ไมอามี ดอลฟินส์ ถือเป็นอีกทีมที่ผลงานได้ดีในฤดูกาล 2021 แต่กลับไล่ไบรอัน ฟลอเรสออกจากตำแหน่งเฮดโค้ช ภายหลังจบฤดูกาลไม่ถึง 24 ชั่วโมง ทั้งที่ฟลอเรสเป็นโค้ชทีเชี่ยวชาญเรื่องแทคติกและกำลังพาดอลฟินส์ไปสู่อนาคตที่สดใส
การปลดฟลอเรสออกจากตำแหน่งสะท้อนถึงการขาดโค้ชผิวดำในเอ็นเอฟแอล ทำให้ฟลอเรสตัดสินใจยื่นฟ้องเอ็นเอฟแอลและหลายสโมสรในข้อหาเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ
ผลงานไม่ขี้เหร่แต่ไม่ได้อยู่ต่อ
ดอลฟินส์ตัดสินใจปลดฟลอเรส ทั้งที่พาทีมชนะ 8 จาก 9 หลังสุด โดยสตีเฟ่น รอสส์ ประธานดอลฟินส์ได้เผยถึงสาเหตุของการแยกทางเฮดโค้ชวัย 41 ปีไว้ดังนี้
“สโมสรแห่งนี้ทำงานร่วมกันเป็นองค์กร สโมสรจะไปข้างหน้าได้ ถ้าทุกฝ่ายในองค์กรทำงานไปพร้อมๆกัน”
แบร์รี่ แจ็คสันจากไมอามี่ เฮรัลด์ รายงานว่า ฟลอเรสต้องการลดอำนาจคริส เกรียร์ ผู้จัดการทั่วไปของสโมสรที่มีส่วนในการตัดสินใจดึงตัวผู้เล่นดราฟต์และฟรีเอเยนต์ ส่วนเอียน ราโพพอร์ตจาก NFL Insider รายงานว่า รอสส์เลือกเกรียร์ท่ามกลางความขัดแย้งและความตึงเครียดระหว่างประธานสโมสรกับเฮดโค้ช
ก่อนที่ข่าวการปลดฟลอเรสจะมาถึง สื่อหลายสำนักคาดว่าเขาจะอยู่คุมทีมต่อหลังจากพลิกสถานการณ์จากขนะนัดเดียวใน 8 นัดแรก สู่การแพ้นัดเดียวใน 9 นัดหลังสุด และพลาดพื้นที่เพลย์ออฟเพียงนิดเดียว
ถึงแม้ฟลอเรสจะไม่สามารถพาดอลฟินส์เข้าเพลย์ออฟตลอด 3 ปีที่เขาคุมทีม แต่ดอลฟินส์กลับมีที่สถิติที่ดีขึ้น จากที่ชนะแค่ 5 จาก 16 เกมในฤดูกาล 2019 ส่วนการชนะ 10 แพ้ 6 ในฤดูกาลต่อมา
นอกจากนี้ ฟลอเรสยังมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับตูอา ตาโกไวลัวและไรอัน ฟิตซ์แพทริก โดยตาโกไวลัวได้รายงานว่า เขาไม่พอใจฟลอเรสที่ทำให้เขาเสียตำแหน่งคงอเตอร์แบ็คตัวจริงไป
สถิติการคุมทีมของฟลอเรส
ถึงแม้จะมีผลงานที่ย่ำแย่ในฤดูกาลแรก แต่สามารถทำได้ดีในสองฤดูกาลหลังสุด แม้ดอลฟินส์จะไม่ได้เข้ารอบเพลย์ออฟก็ตาม
Year | Team | W | L | T | Pct. |
---|---|---|---|---|---|
2019 | Dolphins | 5 | 11 | 0 | .313 |
2020 | Dolphins | 10 | 6 | 0 | .625 |
2021 | Dolphins | 9 | 8 | 0 | .529 |
TOTAL | 24 | 25 | 0 | .490 |
ผลงานดีคดีตกค้าง
ฟลอเรสเคยไปสัมภาษณ์งานตำแหน่งเฮดโค้ชกับบรองโกส์, เทกซานส์, เซนต์ส และ ไจแอนต์ส แต่หลังจากที่เขายืนฟ้องกับเอ็นเอฟแอล สามสโมสรจึงตัดสินใจไม่เลือกเขา และมอบงานเฮดโค้ชให้กับคนอื่น
ฟลอเรสกล่าวหาดอลฟินส์ว่าเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติ รวมไปถึงกล่าวหาบรองโกส์และไจแอนต์สต้องการการสัมภาษณ์งานของเขาเป็นเรื่องน่าอับอาย ไม่กี่วันหลังจากยื่นฟ้อง เทกซานส์ตัดสินใจเลือกเลิฟวี่ สมิธเป็นเฮดโค้ช ซึ่งฟลอเรสมองว่าเทกซานส์แค้นเขาเนื่องจากเป็น 1 ใน 3 สโมสรที่ถูกกล่าวหาด้วย
สตีลเลอร์สมอบโอกาส
3 สัปดาห์หลังจากยิ่นฟ้อง สตีลเลอร์สให้โอกาสฟลอเรสทำงานในฐานะผู้ช่วยด้านเกมรับอาวุโสและโค้ชไลน์แบ็คเกอร์สของไมค์ ทอมลิน
อัล รูนีย์ เดอะ เซคันด์ ประธานสตีลเลอร์สให้เหตุผลในการจ้างฟลอเรสเพราะ “เราคิดว่าเขาเป็นโค้ชที่มีคุณภาพ” ส่วนทอมลินให้เหตุผลว่าการเก็บตัวช่วงเปิดฤดูกาลเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เลือกฟลอเรสเพราะ “ไม่อยากให้เขารู้สึกโดดเดี่ยว”
จากการที่เขาได้งานที่สตีลเลอร์ส ทำให้เขามีโอกาสที่จะรับงานเฮดโค้ชในอนาคต ตราบเท่าที่เก้าอี้่เฮดโค้ชในเอ็นเอฟแอลยังมีที่ว่างสำหรับเขาอยู่