เมื่อคุณใช้ไซส์ให้เป็นประโยชน์ สถิติก็จะแสดงให้เห็นเองว่าคุณยอดเยี่ยมมากแค่ไหน หลังจากที่ตกเป็นรอง เช็ต โฮล์มเกรน มาในการจัดอันอันรุกกี้สัปดาห์แรกที่เราได้ทำไป เวมบันยามาก็ทำให้ได้รู้ว่าเขามีศักยภาพมากแค่ไหน ด้วยความสูง 7 ฟุตกับอีก 4 นิ้ว
ประเด็นใหญ่สุดที่ทำให้เขาต้องตกไปเป็นอันดับ 2 รองจากเช็ต ไม่ใช่เรื่องส่วนสูง, ความสามารถ หรือ ความมั่นใจ แต่มันคือประสิทธิภาพ การทำ 38 แต้มในวันนี้ของ “ผู้เล่นพรสวรรค์แห่งยุค” บ่งบอกเราได้อย่างดีว่าเมื่อเขาเล่นในทางที่ถูกต้อง แต้มจะเดินเข้ามาหาเขาเอง
เวมบันยามาทำ 38 แต้มในเกมที่พา สเปอร์ส เอาชนะ ซันส์ ไปได้อย่างไร? ติดตามไปพร้อมกับเราได้เลยที่นี่
NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก
38 แต้มของ เวมบันยามา : การลงโทษเกมรับที่ไม่ดีพอของ ฟินิกซ์ ซันส์
ประสิทธิภาพของ เวมบันยามา นั้นไม่ได้ดีมากนักในสี่เกมแรก เขามีฟิลด์โกลเพียงแค่ 46.0 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น ซึ่งหากเทียบกับผู้เล่นทั่วไป เปอร์เซ็นต์ระดับนี้ไม่ได้น่าเกลียดเลย แต่ประเด็นคือเขาเป็นผู้เล่นที่สูงถึง 7 ฟุต 4 และมีความคล่องตัวที่สูงมาก นี่จึงเป็นเรื่องที่ไม่ดีเท่าไหร่นักเพราะเขาควรมีเปอร์เซนต์ที่เป็นชิ้นเป็นอันมากกว่านี้
สาเหตุส่วนใหญ่คงหนีไม่พ้นการยิงสามคะแนนของเขาที่ลูกผีลูกคน วันไหนมาก็ลง แต่วันไหนจะหายก็ไม่มีเลย แถมยังมีลูกยิงยากๆสู้กับคอนเทสต์ของฝ่ายตรงข้ามบ่อยไม่น้อย นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงมีการยิงสามแต้มลงไปแค่ 26.3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นจาก 4 เกมแรก พร้อมกับฉุดเปอร์เซ็นต์โดยรวมลงมา
มากไปกว่านั้น การเล่นลูกยิงระยะกลางของเขาก็ไม่ได้น่าเชื่อถือเท่าไหร่นัก โดยในเกมที่ สเปอร์ส เอาชนะ ซันส์ ไปได้ ทุกอย่างมันกลับต่างออกไปเพราะเจ้าตัวได้จบใต้ห่วงถึง 9 ครั้งด้วยกัน เพื่อให้ทุกคนเข้าใจภาพ ตลอดสี่เกมที่ผ่านมา เวมบันยามา มีการจบใต้แป้นไปเพียงแค่ 11 ครั้งเท่านั้น ตอนนี้หลายๆคนน่าจะเห็นภาพแล้วว่าทำไมเกมนี้ เวมบันยามา ถึงดูดีมากที่สุด
หรือจะให้มากไปกว่านั้นหากรวมโอกาสทำแต้มใต้แป้นของ เวมบันยามา ทั้งใต้แป้นและมิดเรนจ์ระยะสั้น เขาทำไปทั้งหมด 22 ครั้งและลงไปถึง 14 ครั้ง นับเป็น 63.6 เปอร์เซ็นต์ แต่เขากลับมีการยิงสามคะแนนสูงถึง 19 ครั้ง! ซึ่งแทบจะเท่ากับการจบใกล้ห่วงเลยแต่เปอร์เซ็นต์ตวามสำเร็จต่างกันราวฟ้ากับเหว
เพราะฉะนั้นคำตอบที่ได้จาก 5 เกมแรกของ เวมบันยามา สั้นๆคือ เขาทำได้ทุกอย่าง แต่จะมีประสิทธิภาพมากที่สุดเมื่อมีบอลใต้แป้น แค่เขาลดการยิงวงนอกลงมากกว่านี้สักหน่อยและหาทางเขาใต้แป้นให้มากขึ้น “ประสิทธิภาพ” ก็จะอยู่ข้างเขาแน่นอน
เรามาเริ่มกับเพลย์ที่น่าประทับใจอันแรกกันก่อนที่ เวมบันยามา เล่นเกมสวนกลับแล้วเข้าไปดังค์ แน่นอนลูกนี้ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น แต่ที่นำมาแสดงให้เห็นเพราะว่านี่เป็นจุดเด่นหนึ่งของเขาที่ได้แต้มง่ายๆแต่จะหาคนปิดนั้นยากเหลือเกิน
ส่วนเพลย์ถัดมาคือเกม พิคแอนด์โรล ที่ ซันส์ ตัดสินใจสวิตช์เพื่อที่จะสวิตช์กลับอีกทีให้ เนอร์คิช ไปปิดเวมบันยามา แต่จังหวะนี้แหล่ะที่เขาโล่งและ โซฮาน ส่งบอลมาให้ได้ดีพร้อมกับจบแต้มโล่งๆลงไป ซึ่งนี่คือเพลย์ที่ไม่ได้เห็นบ่อยนักในสี่เกมที่ผ่านมา
มาต่อกันที่การเล่นแอคชั่นที่สวยที่สุดลูกหนึ่งในเกมนี้คือ “แบ็คสกรีน” ให้ เวมบันยามา วิ่งเข้าไปอัลเลอูปเน้นๆ เมื่อ ยูแบงค์ ติดสกรีนและตามไม่ทัน ทางด้าน อีริค กอร์ดอน ที่สูงไม่ถึง 6 ฟุต 5 ก็ไม่มีทางทำอะไรได้แล้วกับลูกแบบนี้ หากเป็นสี่เกมที่ผ่านมา
จังหวะการยิงสามคะแนน พิคแอนด์ป็อป แบบนี้ ก็ถือว่าเป็นจังหวะที่ทำได้ดี ไม่ต้องเลี้ยงเอง ได้เซ็ตเท้าชัวร์ๆในพื้นที่โล่งๆและยิงลงไป แน่นอนครับว่าไม่มี “การคอนเทสต์” จากใครแม้แต่คนเดียว
หรือจะเป็นอีกลูกที่เล่น กิฟแอนด์โก ก็ทำได้ดีเช่นกันและเป็นอีกครั้งที่เจ้าตัววิ่งเข้าไปเพื่อกดดันห่วงจากการสวิตช์ของซันส์
การเล่นโพสต์เพลย์ของ เวมบันยามา นั้นแม้จะดูมีประสิทธิภาพสูงที่ 1.10 แต้มต่อการครองบอล (อันดับ 10 ของลีกจากสี่เกมแรก) แต่ประเด็นก็คือเจ้าตัวสร้างเทิร์นโอเวอร์จากเพลย์แบบนี้สูงถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ใช่ครับนี่คือการเสียเทิร์นโอเวอร์จากโพสต์เพลย์มากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของลีกในตอนนี้
เหตุผลก็มาจากส่วนสูงและการเลี้ยงบอลไม่ได้คล่องมาก บวกกับส่วนความสูงของบอลระหว่างมือและพื้นยิ่งส่งผลให้เขาเสียบอลง่ายเมื่อโดนล้วงหรือรุมสอง แต่คราวนี้เจ้าตัวเลือกที่จะเล่นเร็ว และรีเวิร์สเลย์อัพลงไปงามๆ ไม่มีเวลาให้คู่แข่งได้ซ้อนหรือรุมเลย
มาถึงเพลย์สุดท้ายคือการคัตเข้าใต้แป้นของ เวมบันยามา ที่เมื่อได้บอลแล้วก็คงบอกได้คำเดียวว่า “ตัวใครตัวมัน”
จากเพลย์ทั้งหมดนี้ที่นำมาวิเคราะห์นั้นแสดงให้เห็นแล้วว่าประสิทธิภาพของเขาพุ่งสูงได้มากขึ้นแค่ไหน แน่นอนว่าเกมรับของ ซันส์ ที่เล่นแบบ สวิตช์ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ เวมบันยามา เฉิดฉายได้ขนาดนี้ แต่นี่ก็เป็นอีกข้อพิสูจน์เช่นกันว่า เวมบันยามา สามารถลงโทษอีกฝั่งได้ดีแค่ไหนเมื่อพวกเขาเล่นเกมรับกันไม่ดีพอหรือมีรูปแบบเกมรับที่เอื้อต่อเจ้าตัว
เพราะหากเราเก็บสถิติเพียงแค่การทำแต้มระยะกลางและสามคะแนน เวมบันยามา นั้นยิงลงไปแค่ 5 จาก 13 ลูกเท่านั้นซึ่งคิดเป็นเพียง 38 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้นเองในเกมนี้ หากจะต่อยอดเวมบันยามา ฝั่งของโค้ชป็อปคงต้องหาจังหวะเพื่อให้รุกกี้คนนี้เข้าใต้แป้นให้บ่อยมากขึ้นไม่ว่าจะเจอกับเกมรับรูปแบบใดก็ตาม และนั้นจะช่วยให้ “ผู้เล่นพรสวรรค์แห่งยุค” คนนี้โหดขึ้นแน่นอน
บทความที่เกี่ยวข้อง : แก่แต่เก๋า : คริส พอล ยกระดับทีมชุดสองให้กับ วอร์ริเออร์ส ได้อย่างไร?
บทความที่เกี่ยวข้อง : รู้จัก อิน-ซีซั่น ทัวร์นาเมนต์ : บาสถ้วยครั้งแรกของประวัติศาสตร์ NBA
ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา
Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th