล่นอย่างไร ?

ก่อนที่จะไปรู้ถึงวิธีการจัดการทีมชาติสหรัฐอเมริกาของหลุยส์ ฟาน กัล เราจำเป็นต้องเข้าใจวิธีการสร้างทีมของ เกร็กก์ เบอร์ฮัลเตอร์ กุนซือทีมยูเอสเอกันเสียก่อน 

เพราะแน่นอนว่า ผลงานของพวกเขาในฟุตบอลโลก 2022 เกินความคาดหมายของใครหลายคน เนื่องจากทีมชาติสหรัฐอเมริกาในฟุตบอลโลก 2018 แสดงผลงานได้ย่ำแย่ จนไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะเล่นดีในอีกสี่ปีถัดมา 

แต่เนื่องจากสหรัฐอเมริกากำลังจะได้เป็นเจ้าภาพในฟุตบอลโลกคราวหน้า ทุกฝ่ายจึงทำงานหนักเพื่อเตรียมพร้อมให้นักเตะของพวกเขา มีศักยภาพที่จะสร้างคามสำเร็จบนเวทีฟุตบอลโลก 2026 นั่นจึงเป็นเหตุผลให้ในขณะนี้ นักเตะส่วนใหญ่ของทีมชาติสหรัฐอเมริกา ต่างลงเล่นในลีกดังของยุโรปกันแล้ว

เมื่อนักเตะมีคุณภาพ แทคติกของทีมชาติสหรัฐในบอลโลกคราวนี้จึงเข้าใจง่าย พวกเขาฉวยโอกาสจากการเป็นทีมวัยรุ่น ผ่านการใช้ฟุตบอลวิ่งสู้ฟัดในทุกพื้นที่ นำโดย ไทเลอร์ อดัมส์ กองกลางจากลีดส์ ยูไนเต็ด ที่รับบทหนักควบคุมพื้นที่แดนกลางแทบ 

ส่วนมิดฟิลด์อีก 2 คน อย่าง เวสตัน แม็คเคนนี่ และยูนุส มูซาห์ จะรับหน้าที่ประสานงานกับผู้เล่นริมเส้น ส่งผลให้การโจมตีคู่แข่งทางริมเส้นของสหรัฐอเมริกา พวกเขาจะมีผู้เล่นมากถึง 3 คน ได้แก่ ปีก,ฟูลแบ็ค และกองกลางอีกหนึ่งคนที่เข้าไปเสริมทีม 

และด้วยวิธีการเหล่านี้เอง การโจมตีคู่แข่งจากพื้นที่ริมเส้นจึงเป็นอาวุธหลักของสหรัฐอเมริกาชุดนี้ ยิ่งเมื่อบวกความจริงที่ผู้เล่นฝีเท้าดีที่สุดของพวกเขา คือ คริสเตียน พูลิซิช แนวรุกริมเส้นจากเชลซี ที่ยังคงเป็นความหวังอันดับหนึ่งของทีมเสมอมา 

(Getty Images)

การโจมตีริมเส้นของสหรัฐอเมริกา จึงสามารถฉวยประโยชน์จากฝีเท้าของนักเตะรายนี้อยู่สม่ำเสมอ เนื่องจากพูลิซิชจึงรับหน้าที่หลักเป็นการสร้างสรรค์เกมรุกให้ทีมชาติสหรัฐอเมริกา รวมถึงทำหน้าที่จบสกอร์ในจังหวะสำคัญ เหมือนกับที่เขายิงประตูชัยในเกมชนะอิหร่าน 1-0  

แม้การสร้างแทคติกโจมตีริมเส้นอย่างหนักหน่วง จะทำให้สหรัฐอเมริกามีจุดอ่อนสำคัญของพื้นที่กลางสนาม แต่ด้วยระบบวิ่งสู้ฟัด และประสิทธิภาพของอดัมส์ที่ทำผลงานอย่างยอดเยี่ยม สหรัฐอเมริกาจึงหวังว่าพวกเขาจะต่อกรกับเนเธอร์แลนด์ได้ ตราบใดที่จุดอ่อนตรงนี้ไม่ถูกโจมตี 

ไม่ต่างกันกับอาร์เจนตินา พวกเขาเน้นสร้างเกมบุกจากริมเส้นเช่นกัน และมีจุดอ่อนที่พื้นที่แดนกลางเหมือนกัน นี่คือสิ่งที่อาร์เจนตินา จะพลาดไม่ได้เด็ดขาด

ทำลายจุดสำคัญ

โชคร้ายของทีมชาติสหรัฐอเมริกาที่ตลอดสามเกมในรอบแรก พวกเขาต่างเล่นแทคติกเดียวกันทั้งหมด นั่นจึงทำให้ หลุยส์ ฟาน กัล ค้นพบวิธีการแก้หมากได้แบบไม่ยากเย็นนัก 

โดย ฟาน กัล แทบจะมองออกในทันทีว่า จุดแข็งของกองกลางทีมชาติสหรัฐอเมริกา คือ ไทเลอร์ อดัมส์ … ฟาน กัล เลยจัดให้กองหน้าคู่ของเขา ทั้ง เมมฟิส เดปาย และโคดี้ กัคโป วิ่งเคลื่อนที่เพื่อดึงให้อดัมส์ออกจากตำแหน่งอยู่เวลาตลอด 

Scroll to Continue with Content
Getty Images

เพียงเท่านี้ ทีมชาติสหรัฐอเมริกาจึงไม่สามารถครองบอลได้ต่อเนื่องอย่างที่ควรจะเป็น แต่ประสิทธิภาพของคู่หูเดปาย-กัคโป สามารถสร้างบาดแผลแก่ทีมยูเอสเอได้มากกว่านั้น 

เมื่อทั้งคู่วิ่งปิดช่องทางการจ่ายบอลจากกองหลังสู่กองกลาง ส่งผลให้พวกเขาถูกบังคับเดินเกมทางริมเส้นเท่านั้น 

และถึงแม้การเล่นทางริมเส้นจะเป็นวิธีการถนัดของสหรัฐอเมริกา แต่กับดักที่ฟาน กัล วางไว้เพื่อรับมือ คือแผนการเล่นแบบประกบตัวต่อตัว ซึ่งเป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้ผู้เล่นเนเธอร์แลนด์ครองบอลได้น้อยในเกมนี้ เพราะพวกเขาใช้เวลาไปกับการตามติดผู้เล่นของสหรัฐอเมริกา 

ส่วนที่เหลือหลังจากนี้ เนเธอร์แลนด์แค่เพียงรอคอยอย่างอดทน จนกว่าพวกเขาจะพบเจอจังหวะที่เหมาะสมในการโจมตีที่สุดต่อไป ซึ่งเมื่อจังหวะเหล่านั้นมาถึง ขุนพลอัศวินสีส้มก็สามารถลงโทษสหรัฐอเมริกาได้จริง ๆ

หลอกล่อจนได้ประตู

ตลอดทั้งเกมที่เนเธอร์แลนด์เอาชนะสหรัฐอเมริกา 3-1 เราจะเห็นกันอย่างชัดเจนว่า ฝ่ายหลังมีปัญหาในการโจมตีพื้นที่สุดท้าย เพราะแม้แต่ คริสเตียน พูลิซิช ยังไม่สามารถวิ่งสอดในพื้นที่ด้านหลังแนวรับได้ คนอื่นคงหมดโอกาสด้วยเช่นกัน

นักเตะของเนเธอร์แลนด์ยืนรับกันต่ำมาก เพื่อปิดโอกาสเสียประตูให้มากที่สุด ด้วยเหตุนี้ทีมชาติสหรัฐอเมริกาที่ครอบครองบอลได้มากกว่า จึงแก้ปัญหาผ่านการดันผู้เล่นขึ้นไปด้านหน้าอย่างหนัก เพื่อกดดันแนวรับเนเธอร์แลนด์ให้เสียกระบวน 

ทางกลับกัน ฝั่งเนเธอร์แลนด์ซึ่งกำลังตกอยู่ในสถานการณ์หลังพิงฝา พวกเขาจะมีพื้นที่ในการเล่นโต้กลับเยอะมาก ๆ และนี่คือแผนการที่เหมาะสมกับผู้เล่นอย่าง โคดี้ กัคโป และเมมฟิส เดปาย เมื่อบวกกับการโจมตีของวิงแบ็คสองฝั่ง ทั้ง เดนเซล ดุมฟรีส์ และดาลีย์ บลินด์ เกมรุกของเนเธอร์แลนด์จึงอันตรายมากจริง ๆ

เมื่อย้อนกลับไปดูทั้งสามประตูที่สหรัฐเสียให้แก่เนเธอร์แลนด์ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาพลาดจากการเปิดพื้นที่เดิม ๆ ให้คู่แข่งได้โจมตี ยิ่งฝีเท้าของนักเตะฝั่งเนเธอร์แลนด์เหนือกว่าสหรัฐอเมริกามาก การจะหลอกกองหลังฝ่ายตรงข้ามให้หัวหมุน ย่อมไม่ใช่งานยากเกินไปของแข้งอัศวินสีส้ม

นั่นจึงทำให้ตลอดการแข่งขัน สหรัฐอเมริกาที่เป็นฝ่ายครองบอลได้เหนือกว่า จึงไม่สามารถครองเกมได้เลย ทุกอย่างเป็นของอัศวินสีส้มทั้งหมด และเนเธอร์แลนด์กลายเป็นฝ่ายคว้าชัยในเกมนี้ อย่างที่ควรจะเป็น

เนเธอร์แลนด์ที่ไม่เคยคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกได้เลยแม้แต่ครั้งเดียว แม้ว่าจะเคยมีทีมที่ยอดเยี่ยมระดับตำนานมาแล้ว คราวนี้พวกเขามาด้วยผู้เล่นที่ดี และผู้จัดการทีมอย่างหลุยส์ ฟาน กัล ที่มาพร้อมด้วยวิธีการน่าสนใจ 

หากพวกเขายกระดับการเล่นขึ้นมาได้อีกขั้น การที่มันจะจบลงด้วยการคว้าแชมป์โลกสมัยแรกมันก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกนัก นี่จึงอาจเป็นเวลาของพวกเขาแล้วจริง ๆ ก็ได้

เช่นกันกับอาร์เจนตินา ฝันของเขาอาจพังได้ง่าย ๆ หากประมาททีมชาติเนเธอร์แลนด์ชุดนี้

NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก