บร็อค เพอร์ดี้ ผลงานสุดโหดแต่ทำไมถูกมองข้ามจาก 31 ทีม ใน NFL

12-18-2023
3นาทีที่อ่าน
(Getty Images)

หากพูดถึงนักอเมริกันฟุตบอลที่มีโอกาสคว้ารางวัล "ผู้เล่นทรงคุณค่า" หรือ MVP มากที่สุดของลีก NFL ในฤดูกาล 2023

ทุกคนย่อมชี้ไปที่คนเดียวกัน นั่นคือ “บร็อค เพอร์ดี้” ควอเตอร์แบ็คที่ถูกดราฟต์ในอันดับสุดท้ายของปี 2022 และเจ้าของตำแหน่ง “Mr. Irrelevant” หรือบุรุษผู้พึ่งพาไม่ได้แห่งดราฟต์ปี 2022

จากวันที่ไม่มีใครสนใจ ไม่มีใครเห็นค่า … บร็อค เพอร์ดี้ กลายเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสุดท้ายที่ ซานฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส ตามหาในการคว้าแชมป์ซูเปอร์โบวล์ หลังจากที่อดีตจอมทัพเบอร์ 3 ของไนเนอร์ส ก้าวขึ้นมาระเบิดผลงานจากตัวสำรอง พาโฟร์ตีไนเนอร์สเข้าไปถึงเกมชิงแชมป์สาย NFC จากฤดูกาลที่แล้ว

เท่านั้นยังไม่พอ … เพอร์ดี้ได้แสดงให้เห็นว่าเขาไม่ใช่ควอเตอร์แบ็คที่เก่งเพราะโชคช่วย แต่ในปีนี้เขาพาโฟร์ตีไนเนอร์สรั้งอันดับ 1 ของสาย NFC พร้อมกับทำไปแล้วรวม 31 ทัชดาวน์ในฤดูกาลนี้

จากควอเตอร์แบ็คที่เกือบไม่มีทีมไหนดราฟต์ กลายเป็นว่าที่เจ้าของรางวัล MVP ได้อย่างไร ติดตามเรื่องราวของบร็อค เพอร์ดี้ ได้ที่นี่ 

Getty Images

ผลงานที่ยอดเยี่ยม

ในความเป็นจริงแล้ว บร็อค เพอร์ดี้ ไม่ใช่ควอเตอร์แบ็คไก่กาไร้ผลงาน เขาได้รับความสนใจจากหลายมหาวิทยาลัยหลังจากเรียนจบไฮสคูล และเขาเลือกเล่นให้กับ Iowa State มหาวิทยาลัยที่ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรมากนัก เพราะเขาต้องการที่จะเล่นเป็นตัวจริงเท่านั้นในระดับคอลเลจ

เพอร์ดี้ไม่ได้ตัดสินใจผิดแม้แต่น้อย เขายึดตัวจริงของทีมได้ตั้งแต่ปีแรก และผลงานรวม 21 ทัชดาวน์ ก็ถือว่าอยู่ในจุดที่รับได้ ไม่ได้น่าเกลียดแม้แต่น้อย

หลังจากนั้นในอีก 3 ปีที่เหลือในมหาวิทยาลัย บร็อค เพอร์ดี้ ทำไป 65 ทัชดาวน์จากการขว้าง ผนวกกับ 14 ทัชดาวน์จากการวิ่ง เมื่อรวมทั้งหมดเขาทำทัชดาวน์กับ Iowa State ไป 100 ทัชดาวน์แบบเป๊ะ ๆ เฉลี่ยปีละ 25 ทัชดาวน์ อาจจะไม่ใช่ผลงานระดับปรากฎการณ์ แต่ก็เป็นหลักฐานที่ยืนยันได้ว่าควอเตอร์แบ็คคนนี้มีศักยภาพพอที่จะไปต่อได้ใน NFL

นอกจากนี้ บร็อค เพอร์ดี้ ยังการันตีด้วยการติดทีมยอดเยี่ยมของลีก BIG 12 ถึง 3 ปีติดต่อกัน ในปี 2019-2021 (ปี 2 ถึง ปี 4 ในระดับมหาวิทยาลัย) โดยในปี 2020 และ ปี 2021 ถือเป็นปีที่เขาติดทีมยอดเยี่ยมในฐานะตัวจริงด้วย 

หากคุณยังไม่เห็นภาพ บร็อค เพอร์ดี้ ได้รางวัลเดียวกับที่ เบเกอร์ เมย์ฟิลด์, คายเลอร์ เมอร์รี, จาเลน เฮิร์ตส์ รวมถึง แพททริค มาโฮมส์ ด้วย !!!

จะประสบความสำเร็จ หรือไม่ประสบความสำเร็จก็เป็นอีกเรื่อง แต่ถ้าดูจากผลงานแล้ว ถือเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริง ๆ ที่ บร็อค เพอร์ดี้ ถูกมองข้ามจากเกือบทุกทีมใน NFL จนกลายเป็นดราฟต์อันดับสุดท้ายในปี 2022

อะไรทำให้เพอร์ดี้ถูกด้อยค่า

ในความเป็นจริง ไม่ใช่ว่าเพอร์ดี้ไม่ใช่ที่รักของแมวมอง ทีแรกเพอร์ดี้ถูกมองเป็นดราฟต์ระดับรอบ 2-3 หากเขาตัดสินใจลงดราฟต์ NFL ในปี 2021 

แต่เนื่องจากดราฟต์ปีนั้นมีควอเตอร์แบ็คเก่ง ๆ ในระดับมหาวิทยาลัย (ณ เวลานั้น) อยู่เพียบ เห็นได้จากการที่มีควอเตอร์แบ็คถูกดราฟต์ในรอบแรกถึง 5 คน ทำให้เพอร์ดี้เลือกที่จะเล่นในมหาวิทยาลัยต่อไปอีกปี

Scroll to Continue with Content

นั่นคือสิ่งที่ทำให้ทุกอย่างพลิกผัน เพราะในปี 2021 เราได้เห็นความมหัศจรรย์ของผู้เล่น อย่าง แพท มาโฮมส์, จอช อัลเลน, โจ เบอร์โรว ที่ดูเป็นอนาคตของ NFL เป็นนิยามของควอเตอร์แบ็คยุคใหม่ของกีฬาอเมริกันฟุตบอล

Getty Images

สิ่งที่ 3 คนนั้นมีพลังแขนที่ยอดเยี่ยมขว้างบอลแนวลึกได้อย่างมหัศจรรย์ และนั่นคือปัญหาของเพอร์ดี้ เขาไม่ได้มีกำลังแขนที่ยอดเยี่ยมขนาดว่าจะขว้างบอลยาว 50 หลา โดยที่น้ำหนักลูกยังยอดเยี่ยม ซึ่งมันทำให้ราคาของเขาตกลงแบบมหาศาล

เท่านั้นยังไม่พอ ในความเป็นจริงแล้ว บร็อค เพอร์ดี้ จัดเป็นควอเตอร์แบ็คฉบับดั้งเดิม คือเน้นยืนอยู่ในพ็อคเก็ตเป็นหลัก และแทบจะไม่วิ่งออกจากนอกพ็อคเก็ตเลย ยกเว้นจำเป็นจริง ๆ เท่านั้น

ซึ่งนั่นไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะ เพอร์ดี้ไม่ได้มีร่างกายเหนือมนุษย์ เขาวิ่ง 40 เมตร โดยใช้เวลา 4.84 วินาที แม้ว่าในความเป็นจริง นี่ไม่ใช่ตัวเลขที่ถือว่าช้าเลยของควอเตอร์แบ็ค แต่ถ้าเทียบกับเทรนด์ของยุคนี้ ความเร็วแค่นี้ถือว่าไม่น่าประทับใจอย่างชัดเจนในสายตาของแมวมอง

ด้วยเทรนด์ที่เปลี่ยนไป ทำให้เพอร์ดี้ถูกมองเป็นควอเตอร์แบ็ค “ตกยุค” ใน NFL … แน่นอนว่าเขาดีพอที่จะเล่นใน NFL แต่ไม่ได้ดีพอที่จะเป็นสตาร์ดังของลีก ไม่ใช่คนที่ทีมใน NFL จะต้องการในตอนนี้

อีกเรื่องหนึ่งที่แมวมองใน NFL มองเพอร์ดี้ คือพวกเขามองว่าเพอร์ดี้ไม่น่าจะพัฒนากว่าตอนเล่นระดับมหาวิทยาลัยได้มากนัก สู้ไปยอมเสี่ยงกับควอเตอร์แบ็คคนอื่น ๆ ที่อาจจะพัฒนาได้มากกว่า โดยเฉพาะคนที่มีพรสวรรค์ทางร่างกาย เช่น มาลิค วิลลิส หรือ เดสมอนด์ ริดเดอร์ 

ด้วยเหตุผลทั้งมวลจึงทำให้ บร็อค เพอร์ดี้ ถูกมองข้าม แม้แต่ ไมอามี ดอลฟินส์ ที่เลือกควอเตอร์แบ็คในรอบ 7 เหมือนกับไนเนอร์ส และมีวิธีบุกเหมือนกับไนเนอร์ส ก็ยังไปเลือก สกายเลอร์ ธอมป์สัน แทนที่จะเป็นเพอร์ดี้

ทั้งที่ผลงานของธอมป์สันในระดับมหาวิทยาลัยห่างกับเพอร์ดี้แบบเทียบไม่ติด แต่ด้วยพรสวรรค์ทางร่างกายของธอมป์สันที่ดีกว่า และแนวโน้มของธอมป์สันที่ดู “เหมือน” จะพัฒนาได้มากกว่า ก็ทำให้เพอร์ดี้โดนมองข้ามอีก

สรุปคือ เพอร์ดี้ถูก “อคติ” มากมายของวงการ NFL ยุคใหม่ ที่มองถึงแค่ความสามารถในการวิ่ง รวมไปถึงกำลังแขน จนสุดท้ายทำให้ตัวเขาเกือบจะไม่ถูกดราฟต์ใน NFL ปี 2022

แน่นอนว่า บร็อค เพอร์ดี้ ไม่มีทางเล่นใน “สไตล์” เดียวกับ มาโฮมส์, อัลเลน หรือเบอร์โรว แต่เหมือนทีมใน NFL จะลืมไปว่าการเป็นควอเตอร์แบ็คที่ดี ไม่จำเป็นต้องมีกำลังแขนที่ยอดเยี่ยมเหนือมนุษย์ หรือว่ามีร่างกายที่ดีเหนือมนุษย์เช่นกัน

แต่ควอเตอร์แบ็คที่ดีย่อมต้องมีความนิ่ง, ความกล้าในการตัดสินใจ, ความฉลาดในการเล่น ซึ่งนี่คือสิ่งที่ บร็อค เพอร์ดี้ มีอย่างครบถ้วน แต่คนกลับมองข้ามไปเอง 

บร็อค เพอร์ดี้ ไม่ได้คู่ควรกับการถูกดราฟต์อันดับสุดท้ายในปี 2022 แม้แต่น้อย … แต่บางทีอาจจะเป็นโชคชะตาของเขาก็ได้ เพราะมีทีมเดียวที่เห็นศักยภาพของเขา นั่นคือ ซานฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส 

บางทีไนเนอร์ก็สมควรที่จะได้รับผลตอบแทน กับความเชื่อใจที่มีให้ บร็อค เพอร์ดี้ ซึ่งอาจจะเป็นการคว้าแชมป์ซูเปอร์โบวล์สมัยที่ 6 ก็เป็นได้