ดูแรนท์เจ็บคือโอกาส : ถึงเวลา ‘เบน ซิมมอนส์’ พาเน็ตส์ไปคว้าแชมป์ NBA

01-20-2023
2นาทีที่อ่าน
(NBAE via Getty Images)

เน็ตส์ ได้คว้าตัว เบน ซิมมอนส์ มาจากการเทรดในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2022 ทีมหวังให้ ซิมมอนส์ กลายเป็นตัวหลักคนที่สามพร้อมกับ ไครี เออร์วิง และ เควิน ดูแรนท์ แต่ในช่วงที่ผ่านมาเหมือนมันไม่ได้เป็นแบบนั้นเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นตอนนี้คือเวลาที่ดีในการที่จะพิสูจน์และพัฒนาในเรื่องนี้

หลังจากที่ ดูแรนท์ ได้รับอาการบาดเจ็บ ซิมมอนส์รู้ตัวว่าเขาควรที่จะมีบทบาทในเกมรุกมากขึ้น โดยกล่าวว่า “ผมคิดว่าผมทิ้งการทำคะแนนมากเกินไป ผมรู้ว่าผมเป็นใคร ผมควรจะต้องเข้าถึงห่วงและทำแต้มให้มากขึ้น”

สามารถดูวิธีโหวตผู้เล่น NBA All-Star 2023 ได้ที่นี่

เบน ซิมมอนส์ จะขยับขึ้นมาช่วย เน็ตส์ ได้ยังไง?

การที่ตระหนักรู้ว่าเขาต้องทำอะไรเป็นเรื่องที่ดี แต่การนำสิ่งที่ตัวเองพูดมาทำมันไม่ใช่เรื่องง่าย ในเกมแรกที่ เน็ตส์ ไม่มี ดูแรนท์ ตัวของ ซิมมอนส์ มีการยิงเพียง 3 ครั้งเท่านั้นจาก 26 นาที ถึงแม้ว่าเขาจะมี 9 รีบาวด์ และ 13 แอสซิสต์ ก็ตาม

หลังจากที่ไม่ได้ลงในนัดถัดมา ซิมมอนส์ กลับมาสู่เกมอีกครั้งโดยที่ครั้งนี้ไม่มีทั้ง ดูแรนท์ และ เออร์วิง แม้ว่า เบน ซิมมอนส์ จะทำทริปเปิล-ดับเบิล ไปได้โดยมี 10 แต้ม, 11 แอสซิสต์ และ 10 รีบาวด์ แต่โอกาสการยิงของเขาก็ยังน้อยที่สุดในชุดผู้เล่นตัวจริงอยู่ดีจนสุดท้ายต้องพ่ายแพ้ให้กับ สเปอร์ส

ซึ่งจริงๆแล้ว เน็ตส์ สามารถใช้งานการ์ดร่างสูงวัย 26 ปีคนนี้ในเกมรุกได้มากกว่านี้

ในส่วนหนึ่งการที่ ซิมมอนส์ ยิงมากกว่า 10 ครั้งนับเป็นเรื่องที่ดีแต่การแพ้ให้กับ สเปอร์ส ถือเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นและ เน็ตส์ ต้องการจาก ซิมมอนส์ มากกว่านั้น

ตลอด 32 เกมที่เขาลงเล่น ซิมมอนส์ มีค่าเฉลี่ยการยิงต่อเกมเพียง 6.0 ครั้ง ซึ่งลดลงมาเกือบครึ่งหากเทียบกับ 4 ฤดูกาลแรกที่เขาเล่นให้กับ ซิกเซอร์ส (11.6) และการที่ เบน ซิมมอนส์ ยิงไป 10 ครั้งในนัดที่เจอกับ สเปอร์ส ก็เป็นเพียงเกมที่ 6 เท่านั้นที่เขายิงมากกว่า 9 ครั้งให้กับ เน็ตส์

