หรือต้องเปลี่ยนกฎ? เปิด 3 วิธีที่ NBA สามารถหยุดไม่ให้ผู้เล่นซูเปอร์สตาร์ทำลายสถิติการทำแต้ม

01-31-2024
2นาทีที่อ่าน
(Getty Images)

ลูก้า ดอนซิช ทำ 73 แต้ม, โจเอล เอ็มบีด กดไปอีก 70 แต้ม, เดวิน บุคเกอร์ และ คาร์ล แอนโทนี-ทาวน์ส กดไปอีกคนละ 62 แต้มถึงแม้ว่าจะต้องพบกับความพ่ายแพ้ แต่นี่คือสิ่งที่เกิดจริงขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา 

เมื่อเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ประเด็นหนึ่งที่เกิดขึ้นมาทุกครั้งก็คือคำถามว่าคะแนนของผู้เล่นมันเฟ้อไปหรือไม่และทำไมผู้เล่นซูเปอร์สตาร์ถึงสามารถทำแต้มได้ขนาดนี้? เพราะฉะนั้นในวันนี้เราจะไปหาคำตอบกันว่ามันเป็นเพราะอะไรและ NBA ต้องทำอย่างไรกับปรากฎการณ์นี้บ้าง

หากใครพร้อมแล้ว ติดตามไปพร้อมกันในบทความนี้กันได้เลย 

NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก

เปิด 3 วิธีที่ NBA สามารถหยุดไม่ให้ผู้เล่นซูเปอร์สตาร์ทำลายสถิติการทำแต้ม

ทำไมซูเปอร์สตาร์ถึงทำแต้มได้ง่ายใน NBA?

หลายๆคนคงตอบง่ายๆแบบส่งๆว่าเพราะ NBA มันไม่เล่นเกมรับโดยที่ไม่ได้รู้เลยว่าเกมรับของลีกนั้นพัฒนาไปไกลมากๆแล้ว แถมพื้นที่หรือสเปซในยุคนี้ยังมากกว่ายุคก่อนแบบหลายเท่าตัวเนื่องจากมีผู้เล่นที่ยิงสามคะแนนได้มากขึ้น

ซึ่งนี่แตกต่างจากยุค 90 ที่หลายคนมองว่าดีที่สุดโดยสิ้นเชิง เพราะในสมัยก่อนนั้นส่วนใหญ่จะเป็นการเล่น 1 ต่อ 1 และยืนดูเพื่อนเล่นในตำแหน่งโพสต์เพลย์กันซะมากกว่า โดยที่ไม่ได้มีรูปแบบเกมรับที่หลากหลายมากนัก

อย่างเกมที่ ดอนซิช ทำได้ 73 แต้ม หัวหน้าโค้ชของ ฮอว์กส์ อย่าง ควิน สไนเดอร์ ก็ทำทุกวิถีทางแล้วจริงๆที่จะหยุดเขาให้ได้ไม่ว่าจะเป็นการเล่น ดรอป โคฟเวอร์เรจ, เฮดจ์, สวิตช์, เลเวล, ทูออนบอล ทว่าทั้งหมดนั้นกลับหยุดอะไร ลูก้า ไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว

“เราพยายามทำทุกอย่างที่อยู่ในพื้นฐานของการแก้กลยุทธ์แล้ว” สไนเดอร์กล่าว “เขาแตกต่างจากคนอื่นมากๆเพราะเขาสร้างเกมได้หลากหลายทางมากจริงๆ”

ถึงแม้ว่าในเกมนั้นจะมีการคอนเทสต์ลูกยิงของ ลูก้า ได้ดีหลายครั้งและมีหลายเพลย์ที่ป้องกันดี แต่นั้นก็ไม่ได้ช่วยให้ ลูก้า มีเวลาที่ยากมากขึ้นเท่าไหร่ หรืออย่างเช่นเกมที่ เอ็มบีด ทำ 70 แต้มใส่ สเปอร์ส เขาก็ยิงผ่าน วิคเตอร์ เวมบันยามา ไปหลายต่อหลายครั้งในระยะกลางทั้งๆที่คอนเทสต์ได้ดีแล้วเช่นกันในหลายๆลูก แถมยังกดดันไม่ให้ MVP คนนี้เข้าใต้แป้นได้ง่ายๆอีกต่างหาก

เพราะฉะนั้นจึงสรุปได้ง่ายๆว่าพวกเขาพยายามทำหน้าที่ทุกให้ดีที่สุดแล้วที่จะทำได้ทั้งโค้ชและผู้เล่นแต่ทว่ามันก็ยังไม่สำเร็จอยู่ดีในจุดนี้ เพราะฉะนั้นถ้าแก้ที่แผนไม่ได้ก็อาจต้องไปแก้ที่กฎ

สิ่งที่ NBA สามารถนำกฎของบาสเกตบอลยุโรปมาปรับใช้ได้

เอากฎ 3 วินาที ออกไป

กฎหนึ่งที่แตกต่างมากๆสำหรับ NBA และลีกยุโรปก็คือกฎสามวินาทีที่ผู้เล่นในลีกยุโรปจะยืนแช่ตัวเองไว้ใต้แป้นแค่ไหนก็ได้ ซึ่งตรงนี้นี่เองที่จะทำให้การทำแต้มใต้แป้น (ระยะการทำแต้มที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด) นั้นลดลง

“คุณจะได้ 10 แต้มมาง่ายๆเลย” นี่คือคำพูดของ ลูก้า ดอนซิช เมื่อถูกถามว่าถ้า รูดี้ โกแบร์ ถูกดึงออกจากเพนท์ไปจะเป็นอย่างไร นี่จึงเป็นจุดที่ชัดแล้วว่าถ้าหากเอากฎ 3 วินาทีออกไป ผู้เล่นเกมรับจะเล่นได้ง่ายขึ้นและลดแต้มได้อย่างแน่นอน อีกอย่างคือผลกระทบของบิ๊กแมนที่เล่นเกมรับดีแต่ยิงสามได้ไม่ดีนักก็อาจจะกลับมาอีกครั้ง

Scroll to Continue with Content

ลดขนาดของสนามลง

ดอนซิชเคยได้ชี้ไว้ว่าการเล่นในสนามที่กว้างอย่าง NBA นั้นมันช่วยในการเพิ่มพื้นที่และทำคะแนนได้ง่ายขึ้น และเมื่อไปดูที่ข้อมูลแล้ว สนามของ NBA นั้นจะมีขนาดอยู่ที่ 94 ฟุต คูณ 50 ฟุต ส่วนยูโรลีกนั้นจะมีขนาดเพียงแค่ 91.9 ฟุต คูณ 49.2 ฟุต เท่านั้น

การขยับลงมาเพียงไม่กี่ฟุตนั้น หลายๆคนอาจมองว่าไม่เห็นจะช่วยอะไร แต่หากลองจินตนาการว่าแทนที่จะใช้สองก้าวเพื่อเข้าถึงตัวผู้เล่นเกมรุก ก็อาจจะลดลงมาเหลือเพียงก้าวเดียวเท่านั้น ซึ่งนี่จะทำให้เกมรับเล่นโดยมีประสิทธิภาพมากขึ้นแน่นอน

“การเล่นในยุโรปที่มีพื่นที่น้อยกว่า มันเลยช่วยให้ผมตัดสินใจทำสิ่งต่างๆได้ดีขึ้นเพราะว่าตอนนี้เมื่อมาเล่นในเกม NBA ผมรู้สึกว่ามันมีพื้นที่ให้มากกว่าในการที่จะจัดการหลายๆอย่างให้ทั้งเพื่อนร่วมทีมและทั้งผมเองด้วย” นี่คือสิ่งที่ ยานนิส กล่าวไว้

หรืออย่าง วิคเตอร์ เวมบันยามา เองก็เคยบอกเอาไว้เช่นกันว่า “สนามมันเปิดมากขึ้น” และเพิ่มเติมต่อว่า “ที่นี่ผู้คนกระโดดเต็มกันว่อนไปหมด ส่วนที่ยุโรปส่วนใหญ่มักอยู่บนพื้น, ดันกันที่พื้นและเน้นให้ตัวใหญ่บ็อกซ์เอาต์มากกว่า”

ยอมให้มีการปะทะมากขึ้น

อีกส่วนที่เป็นประเด็นร้อนในช่วงหลังก็คือการปะทะกันที่ NBA ค่อนข้างไม่ยอมให้มีการปะทะเท่าไหร่นัก แต่ฝั่งของยูโรลีกนั้นจะยอมให้ผู้เล่นเกมรับเล่นเกมปะทะกับผู้เล่นเกมรุกได้มากกว่าของ NBA

“มีการปะทะที่เบากว่า ผมโดนฟาวล์บ่อยนะ แต่ไม่เท่ากับที่ยุโรป” นี่คือความคิดเห็นของเวมบันยามา ส่วนโยคิชเองก็ได้พูดถึงเรื่องนี้เช่นกันว่า “มันยากกว่าไหมหรอ? แน่นอนเพราะว่าคุณต้องคิดให้เร็วถ้าเล่นในยุโรป แต่ใน NBA ถ้าคุณเล่น 1 ต่อ 1 คุณจะเห็นผู้เล่นเกมรับอีกคนวิ่งมาช่วย แต่ในยุโรปนั้นจะคอยคุณอยู่แล้ว”

ทั้งสามซูเปอร์สตาร์ของ NBA ที่เคยได้เล่นอยู่ในยุโรปต่างมายืนยันกันเป็นเสียงเดียวกัน แสดงว่าความต่างนั้นมันชัดเจนมากจริงๆ เพราะฉะนั้นหากจะมีการแก้ไขกฎอะไร NBA ก็ควรที่จะพิจารณาดูเหมือนกัน

บทความที่เกี่ยวข้อง : จักรวาลคู่ขนาน! โจเอล เอมบิด บอกถ้าได้เป็นนักฟุตบอลตามฝันอาจเก่งกว่าโรนัลโด้, เมสซี

บทความที่เกี่ยวข้อง : ฟอร์มร้อนเป็นไฟ : เบน ซิมมอนส์ สร้างผลกระทบแค่ไหนให้ เน็ตส์ ในเกมแรกที่กลับมาลงเล่น

ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา

Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH

Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th

Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand