ในวันที่ 15 พฤศจิกายน ศึกบิ๊กแมตช์ระหว่างบิ๊กแมนแห่งอนาคตเกมแรกก็จะมาถึง ใช่ครับ นี่ไม่ได้หมายถึงการเจอกันระหว่าง โจเอล เอ็มบีด และ นิโคลา โยคิช ที่กำลังพาทีมผงาดเป็นอันดับ 1 ของสายอยู่ในขณะนี้ แต่เป็นการแข่งขันระหว่าง วิคเตอร์ เวมบันยามา และ เช็ต โฮล์มเกรน ต่างหาก
นี่คือเจอกันครั้งแรกในการแข่งขันอย่างเป็นทางการและมีสถิติผลแพ้ชนะเป็นเดิมพัน เพราะฉะนั้นทั้งคู่คงเล่นอย่างเต็มที่แน่นอน แต่จากตอนนี้ที่ NBA แข่งมาแล้วทีมละประมาณ 10 นัด ทำให้มีสถิติและตัวเลขให้พูดถึงได้แล้วว่าระหว่างสองคนนี้ ตอนนี้ใครดีกว่ากัน
เพราะฉะนั้นอย่ารอช้า ก่อนที่ศึกบิ๊กแมตช์จะเริ่ม เรามาโหมโรงกันหน่อยดีกว่าว่าจากช่วงที่ผ่านมาบิ๊กแมนแห่งอนาคตคนไหนทำผลงานได้ดีกว่ากันแน่
NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก
เวมบันยามา vs โฮล์มเกรน ใครเหนือกว่ากันใน 10 เกมแรก NBA?
จาก 10 เกมที่ผ่านมาของ เช็ต โฮล์มเกรน และ วิคเตอร์ เวมบันยามา นั้นถือว่าทั้งคู่มีสถิติที่ไม่มีใครน้อยหน้าไปกว่ากันเลย จากการลงเล่นที่เท่ากับที่ประมาณ 30 นาทีต่อเกม
สถิติเบื้องต้น เวมบันยามา ปะทะ โฮล์มเกรน (10 เกมแรก)
วิคเตอร์ เวมบันยามา |
สถิติต่อเกม |
เช็ต โฮล์มเกรน |
30.2 |
นาที |
30.1 |
19.7 |
แต้ม |
16.4 |
44.7% จาก 16.1 ครั้ง |
เปอร์เซ็นต์/จำนวนฟิลด์โกล |
54.9% จาก 10.2 ครั้ง |
29.8% จาก 5.7 ครั้ง |
เปอร์เซ็นต์/จำนวนสามคะแนน |
50.0% จาก 3.6 ครั้ง |
76.6% จาก 4.7 ครั้ง |
เปอร์เซ็นต์/จำนวนลูกโทษ |
89.5% จาก 3.8 ครั้ง |
54.2% |
TS% (ประสิทธิภาพการทำแต้ม) |
69.1% |
2.5 |
แอสซิสต์ |
2.6 |
8.8 Scroll to Continue with Content
|
รีบาวด์ |
7.6 |
2.4 |
บล็อก |
2.3 |
1.1 |
สตีล |
0.9 |
3.8 |
เทิร์นโอเวอร์ |
2.0 |
2.6 |
ฟาวล์บุคคล |
3.3 |
หากจะวัดกันแค่การทำแต้มที่เราเห็น การสรุปง่ายๆเลยก็คือ วิคเตอร์ เวมบันยามา ดีกว่าเห็นๆ แต่ทว่าเมื่อมองลึกลงไปอีก จะเห็นได้ว่า เวมบี้ มีการยิงมากกว่า โฮล์มเกรน ถึง 6 ครั้ง แต่ทว่าเขากลับทำแต้มได้มากกว่าแค่ 3.3 แต้มเท่านั้น แถม TS% ของ เวมบี้ก็ยังไม่ได้เกินค่าเฉลี่ยของลีก (57.1%) อีกด้วย
เมื่อมองกลับมาที่ โฮล์มเกรน ประสิทธิภาพการทำแต้มของเขานั้นสูงถึง 69.1% ซึ่งเกินค่าเฉลี่ยของลีกถึง 11.4% เลยทีเดียว ส่วนหนึ่งก็เพราะว่าเขามีการยิงสามคะแนนที่ประสบความสำเร็จสูงถึง 50.0% ซึ่งแตกต่างจาก เวมบี้ ที่ยิงเยอะกว่าแต่ไม่มีประสิทธิภาพเลย (29.8%)
ด้วยเหตุนี้เรื่องการทำแต้ม โฮล์มเกรน จึงดูเหนือกว่าแม้ว่าจะมีแต้มต่อเกมที่น้อยกว่าก็ตาม เพราะดูเหมือนว่าในตอนนี้ เวมบี้ ในกำลังเล่นเกินโหลดที่ตัวเองจะรับไหวอยู่พอตัว และมิติในเกมรุกของ เช็ต นั้นเหมือนจะมีไอคิวในการเล่นเหนือกว่า เวมบี้ อยู่เช่นกัน
อีกประเด็นหนึ่งที่ เวมบี้ ดูจะแพ้ทางด้านของ เช็ต ก็คือการเทิร์นโอเวอร์ที่มากกว่าเกือบสองเท่า แต่ประเด็นนี้พอจะปิดตาข้างเดียวได้อยู่บ้างเนื่องจากรุกกี้ของสเปอร์สรายนี้ได้ถือบอลมากกว่า แต่เมื่อเทียบจำนวนเทิร์นโอเวอร์ต่อแอสซิสต์แล้ว ก็ยังเป็นตัวเลขที่มากเกินไปอยู่ดี
ตัดภาพมาที่เรื่องเกมรีบาวด์ที่ เวมบันยามา ทำได้ดีกว่าอยู่ระดับหนึ่ง เนื่องจาก เช็ต ตัวบางและมักจะแพ้เซ็นเตอร์ขนาดตัวหนาอยู่บ่อยๆ ส่วนทางด้านของ เวมบี้ นั้นก็ตัวบางเช่นกัน แต่ระยะแขนและส่วนสูงของเขาเหนือกว่า โฮล์มเกรน พอสมควร นี่จึงถือเป็นความได้เปรียบทางด้านร่างกายอย่างหนึ่งเช่นกัน และ เวมบี้ ก็ทำได้เหนือกว่าในจุดนี้
ส่วนในเรื่องเกมป้องกัน ทั้งคู่นั้นได้รับบทบาทต่างกันเพราะ เช็ต เล่นในตำแหน่ง 5 ในทุกๆเกม ส่วน เวมบันยามา นั้นเล่นในตำแหน่ง 4 เป็นส่วนใหญ่ ตรงนี้อาจเปรียบเทียบกันได้ไม่ชัดมาก แต่หากวัดที่จำนวนบล็อก ทั้งคู่ก็มีไม่แพ้กันเลย
เรื่องที่แตกต่างกันตรงนี้คงเป็น เช็ต ที่เห็นผลเสียมากกว่าเมื่อต้องเจอเซ็นเตอร์ตัวใหญ่ เพราะเมื่อไหร่ที่ต้อง 1-1 กับบิ๊กที่มีทักษะโดยเฉพาะเซ็นเตอร์จากยุโรปแบบ โยคิช, ซาโบนิส หรือ วูเซวิช เขาจะเสียเปรียบเรื่องไซส์อย่างชัดเจน แต่ เวมบี้ ที่เป็นตัวซ้อนจะไม่ต้องรับผลกระทบตรงนี้มากนัก
นอกจากประเด็นที่ได้ชี้ไปข้างต้นแล้ว สถิตินอกจากนั้นทั้งคู่ก็ใกล้เคียงกันเอามากๆ เพราะฉะนั้นถ้าจาก 10 นัดแรก ก็คงต้องตัดสินให้ว่า เช็ต โฮล์มเกรน และ วิคเตอร์ เวมบันยามา อยู่ในพื้นที่ที่ใกล้เคียงกันมากๆเพราะในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เวมบี้ ถือว่าทำดีขึ้นจากสัปดาห์แรกอยู่ไม่น้อย
เวมบันยามา นั้นมีผลกระทบในเกมรับมากกว่า ส่วน โฮล์มเกรน มีผลกระทบในเกมรุกมากกว่า นี่คงเป็นภาพโดยรวมที่สรุปมาให้ได้จาก 10 เกมแรกของอนาคตบิ๊กแมนของลีกทั้งสองคนนี้
บทความที่เกี่ยวข้อง : เปิดเพลย์อัจฉริยะ : การแอสซิสต์สู่สามแต้มปิดฝาโลงของ เทร ยัง
บทความที่เกี่ยวข้อง : ถึงเวลาแล้ว? เปิดสัญญาณที่ ชิคาโก้ บูลส์ มีสิทธิ์ระเบิดทีมในฤดูกาลนี้
ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา
Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th