ซึ่งในเกมไหนที่ ซิมมอนส์ ยิงเท่ากับหรือมากกว่า 9 ครั้ง เน็ตส์ จะมีสถิติอยู่ที่ ชนะ 5 แพ้ 1

แต่ถ้าจะให้แฟร์กับ ซิมมอนส์ มันก็มีบางอย่างที่ทำอาจจะเป็นผลทำให้ ซิมมอนส์ ไม่ได้มีความดุดันในการทำแต้ม ซึ่งก็คือการร้างสนามไปนานจนทำให้ยากที่จะเอาฟอร์มของตัวเองกลับมาอย่างรวดเร็วบวกกับเขาได้เล่นกับผู้เล่นที่เรียกได้ว่าเป็นผู้เล่นอันดับต้นๆของลีกในการทำแต้มซึ่งมันเพียงพอแล้วที่จะทำให้เกมรุกของ เน็ตส์ ทำงานได้อย่างสะดวก

เป็นที่รู้อยู่แล้วว่า ซิมมอนส์ ไม่เคยคิดจะยิง 3 คะแนน แต่ว่าเขายังมีดีเรื่องอื่นอย่างเช่น การข้ามเข้าหาใต้แป้น โดยมีผลลัพท์อยู่ที่ 15.1 แต้มต่อเกมตลอดทั้งอาชีพ เพราะคุณคงไม่สามารถเป็นทั้ง All-Star หรือ ออล NBA ได้ถ้าคุณเป็นผู้เล่นมิติเดียว

ซึ่งในฤดูกาลนี้เราก็พอเห็นมาบ้างกับการที่เขากลับไปเล่นเหมือนปีที่ผ่านๆมา นั่นหมายความว่ามันไม่เกี่ยวกับฝีมือแต่เกี่ยวกับความคิดและจุดมุ่งหมายของเขาซะมากกว่า

Scroll to Continue with Content

ถ้าหาก ซิมมอนส์ มีความดุดันมากขึ้นในการข้ามถึงห่วงก็จะทำให้ทีมและเพื่อนร่วมทีมมีชีวิตที่ง่ายขึ้นมากเลยทีเดียว

ซิมมอนส์ มี 6.3 แอสซิสต์ต่อเกมทั้งๆที่เขาแทบไม่ได้ทำแต้มในช่วงเกมที่ผ่านมา หากเขาทำให้ผู้เล่นเกมรับกลัวว่าเขาจะเข้าถึงห่วงได้ เขาจะสามารถเป็นเพลย์เมคเกอร์ที่ดีขึ้นได้จากการไดรฟ์แอนด์คิกให้เพื่อนร่วมทีมยิงสามคะแนน

มากไปกว่านั้น ซิมมอนส์ ยังมีพื้นในการพัฒนาการทำแต้มจากการเป็นตัว โรล หลังจากเล่น พิค แอนด์ โรล โดยเฉพาะเมื่อเล่นกับ ดูแรนท์ หรือ เออร์วิง

ซึ่ง เน็ตส์ จะได้ประโยชน์จากตรงนี้มากๆหากเขาเพิ่มความดุดันในการโรลเข้าไป

ในช่วงที่ไม่มี ดูแรนท์ คือสัญญานเรียกว่า ซิมมอนส์ ควรเพิ่มความดุดันและรับบทบาทหน้าที่ที่มากขึ้นได้แล้ว

ถึงแม้ว่าเขาจะยังทำได้ไม่ดีในช่วงครึ่งฤดูกาลแรกแต่ในตอนนี้เขาควรจะใช้โอกาสนี้ให้คุ้มเพื่อพัฒนาไปถึงปลายฤดูกาล ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเขาเล่นให้ดุดันมากขึ้น ทำได้ดีมากขึ้น เพดาน ของ เน็ตส์ เมื่อเข้าไปเล่นในเพลย์ออฟก็จะสูงขึ้นด้วยเช่นกัน

NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัด คลิกเลย