เสื้อ ไมเคิล จอร์แดน รอบชิงปี 1998 ทำสถิติขายได้ 373 ล้านบาท

09-16-2022
2นาทีที่อ่าน

เสื้อเจอร์ซี่ย์ ของทีมชิคาโก้ บูลส์ ปกติก็มีราคาที่สูงมากอยู่แล้ว เพราะเหล่าบรรดานักสะสมต้องการแย่งชิงกันเพื่อโอกาสการเป็นเจ้าของ ส่วนสำคัญคงเป็นมูลค่าทางจิตใจ อย่างในประเทศไทยบ้านเราโดยปกติระดับสวิงแมนที่เป็นมือ 2 ก็ราคาหลักหลายพันบาท ยิ่งถ้าเป็นรุ่นใส่แข่งจริงอย่าง ออเทนติก หรือ เกมวอร์น ยิ่งแล้วใหญ่ ทะลุไปเป็นหลักหลายหมื่น โดยตัวแปรมักจะขึ้นอยู่กับชื่อและเบอร์ที่สกรีนบนเสื้อ รวมถึงสภาพความสมบูรณ์

แต่หนนี้ เสื้อเกมวอร์น ในปี 1998 ของ ไมเคิล จอร์แดน สร้างสถิติระดับพระกาฬ ราคาพุ่งไปถึง 10.1 ล้านเหรียญ (หรือประมาณ 373 ล้านบาท)

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา บริษัทประมูลอย่าง  Sotheby's เปิดเผยว่า เสื้อของจอร์แดนที่โผล่ในเรื่อง เดอะ ลาส แดนซ์ ขายได้ในราคา 10.1 ล้านเหรียญ (หรือประมาณ 373 ล้านบาท) ซึ่งกลายเป็นการสร้างสถิติเสื้อเจอร์ซี่ย์ ที่มีราคาสูงสุด

ตามรายงานของ Dan Hajducky ของ ESPN บอกว่า สถิติก่อนหน้านี้คือเสื้อแข่งขันของ ดิเอโก้ มาราโดน่าตำนานนักฟุตบอลทีมชาติอาร์เจนติน่า โดยเสื้อของเจ้าของฉายา หัตถ์พระเจ้าที่ใส่แข่งขันในฟุตบอลโลกปี 1986 ขายได้ในราคา 9.28 ล้านเหรียญ (ราว 343 ล้านบาท) และถ้าถอยย้อนกลับไปอีก สถิติก่อนหน้าเป็นเสื้อของ เบบ รุธ ตำนานแห่งวงการเมเจอร์ลีกเบสบอล ซึ่งมีมูลค่า 5.64 ล้านเหรียญ (208 ล้านบาท)

ส่วนสถิติของเสื้อบาสเกตบอลที่เคยมีราคาสูงสุดคือ เสื้อในปีรุกกี้ซีซั่นของ โคบี้ ไบรอันท์ ที่มีราคา 3.69 ล้านเหรียญ (ประมาณ 136 ล้านบาท)

นอกจากตัวแปรเรื่องเจ้าของเสื้อแล้ว คุณค่าทางจิตใจที่เกิดจากการรำลึกถึงเหตุการณ์สำคัญ กลายเป็นการเพิ่มมูลค่าระดับทวีคูณให้กับของสะสมได้แบบเหลือเชื่อ

NBA Getty Images

คุณค่าและความสำคัญของเสื้อรอบชิง1998 ที่ถูกใส่โดยไมเคิล จอร์แดน

รองชิงชนะเลิศเอ็นบีเอ ปี 1998 คือ ฤดูกาลสุดท้ายของไมเคิล จอร์แดน กับทีมชิคาโก้ บูลส์ พร้อมกับเป็นปีประวัติศาสตร์ที่ทีม และ “เอ็มเจ” คว้าแชมป์สมัยที่ 6 ซึ่งสร้างเรื่องรางระดับตำนานประดับวงการมาจนถึงยุคปัจจุบัน

“ฤดูกาลนี้คือผลงานชิ้นเอกของเขา เป็นช่วงเวลาที่พิสูจน์เขาในฐานะแชมเปี้ยนและผู้ท้าชิง” บราห์ม วอชเตอร์ หัวหน้าฝ่ายสตรีทแวร์และของสะสมสมัยใหม่ ของร้าน Sotheby's ให้สัมภาษณ์ “เสื้อเจอร์ซี่ย์รอบชิงชนะเลิศของจอร์แดนเป็นของที่หายากมาก โดยเฉพาะรอบชิงปี 1998 เป็นที่ต้องการมากที่สุด”

Scroll to Continue with Content

ซีรี่ส์ดังกล่าว บูลส์ แพ้ แจ๊ซ เกมแรก แต่ว่า 4 จาก 5 เกมต่อมาพวกเขาเอาชนะได้ และคว้าแชมป์ไปในที่สุด เป็นการคว้าแชมป์ 3 สมัยติด ครั้งที่ 2 ของทีม และ จอร์แดน ยังคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของรอบชิงชนะเลิศเป็นสมัยที่ 6 ด้วยสถิติ 33.5 แต้ม 4 รีบาวด์ กับอีก 2.3 แอสซิสต์

เรื่องราวแค่นี้ก็ยิ่งใหญ่พอจะทำคอลเลคชั่นเสื่อทุกตัวในปี 1998 ของบูลส์ กลายเป็นของขึ้นหิ้งในตำนาน แต่เสื้อเบอร์ 23 ยิ่งกลายเป็นสมบัติของคนวงการบาเสกตบอล เพราะลูกตัดสินเกมในเกมที่ 6 

NBA Entertainment

41 วินาทีสุดท้ายในเกม 6 … ฉากคลาสสิคที่สุดแห่งวงการ NBA 

เหลือเวลา 41 นาทีในช่วงควอเตอร์สุดท้าย ซึ่ง ชิคาโก้ บูลส์ ขาดอีกเพียง 1 เกม ก็จะคว้าแชมป์สมัยที่ 6 ส่วน ยูท่าห์ ต้องงัดทุกอย่างที่มีออกมาเพื่อเซฟโอกาสคว้าแชมป์สมัยแรกของทีมให้ได้

ขณะนั้น แจ๊ซ ซึ่งมีทั้ง คาร์ล มาโลน และ จอห์น สต๊อกตัน ขึ้นนำอยู่ 86-83 คะแนน

จอร์แดน ลุยเข้าวางให้ทีมตามเหลือ 1 คะแนน พร้อมกับขโมยบอลมาจาก มาโลน ขณะที่เกมเหลือเวลาอีก 18 วินาที  ฟิล แจ็คสัน ซึ่งเป็นโค้ช ไม่ขอเวลานอก เพื่อไม่ให้ แจ๊ซ ได้เตรียมเซ็ตอัพเกมป้องกัน

ขณะที่เหลือเวลาอีกเพียง 5.2 วินาที พระเจ้าก็เหมือนประทานลูกชู้ตที่ตอกย้ำความเป็นตำนานให้กับ จอร์แดน จังหวะครอสโอเวอร์ใส่ ไบรอน รัสเซลล์ ก่อนจะจั๊มชู้ตระยะหัวกะโหลกช่วยให้ทีมกลับขึ้นมานำ 87-86 คะแนน และหลังจาก สต๊อกตั้น พลาดระยะ 3 แต้มช่วงปิดเกม ทุกอย่างก็จบลง

จอร์แดน ลงเล่น 43 นาที ทำไปทั้งหมด 45 แต้ม และ ทำ 16 จาก 26 คะแนนของทีมในช่วงควอเตอร์ที่ 4

แม้ว่าเกมที่ 6 อาจจะไม่ใช่เสื้อตัวกับที่จอร์แดนใส่ลงในเกม 1 ของซีรี่ส์ แต่เรื่องราวของการปะทะกันระหว่าง บูลส์ กับ แจ๊ซ ในปี 1998 ผสานกับความสุดยอดของ จอร์แดน ทำให้เชื่อได้ว่าเสื้อที่ถูกใส่ออกสื่อในปีนั้น คงจะมีราคากระโดดขึ้นไปอีกอย่างมากแน่นอน