แค่นี้ไม่พอ! ทำไม NBA ถึงควรเพิ่มจำนวนผู้เล่น All-Star ในยุคปัจจุบัน?

02-02-2024
2นาทีที่อ่าน
(NBA Entertainment)

ผู้เล่นที่ถูกคัดเลือกเข้ามาในเกม All-Star ปี 2024 นั้นล้วนแต่เป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมและมีความสามารถเหมาะสมกับตำแหน่งที่เขาได้รับ แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่มีใครเถียง แต่ในอีกมุม ผู้เล่นที่ไม่ติดหลายคนก็เหมาะสมไม่แพ้กัน

นี่คงเป็นเหตุผลหนึ่งที่อดีตผู้เล่น NBA เจ้าของพอดแคสค์ชื่อดังอย่าง เจเจ เรดิค เริ่มยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดถึงว่าลีกควรปรับตัวและควรเพิ่มจำนวนผู้เล่น All-Star เข้ามาให้มากขึ้น ไม่ใช่ 12 คนต่อสายอย่างในตอนนี้ จากพอดแคสต์ของเขา เรดิคได้ยกเหตุผลที่น่าสนใจขึ้นมาอธิบายให้ฟังและบอกเลยว่าประเด็นนี้มันน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน

หากใครอยากรู้เหตุผลที่ เรคิด พยายามรณรงค์ให้ NBA เพิ่มผู้เล่นในเกม All-Star แล้ว ติดตามไปพร้อมกับเราได้ที่นี่ 

NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก

ทำไม NBA ถึงควรเพิ่มจำนวนผู้เล่น All-Star ในยุคปัจจุบัน?

เริ่มแรก เรดิค ได้บอกถึงความสำคัญในการติด All-Star ว่ามันไม่ใช่แค่ติดและจบๆไป หากแต่มันส่งผลถึงประวัติศาสตร์ของทั้งเกม, ผู้เล่น, ทีม และฐานแฟนคลับทั้งตอนนี้และในอนาคต

“เมื่อเราคิดถึงผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมจากทุกยุคทุกสมัย จำนวนรายชื่อของผู้เล่นที่ติด All-Star นั้นเป็นปัจจัยกำหนดว่าพวกเขาจะถูกมองอย่างไรในหน้าประวัติศาสตร์” เรคิดกล่าว

“การมีชื่ออยู่ในเกม All-Star มีความหมายต่อผู้เล่น เป็นการทำให้ทุกอย่างมันสมบูรณ์ มันสร้างคุณค่าในอาชีพการเล่นของพวกเขาและคุณค่าสำหรับแบรนด์ของพวกเขาและมีความสำคัญเมื่อพูดถึงมรดกทางประวัติศาสตร์ของพวกเขา”

“แต่มันไม่ได้มีความหมายแค่กับผู้เล่นเท่านั้น แต่มันยังสำคัญกับองค์กร, ฐานแฟนๆและเมืองด้วย มันมีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของเกม แต่ในปัจจุบันผู้เล่น NBA นั้นจะติดหรือมีรายชื่ออยู่ในเกม All-Star ยากกว่าที่เคย” เรดิคปิดท้ายในประเด็นนี้

และต่อไปนี้คือเหตุผลที่ เรดิค มองว่า NBA ควรปรับให้ผู้เล่นเกม All-Star มีมากกว่าแค่ 24 คน

Scroll to Continue with Content

“ผมมีความเชื่ออย่างแรงกล้าว่า NBA ควรเพิ่มจำนวนตัวผู้เล่น All-Star เราขยายลีกมากขึ้น เรามีผู้เล่นที่มีพรสวรรค์มากขึ้น เพราะฉะนั้นมันถึงเวลาแล้วที่จะมีผู้เล่นที่ถูกเพิ่มเติมเข้าไปเพื่อทำให้มันมีเหตุผล”

นี่เป็นเหตุผลที่น่าสนใจ และจากท้ายคลิปของทวิตเตอร์ด้านล่างนี้จะเห็นได้ว่าในปี 1961 จะมีผู้เล่นถึง 25% ที่ได้รับเลือกให้ติด All-Star ส่วนในปี 2023 นั้นจะมีเพียงแค่ 4% ของผู้เล่นทั้งหมดเท่านั้น ซึ่งจริงๆแล้ว เรดิค ไม่ได้หวังว่าจะต้องเพิ่มเป็นเปอร์เซ็นต์เท่ากับเมื่อก่อน แต่ขอให้เพิ่มขึ้นมาบ้างเพื่อรองรับผู้เล่นที่เหมาะสมสำหรับการเป็น All-Star

และเมื่อเราคิดต่อไปอีกทอด ปัญหาที่ว่าผู้เล่นคนนู้นคนนี้คนนั้นไม่ติด All-Star ทั้งๆที่เล่นดี ก็จะลดน้อยลงอีกด้วย เพราะฉะนั้นนี่จึงอาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ลีกควรพิจารณาจริงๆ

บทความที่เกี่ยวข้อง : ใครๆก็ไม่รัก : 10 ผู้เล่น NBA ที่ถูกมองข้ามจนไร้ชื่อในเกม All-Star 2024

บทความที่เกี่ยวข้อง : หรือต้องเปลี่ยนกฎ? เปิด 3 วิธีที่ NBA สามารถหยุดไม่ให้ผู้เล่นซูเปอร์สตาร์ทำลายสถิติการทำแต้ม

ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา

Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH

Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th

Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand