ถึงแม้ว่าเกมนัดเปิดฤดูกาลจะดูขาดด้วยการที่ นักเก็ตส์ เอาชนะ เลเกอร์ส ไปได้ถึง 12 คะแนน ด้วยแต้ม 119-107 แต่หากได้ดูเต็มๆจะรู้เลยว่านี่ไม่ใช่เกมที่ฝั่งไหนจะเอาชัยชนะกลับบ้านไปได้ง่ายๆ และแน่นอนว่าการแก้เกมก็เป็นหน้าที่สำคัญของโค้ช ซึ่งเกมนี้ก็ต้องให้คำชมกับ ไมค์ มาโลน หัวหน้าโค้ชของ นักเก็ตส์ อยู่ไม่น้อย
หากดูจากโฟลวของเกม นักเก็ตส์จะเป็นฝ่ายขึ้นนำอยู่ตลอด แต่ทางด้าน เลเกอร์ส ก็ไม่เคยถอย พยายามไล่ตามกลับมาได้เรื่อยๆ โดยเฉพาะช่วงกลางควอเตอร์สี่ที่ทัพม่วงทองไล่บี้มาอีกครั้งจนเหลือ 7 คะแนน จนทำให้ นักเก็ตส์ ต้องขอเวลานอก และหลังจากนั้นมันก็กลายเป็นช่วงเวลาทองของทีมเจ้าบ้านทันที
ไมค์ มาโลน และผู้เล่น ใช้แผนอะไรในการฝังเลเกอร์ส? ติดตามไปพร้อมกับเราได้ที่นี่
NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก
เปิดแผนเด็ดท้ายเกมเดนเวอร์ ส่ง เลเกอร์ส พ่ายนัดเปิด NBA
ในช่วง 5:15 วินาที สุดท้ายของเกม ที่ทางด้านของ นักเก็ตส์ นำอยู่ 103-96 คะแนนนั้น มาโลนเห็นท่าว่าจะไม่ดีเพราะ เลเกอร์ส ทำไปแล้ว 5 แต้มติดๆกัน หากไม่หยุดการไหลของเกมตอนนี้ ทีมอาจเสียหายมากกว่าที่คิด เจ้าตัวจึงขอเวลานอก และได้คิดแผนเกมรุกขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
และนั่นก็คือการใช้สามประสาน นิโคลา โยคิช, จามาล เมอร์รีย์ และ เคนทาเสียส คาล์ดเวลล์-โป๊ป ในการเริ่มต้นเกมรุกครึ่งสนาม ซึ่งมันก็ได้ผลจน แอลเอ เลเกอร์ส ถึงไปไม่เป็น
จากเพลย์ด้านบน นักเก็ตส์ จะให้ โยคิช มารับบอลตรงไฮ-โพสต์ ในขณะเดียวกัน ทั้ง เมอร์รีย์ และ เคซีพี ก็จะสกรีนให้กันไปมาเพื่อเปิดช่องว่าง ซึ่งความผิดพลาดของ เลเกอร์ส เริ่มขึ้นจากตรงนี้
ดีแองเจโล รัสเซล เข้าใจว่า ทอเรียน ปรินซ์ จะสลับตัวประกบ แต่ ปรินซ์ กลับเข้าใจว่า รัสเซล จะกลับตัวเดิม นั่นทำให้ เมอร์รีย์ ว่างอยู่ที่สามคะแนนโล่งๆ ซึ่งนั่นก็ไม่รอดพ้นสายตาอันเฉียบคมของ โยคิช ที่ส่งให้กับ เมอร์รีย์ ทันทีจนลูกนี้กลายเป็นสามแต้มเน้นๆของทางนักเก็ตส์
ในเพลย์ถัดมา นักเก็ตส์ ก็ยังคงใช้เซ็ตเพลย์เดิมเข้าโจมตีใส่เลเกอร์ส และคราวนี้ทัพม่วงทองก็ยังไม่มีคำตอบให้เช่นเดิม
ถึงแม้ว่าคราวนี้ เลเกอร์ส จะสลับตัวประกบกันได้ดีและไม่มีข้อผิดพลาดเหมือนเพลย์ก่อน แต่ทว่าการที่ โยคิช มาอยู่ตรงไฮ-โพสต์นั้นมีเหตุผล และเหตุผลนั้นก็คือเขาสามารถแฮนด์ออฟสกรีนให้กับ เคซีพี ได้ทันทีหลังจากที่เกิดแอ็คชั่นแรกระหว่าง เคซีพี และ เมอร์รีย์ ไปแล้ว
พอทางด้าน ปรินซ์ จะตามก็ติดสกรีนโยคิช ส่วน แอนโทนี เดวิส ก็เล่น ดรอป โคฟเวอเรจ (ถอยลงมาป้องกันห่วงในเกมพิคแอนด์โรล) นี่จึงเป็นโอกาสทองของ เคซีพี และเขาก็ไม่พลาดกับลูกโล่งๆ ยิงเข้าห่วงไปในที่สุด
ในเพลย์ต่อมา นักเก็ตส์ ก็ยังใช้แผนเดิมคือให้บอลกับ โยคิช ที่ไฮ-โพสต์ แต่พวกเขาเปลี่ยนแอ็คชั่นหลังจากนั้นโดยให้ เคซีพี วิ่งตัดลงไปที่มุมสามคะแนนและให้ โยคิช แฮนด์ออฟพิคแอนด์โรลให้ เมอร์รีย์ แทน
เมื่อ โยคิช อยู่ไฮ-โพสต์ ทางด้านของ เดวิส ก็ลงสุดไม่ได้ จึงกลายเป็นหน้าที่ของ เลบรอน เจมส์ ที่ต้องซ้อนไม่ให้ เมอร์รีย์ ถึงห่วง โดยนั่นเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ อารอน กอร์ดอน สอดเข้ามารับบอลที่เส้นหลังจาก เมอร์รีย์ และทำคะแนนไปอย่างง่ายดาย หากใครคิดว่าการเริ่มต้นเกมรุกด้วยเซ็ตการยืนแบบนี้จะสร้างความอันตรายให้กับ เลเกอร์ส ไม่ได้แล้วนั้น บอกเลยว่าคุณคิดผิด
จากคลิปด้านบน นี่คือการทำแต้มครั้งสุดท้ายของ นักเก็ตส์ ก่อนที่ เลเกอร์ส จะต้องขอเวลานอกเพื่อรับมือกับการยืนในเกมรุกแบบนี้ ซึ่งหากทุกคนสังเกตุดูดีๆ นี่คือการยืนแบบเดิมเป๊ะๆถึงสี่เพลย์ติดๆกัน ซึ่งมันเปลี่ยนเป็นแต้มให้ นักเก็ตส์ ได้ถึง 11 คะแนน
ถึงแม้คราวนี้จะไม่เหมือนกับสามครั้งก่อนหน้า แต่ด้วยการตำแหน่งการยืนแบบนี้ ทำให้ รีฟส์ ต้องดูพื้นที่วีคไซด์ (Weak Side คือฝั่งของสนามที่ไม่ได้มีตัวถือบอล) หรือมุมด้านล่างของคลิปเพียงคนเดียว เมื่อ โยคิช ได้แฮนด์ออฟสกรีนให้ เมอร์รีย์ และกดดันจากอีกฝั่งของ รีฟส์ พร้อมกับการโรลเข้าหาห่วงของ โยคิช มันจึงบังคับให้ รีฟส์ ต้องเข้ามากันใต้แป้น เพราะ เลบรอน ไม่ยอมขยับ สุดท้ายแล้วบอลก็ถูกส่งไปยังมือของ พอร์เตอร์ จูเนียร์ มือปืนเบอร์ 1 ของทีมที่ได้ยิงโล่งๆลงไป
หลังจากที่รันชุดนี้สำเร็จ 11-3 คะแนน มันจึงทำให้ นักเก็ตส์ ออกนำไป 113-99 โดยเหลือเวลาเพียง 3:17 นาทีเท่านั้น นี่จึงสามารถพูดได้เต็มปากเต็มคำว่าเป็นรันชุดใหญ่ที่ปิดเกมลงไปอย่างสมบูรณ์แบบของ เดนเวอร์ นักเก็ตส์ และ ไมค์ มาโลน
ใช่ครับ...สาเหตุการรันทั้งหมดก็คงเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจากการเซ็ตแผนเกมรุกจากการปรับตำแหน่งยืนที่เราได้กล่าวไปในบทความนี้นี่เอง
บทความที่เกี่ยวข้อง : ดอนซิช หรือ โยคิช : ใครคือผู้เล่นทำสถิติ ทริปเปิล-ดับเบิล มากสุดใน NBA 2023-24
บทความที่เกี่ยวข้อง : 10 ผู้เล่นสุดแกร่งที่มีโอกาสกลับมาติด All-Star NBA อีกครั้งในฤดูกาล 2023-24
ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา
Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th