มิกกี้ แมทเทิล 1952 : การ์ดเบสบอลสถิติโลกราคา 462 ล้านบาท ที่แพงกว่าเสื้อหัตถ์พระเจ้าของมาราโดน่า

09-03-2022
1นาทีที่อ่าน
(Heritage Auctions)

สำหรับคนที่ชอบกีฬาเบสบอล อาจจะไม่มีอะไรมาแทนความรู้สึกของการได้เป็นเจ้าของการ์ดของ มิกกี้ แมทเทิล ในปี 1952 อีกแล้ว ถ้าคุณไม่รู้ก็ไม่เป็นไร เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะได้เป็นเจ้าของของมัน 

นี่คือการ์ดเบสบอลที่มีคุณค่ามาตั้งแต่ยุค 1950s ผมยังรู้สึกขนลุกอยู่จนถึงตอนนี้ที่ได้มีสิ่งล้ำค่าแบบนี้มาเป็นส่วนหนึ่งในคอลเลคชั่นสะสมของผม 

ตอนที่ข่าวการ์ดประมูลการ์ดใบนี้ในราคามากกว่า 462 ล้านบาทออกไป มันทำให้ผมนึกถึงอดีตในปี 1952 ความทรงจำอีกมากมายเกี่ยวกับการ์ดใบนี้ ผมเชื่อว่าไม่ใช่ทุกคนที่เจ้าใจถึงความหมายของการ์ดเบสบอลที่มีมูลค่าตั้ง 462 ล้านบาท 

แต่เงิน 462 ล้านบาทตรงนี้ ไม่ใช่แค่การสร้างสถิติใหม่ในฐานะการ์ดกีฬาที่แพงที่สุด แต่เป็นของสะสมกีฬาที่แพงที่สุดตลอดกาล ชนะเสื้อแมทช์วอร์นของดีเอโก้ มาราโดน่า นักฟุตบอลชาวอาร์เจนติน่าชื่อดัง ที่ใส่เสื้อตัวนี้ในเกมที่ทำหัตถ์พระเจ้าในฟุตบอลโลก ที่ถูกประมูลไป 341 ล้านบาท เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

ส่วนในการ์ดกีฬา ก็ทำลายสถิติเดิมของการ์ดของโฮนัส แว๊กเนอร์ นักเบสบอลในตำนานที่ออกเมื่อปี 1906 และถูกประมูลไปในราคา 266 ล้านบาท ที่ถูกประมูลไปในช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา

ตอนข่าวออกไปผมไม่แปลกใจที่เพื่อนของผมจะส่งข้อความมาบอกว่าทำไมราคามันถึงบ้าคลั่งขนาดนี้? ราคาเพิ่งขึ้นจากสถิติเก่าเกือบ 2 เท่า มันจะหยุดอยู่ที่ตรงนี้ใช่ไหม? 

คำตอบของผมสั้นและง่าย นั่นคือ มันจะไม่หยุดแค่นี้

เหตุผลเพราะย้อนไปตอนปี 2020 ที่วงการการ์ดบูมช่วงที่มีโรคระบาด ผมได้คุยกับเจสัน โฮวาร์ธ ผู้บริหารฝ่ายการตลาดของ Panini ซึ่งเขาได้บอกว่าทุกวันนี้การเก็บการ์ดสะสมกลายเป็นความนิยมระดับโลก ซึ่งผมว่ามันเป็นแนวคิดที่น่าสนใจนะ

แต่สำหรับผมเรื่องการสะสมการ์ดมันไม่ใช่เรื่องของเงินหรอก มันเป็นเรื่องของความสนุก คุณลองเข้าเว็บ eBay บางคนซื้อการ์ดมา 70 บาท ขายไป 175 บาท บางคนซื้อมา 175 บาท ขายไป 350 บาท มันคือความสนุกของการสะสม

มันก็เหมือนกับการเป็นนักเบสบอลนั่นแหละ ไม่ใช่ทุกคนที่จะได้สัญญามหาศาล แต่คุณก็ยังอยากเป็นนักเบสบอลเพราะมันสนุก การสะสมการ์ดก็เหมือน ๆ กัน

ทุกอย่างมันคือเรื่องของโอกาสเสมอ การ์ดที่คุณซื้อวันนี้ อาจจะแพงขึ้นก็ได้ มันไม่ได้เกิดขึ้นได้ง่ายหรอก แต่ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้

เพราะมันคือความหวัง มันคือความเป็นไปได้ และมันคือการสะสม