ตอนนี้ทีมป้องกันแชมป์อย่างวอร์ริเออร์สเริ่มต้นฤดูกาลได้อย่างน่าผิดหวัง แต่ดวงไฟที่ยังเฉิดฉายและทำให้แฟนๆยังมีความอุ่นใจก็คือฟอร์มของสเตฟเฟน เคอร์รีที่ร้อนแรงยิ่งกว่าลาวาของภูเขาไฟตอนปะทุ
ใน 15 เกมแรกเคอร์รีมีค่าเฉลี่ย 32.2 แต้ม 6.7 รีบาวด์และ 6.6 แอสซิสต์พร้อมยิงฟิล์ดโกลลงไปทั้งหมด 52.8 เปอร์เซนต์และมี 44.3 เปอร์เซนต์จากการยิงสามแต้มแถมด้วย 90.9 เปอร์เซนต์จากเส้นโทษ พอรวมความมีประสิทธิภาพทั้งหมดของเขาจึงทำให้ตอนนี้เคอร์รีอยู่อันดับ 3 ของผู้ทำคะแนนสูงสุดใน NBA
3 คะแนนที่ยังโดดเด่นของสเตฟเฟน เคอร์รี
อย่างที่เรารู้กันดีว่าเขาปฏิวัติวงการ NBA ด้วยการยิง 3 คะแนนและในฤดูกาลนี้ก็ไม่ต่างกัน
เคอร์รีเป็นคนที่ยิง 3 แต้มลงมากที่สุดในลีกอยู่ที่ 77 ลูกและห่างจากอันดับ 2 อย่างบัดดี้ ฮิลด์ถึง 22 ลูก (สถิติจากวันที่ 20 พฤศจิกายน) นอกจากนั้นถ้าเราเจาะลงไปมากขึ้น เคอร์รีมีการเปอร์เซนต์ยิง 3 แต้มจากการเลี้ยงอยู่ที่ 46.8 เปอร์เซนต์ (ซึ่งถือว่าแม่นมาก) แถมยังยิงด้วยจำนวนอย่างน้อย 5 ลูกต่อเกมอีกด้วย
ถ้าให้เห็นภาพชัดมากขึ้น การมีจำนวนลูกยิง 3 แต้มจากการเลี้ยงอย่างน้อย 5 ลูกต่อเกมแล้วมีความแม่นที่มากกว่า 40 เปอร์เซนต์ก็มีแค่โดโนแวน มิชเชลของคลีฟแลนด์ คาวาเลียส์เท่านั้นที่ทำได้นอกจากตัวของเขาเอง
เคอร์รีไม่ได้มีดีแค่เรื่องการยิง 3 คะแนน
หากเราได้ดูสเตฟเฟน เคอร์รีเป็นประจำคงรู้กันดีว่าไม่ใช่แค่เรื่อง 3 คะแนนที่โดดเด่นเพราะยังมีเรื่องการจ่าย การสร้างสรรค์เกมและการข้ามเข้าหาห่วงอีกด้วย
ปีนี้ประสิทธิภาพการทำคะแนนใต้แป้นของเคอร์รีค่อนข้างที่จะดีเอามากๆ หากพูดถึงภาพรวมเรื่องการทำคะแนนในระยะ 2 แต้มตัวของเขาสามารถทำไปได้ 5.7 ลูกต่อเกมและลงไปถึง 63.7 เปอร์เซนต์ซึ่งถือว่าเป็นสถิติที่ดีที่สุดในอาชีพของเขา นี่แสดงให้เห็นว่าการข้ามและการจบสกอร์ใต้แป้นของสเตฟก็โดดเด่นเช่นกัน
ในระยะ 3 ฟุต (จากห่วง) เคอร์รีกดไประดับ 79.1 เปอร์เซนต์และเป็นสถิติสูงสุดตลอดอาชีพ (สถิติจากบาสเกตบอล เรฟเฟอเรนซ์) นอกจากนั้นการทำแต้ม “ใต้แป้น” จากคำนิยามของซินเนอร์จี สปอร์ตได้เก็บข้อมูลไว้ว่าเคอร์รีทำไป 1.522 แต้มต่อการครองบอล(ในการทำแต้มใต้แป้น) ซึ่งนั่นทำให้เขามีประสิทธิภาพพอๆกับผู้เล่นบิ๊กแมนชื่อดังอย่างนิโคลา โยคิชและคาร์ล แอนโทนี ทาวน์ส
แต่ถ้าสถิติพวกนี้ยังไม่มากพอให้คุณเชื่อก็ขอแถมสถิติจาก NBA โดยตรงที่แสดงให้เห็นว่าเขาทำแต้มในเขตหวงห้าม (restricted area) โดยมีความความแม่นระดับ 76.4 เปอร์เซนต์ด้วยการยิงอย่างน้อย 55 ลูกในพื้นที่นี้ ทำให้เคอร์รีมีประสิทธิภาพมากสุดเป็นอันดับที่ 12 จากการทำแต้มในเขตหวงห้ามและเขาคือคนที่มีความสูงน้อยที่สุดใน 12 คนหากไม่นับโดโนแวน มิชเชล
ทำไมเคอร์รีถึงทำแต้มใต้แป้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ถ้าเอากันตามตรงเคอร์รีไม่ได้เล่นเกมใต้แป้นเช่นการโพสต์ขอบอลหรือบูลี่บอลอะไรทำนองนั้นเนื่องจากขนาดตัวเขาเล็กแต่สิ่งที่เขามีคือ 3 คะแนนที่เป็นอาวุธหลัก
ตามคอนเซปต์ที่ง่ายที่สุดหากเป็นผู้เล่นที่ยิงแม่นคือถ้าเกมรับมาประชิดก็ให้ข้ามใส่และใช่ครับ…..การเลี้ยงบอลและการข้ามของเคอร์รีก็ไม่เป็นสองรองใครเช่นกัน นั่นทำให้เขาสามารถใช้สกิลการเลี้ยงบอลและการข้ามที่ดีแหวกแนวรับไปได้
สิ่งที่ชัดเจนอีกอย่างคือร่างกายของเขาใหญ่ขึ้นจากตอนเขาเป็นวัยรุ่น กล้าปะทะมากขึ้นบวกกับความครีเอทีฟในการวางบอลทำให้เขาสามารถจบสกอร์ใต้แป้นด้วยการข้ามไปถึงห่วงได้มากขึ้นเช่นกัน อีกอย่างที่ทำให้เขามีประสิทธิภาพคือเกมรับเช่นการขโมยบอลจากฝั่งตรงข้ามแล้วเข้าไปวางที่ห่วงแบบง่ายๆหรือจะเก็บรีบาวด์เกมรับแล้วเปิดเกมรุกอย่างรวดเร็วก็เป็นอีกอย่างที่เคอร์รีทำได้บ่อยในปีนี้เช่นกัน
ทั้งประสบการณ์, ฝีมือและหน้าที่ที่ต้องแบกเกมรุกของทีมไว้บนบ่าทำให้สเตฟเฟน เคอร์รีระเบิดฟอร์มออกมาแบบไม่มีกั๊ก แต่สุดท้ายแล้วหากวอร์ริเออร์สยังอยากจะมีอันดับในตารางคะแนนที่ดีกว่านี้ก็คงจะหวังพึ่งเคอร์รีคนเดียวไม่ได้ แต่ต้องอาศัยผู้เล่นทุกคนเพื่อให้ทีมผลงานดีขึ้นในเช่นกัน
สถิติตลอดอาชีพของสเตฟเฟน เคอร์รี
- 24.4 แต้มต่อเกม
- 6.5 แอสซิสต์ต่อเกม
- 4.7 รีบาวด์ต่อเกม
- 1.6 ขอโมยต่อเกม
- 0.2 บล็อกต่อเกม
- 47.5 เปอร์เซนต์จากฟิลด์โกล
- 42.8 เปอร์เซนต์จาก 3 คะแนo