ไขข้อสงสัย : ทำไม เลบรอน เจมส์ และ โคบี ไบรอันท์ ไม่เคยพบกันในรอบชิง NBA

09-21-2023
3นาทีที่อ่าน

หากถามแฟนๆในช่วงยุค 2000 ว่าอยากเห็นคู่ชิงระหว่างผู้เล่นคนไหนมากที่สุด คำตอบคงออกมาในแนวทางเดียวกันหมดว่า เลบรอน เจมส์ กับ โคบี ไบรอันท์ แต่ความน่าเสียดายก็คือทั้งสองคนนี้เป็นเหมือนเส้นขนานที่ไม่มีทางได้มาพบกัน…แม้แต่ครั้งเดียวก็ไม่เคย

เจมส์คือผู้เล่นที่เข้าชิงมาแล้วถึง 10 ครั้ง ส่วน ไบรอันท์ เข้าชิงมาแล้วอีก 7 ครั้ง ถ้าใครยังไม่ลืม ขณะที่ ไบรอันท์ ยังไม่เลิกเล่น เลบรอน ไม่เคยข้ามมาอยู่ทีมฝั่งตะวันตกเลย และอย่างที่เรารู้กันว่า ไบรอันท์ ก็ไม่เคยออกไปจากอ้อมกอดของ เลเกอร์ส ที่อยู่ฝั่งตะวันตกเลยซักครั้ง

ในบทความนี้เราจึงตั้งใจมาหาคำตอบกันว่า ทำไมทั้งสองคนนี้ถึงไม่เคยพบเจอกันเลยในรอบชิงชนะเลิศ NBA ทั้งๆที่ทั้งคู่ต่างเก่งและเป็นตัวเต็งของสายตัวเองมาอย่างยาวนาน

NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก

ทำไม เลบรอน เจมส์ และ โคบี ไบรอันท์ ไม่เคยพบกันในรอบชิง NBA

ช่วงเวลาการเข้าลีกที่ต่างกัน

โคบี ไบรอันท์ ถูกดราฟต์เข้ามาในปี 1996 และเริ่มประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็วเมื่อได้เล่นคู่กับ แชคีล โอนีล โดยทั้งคู่สามารถพา แอลเอ เลเกอร์ส เข้าชิงได้ถึง 4 ครั้งด้วยกัน 

สามจากสี่ครั้งแรกนั้น พวกเขาคว้าแชมป์ได้ทั้งหมดตั้งแต่ฤดูกาล 1999-00 ไปจนถึงฤดูกาล 2001-02 แต่ทว่าในช่วงนั้น เลบรอน เจมส์ ยังไม่ย่างก้าวเข้ามาใน NBA เลยด้วยซ้ำ แถมในฤดูกาล 2003-04 ที่ เลเกอร์ส ได้เข้าชิงกับ ดีทรอยต์ พิสตันส์ ราชาในอนาคตอย่าง เจมส์ ก็เป็นเพียงแค่รุกกี้เท่านั้นเอง

นี่จึงเป็นความคลาดเคลื่อนแรกที่เกิดขึ้นระหว่างช่วงเวลาของทั้งสองคนนี้

เลเกอร์สที่เปลี่ยนไปกับ เลบรอน เจมส์ ที่เริ่มฉายแสง

เวลาได้ล่วงเลยไปพร้อมกับ แชค ที่ออกจาก เลเกอร์ส ในฤดูกาล 2004-05 นั่นทำให้ โคบี เป็นสตาร์คนเดียวของทีมและต้องสร้างทีมใหม่อีกครั้ง ในขณะเดียวกัน เลบรอน เจมส์ กับ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ก็เริ่มแสดงความแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆจนสุดท้ายสามารถเข้าชิงไปได้ในปี 2007

แน่นอนครับว่าคู่แข่งไม่ใช่ เลเกอร์ส แต่เป็น ซานแอนโทนิโอ สเปอร์ส ของ ทิม ดันแคน เนื่องจากตอนนั้นทัพม่วงทองยังอยู่ในช่วงปรับเปลี่ยนและไม่มีใครเลยที่จะมาคู่กับ โคบี แบบเป็นชิ้นเป็นอัน แม้ว่าเขาจะเป็นผู้ทำแต้มเฉลี่ยสูงสุดที่ 31.6 แต้มต่อเกมในฤดูกาลปกติ แต่ก็ต้องแพ้ให้กับ ฟินิกซ์ ซันส์ ตั้งแต่รอบแรกไป 4-1 เกม

Foto: Getty Images

ยุคทองของ แอลเอ เลเกอร์ส และ บอสตัน เซลติกส์ 

พาว กาซอล ผู้เล่นที่สร้างจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ให้กับ เลเกอร์ส ด้วยการย้ายเข้ามาระหว่างฤดูกาลจาก กริซลีย์ส เขาเป็นเหมือนจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายกับทีมที่ครบพร้อมของ เลเกอร์ส จนสามารถพาทีมเข้าชิงได้อีกครั้งในฤดูกาล 2007-08 

ส่วนทางฝั่งตะวันออก เลบรอน เจมส์ กลับต้องเจอตอชิ้นใหญ่ที่มีชื่อว่า บอสตัน เซลติกส์ ที่ได้รวบรวมบิ๊กทรีอย่าง พอล เพียร์ซ, เรย์ อัลเลน และ เควิน การ์เน็ตต์ เข้ามาไว้ด้วยกันในช่วงซัมเมอร์ปี 2007 จนกลายเป็นทีมที่ใครในฝั่งตะวันออกก็ต้องหวาดกลัว

เลเกอร์สสามารถเข้าชิงได้สามปีติดในยุคทองของพวกเขาตั้งแต่ 2007-08 ไปจนถึง 2009-10 แต่ทว่ากลับไม่เจอ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส เลยซักครั้ง ส่วนหนึ่งก็เพราะว่า เซลติกส์ ที่ทุบทีมของ เจมส์ ถึงสองครั้งในรอบสองทั้งปี 2007-08 และ 2009-10 นั้นเป็นฝ่ายเข้ารอบมาเจอกับพวกเขาแทนในรอบชิง

ฤดูกาล 2008-09 กับความใกล้เคียงเพียงปลายนิ้ว

ในปี 2008-09 เจมส์ ได้กลายเป็นสตาร์ของลีกอย่างเต็มตัว สามารถคว้า MVP ครั้งแรกของตัวเองมาได้พร้อมกับพา คาวาเลียร์ส คว้าสถิติดีที่สุดของลีกนับตั้งแต่สร้างแฟรนชายส์มา จนใครต่อใครก็มองว่าปีนี้คือปีของเขา

เลบรอน เจมส์ และผองเพื่อน เดินหน้ากวาดซีรีส์กับ พิสตันส์ และ ฮอว์กส์ มาได้อย่างสบายใจ 4-0 เกม จนเหลือเพียงด่านสุดท้ายเท่านั้นที่จะพา แคฟส์ มาเจอกับ โคบี ไบรอันท์ และ เลเกอร์ส แต่ทว่าพวกเขากลับต้านทานร่างทองของ ดไวท์ ฮาเวิร์ด และ ออร์แลนโด้ เมจิก ในตอนนั้นไม่ไหวแพ้ไปแบบน่าเสียดาย 4-2 เกม 

Scroll to Continue with Content

“ผมรู้ว่าทั้งโลกอยากเห็นมัน ผมก็เช่นกัน พวกเราต้องการมัน เขา(โคบี)ทำในส่วนของเขาแล้ว แต่ผมกลับทำมันไม่ได้และผมรู้สึกเกลียดมัน ผมเกลียดที่สิ่งนี้เกิดขึ้น” นี่คือถ้อยคำที่ เลบรอน เจมส์ กล่าวถึงความผิดหวังที่ไม่ได้เข้าชิงกับ เลเกอร์ส ในปี 2009 กับ เดฟ แม็คเมนามิน จาก ESPN

โคบีกับความหวังสามแชมป์ติดและ เลบรอน เจมส์ กับ บิ๊กทรี

ด้วยการได้แชมป์มาถึงสองครั้งติดต่อกัน คงไม่น่าแปลกใจที่ โคบี และ เลเกอร์ส จะหวังทำสามแชมป์ติดเพื่อประกาศความยิ่งใหญ่ของพวกเขา แต่มันกลับต้องจบตั้งแต่รอบสองด้วยน้ำมือของแชมป์ในปีนั้น (2011) อย่าง ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ ที่เก่งเหนือคำบรรยายและมาพร้อมในทุกๆด้านไม่ว่าจะเป็นมือหนึ่งของทีมอย่าง เดิร์ค โนวิทซกี้ หรือทีมที่สร้างมาอย่างดี จนทุบ เลเกอร์ส ไป 4-0 เกม

ในขณะเดียวกัน เลบรอน เจมส์ ที่สร้างข่าวระดับโลกด้วยการไปร่วมกับทีม ไมอามี ฮีต และสร้างบิ๊กทรี เจมส์, เหวด และ บอช ขึ้นมา ก็สามารถพาทีมเข้าชิงได้อีกครั้งกับ ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ ทีมที่ตบ โคบี ร่วงไปแบบไม่เห็นฝุ่นในรอบสองนั่นเอง

สุดท้ายฝั่งที่ดีใจที่สุดก็คือ แมฟเวอร์ริกส์ ที่ได้แชมป์ไปครอง ส่วน โคบี และ เจมส์ ก็ต้องผิดหวังกับการชวดแชมป์ แถมยังไม่ได้เจอกันในรอบชิงอีกด้วย

โคบีที่โรยรากับยุคทองของ เลบรอน เจมส์ 

หลังจากจบปี 2011 โคบีก็ไม่สามารถพาทีมผ่านเกินรอบสองได้เลย โดยแพ้ให้ ธันเดอร์ ในปี 2012 และโดน สเปอร์ส กวาด 4-0 เกมไปตั้งแต่รอบแรกในปี 2013 หลังจากนั้น โคบี ก็เริ่มเข้าสู่ช่วงโรยราและการสร้างทีมใหม่ของ แอลเอ เลเกอร์ส 

ส่วน เลบรอน ที่ย้ายไปอยู่กับ ฮีต สามารถคว้าแชมป์มาได้ถึงสองครั้งจากสี่ปีที่เข้าชิง และได้แหวนอีกหนึ่งวงตอนที่ย้ายไปอยู่กับ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส ในปี 2016 ซึ่งในปีนั้นคือปีรีไทร์ของ โคบี ไบรอันท์ พอดิบพอดี และนั่นคือปีสุดท้ายที่แฟนๆได้เห็นเขาทั้งสองคนอยู่ในสนามร่วมกัน

แม้สุดท้ายทั้งสองคนจะไม่เคยเจอกันในรอบชิง แต่ทว่าผลงานกับสถิติต่างๆจะอยู่กับเราตลอดไป แน่นอนว่าเรื่องนี้คงเป็นบทสนทนาต่อไปอีกหลายสิบปีพร้อมกับคำว่า “ถ้าได้เห็น เจมส์ กับ โคบี เจอกันสักครั้งในรอบชิงก็คงเป็นเรื่องที่ดีเหมือนกัน”

บทความที่เกี่ยวข้อง: 30 วัน 30 ทีม : การพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งของ โดโนแวน มิชเชล กับ คาวาเลียร์ส โฉมใหม่

บทความที่เกี่ยวข้อง: 30 วัน 30 ทีม : ทำไมการใช้ คริส พอล เป็นตัวจริง คือความเสี่ยงของ วอร์ริเออร์ส

ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา

Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH

Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th

Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand