ขาดอีก 1,000 ล้านบาท : ใครจะทำให้ไทยได้ดูฟุตบอลโลก 2022 ?

Author Photo
FIFA World Cup Trophy
(Getty Images)

ฟุตบอลโลกกับคนไทยในปี 2022 ดูเหมือนจะไม่ลงเอยกันง่าย ๆ ในช่วงเวลาไม่ถึง 2 สัปดาห์ ก่อนมหกรรมลูกหนังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของไทยจะเปิดฉากขึ้น ประเทศไทยกลับยังไม่ได้ลิขสิทธิ์ก่อนถ่ายทอดฟุตบอลโลก

แม้ว่าล่าสุด  คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. จะอนุมัติเงินถึง 600 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนเงินซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก แต่ก็ยังขาดอีก 1,000 ล้านบาท ที่จะเข้ามาสมทบเพื่อปิดดีลนี้ และสร้างความฝันในการชมฟุตบอลโลกของชาวไทยให้เป็นจริง

เงิน 1,000 ล้านบาท ไม่ใช่จำนวนเงินน้อย ๆ และประเทศไทยจะมีโอกาสหาเงินจากไหนเข้ามาเพื่อสร้างความฝันให้เป็นจริง ติดตามได้ในบทความนี้

ความช่วยเหลือจากเอกชน

พูดถึงเรื่องเงินทองในโลกทุนนิยม การดึงความช่วยเหลือจากภาคเอกชนโดยภาคส่วนธุรกิจต่าง ๆ ไม่ใช่เรื่องยาก นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปกติยามมีมหกรรมกีฬาระดับโลก การดึงกลุ่มทุนเข้ามาเป็นผู้ร่วมหุ้น หรือสปอนเซอร์ของการแข่งขัน คือสิ่งที่ทำให้ทุกอย่างเดินไปข้างหน้าด้วยดี

ย้อนไปในปี 2018 กับฟุตบอลโลกที่ประเทศรัสเซีย ในตอนนั้นรัฐบาลไทยก็สามารถดึงกลุ่มทุนพันธมิตรหลายเจ้า ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชันแนล และ ทรู คอร์ปอเรชั่น ให้เข้ามาร่วมสบทบทุน ดึงฟุตบอลโลกมาฉายที่ประเทศไทยได้แบบไม่มีปัญหา

ดังนั้นในทางทฤษฎี การดึงเอกชนให้เข้ามาช่วยสนับสนุนค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดไม่ใช่เรื่องยาก เพราะเคยเกิดขึ้นมาแล้ว หากรัฐบาลสามารถเจรจาผลประโยชน์กับกลุ่มทุนได้อย่างลงตัว ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

เพียงแต่สถานการณ์ในปี 2022 ไม่เหมือนกับปี 2018 กลุ่มทุนยักษ์ใหญ่ล้วนเจอผิดเศรษฐกิจจากวิกฤติ COVID-19 จะให้มาทุ่มเงินสนับสนุนฟรี ๆ ให้กับภาครัฐ ไม่ใช่เรื่องที่สมเหตุสมผลเท่าไหร่นัก กับสภาวะการเงินของประเทศไทยที่ไม่สู้ดีนักแบบนี้ 

หากรัฐบาลสามารถขอความช่วยเหลือจากภาคเอกชนได้ถือเป็นเรื่องดี แต่ถ้าไม่สำเร็จ ก็เป็นงานหนักของรัฐบาลที่ต้องหาทางจัดการด้วยตัวเอง เพราะด้วยกฎ Must Have ที่ทางรัฐบาลยุคของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นคนเริ่มต้นขึ้นมาเอง พวกเขาก็ต้องเรียนผูก และต้องเรียนแก้ด้วยเช่นกัน

สิทธิ์ถ่ายทอดสดหายไปไหน : ทำไมคนไทยอาจ “อดดู” ฟุตบอลโลก 2022 ?

ความช่วยเหลือจากรัฐบาล 

ย้อนไปในการแข่งขันยูโร 2020 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ตรงกับวิกฤติ COVID-19 แบบพอดี รัฐบาลไทยก็คือคนที่จัดการปัญหาทั้งหมดด้วยตัวเอง และปิดดีลสายฟ้าแลบ คว้าสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันชิงแชมป์ยุโปรมาได้สำเร็จ

โดยในตอนนั้นรัฐบาลสามารถดึงนายทุนหลักคือ โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ นักธุรกิจที่มีความใกล้ชิดกับพรรคพลังประชารัฐให้เข้ามาเป็นนายทุนหลัก ปิดดีลการถ่ายทอดสดยูโร 2020 มาได้ ด้วยเงินสนับสนุน 300 ล้านบาท 

แต่สถานการณ์ในตอนนี้ ประเทศไทยต้องการเงินอีก 1,000 ล้านบาท เพื่อมาสนับสนุนการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก ถึงรัฐบาลจะระดมเงินทุนจากคนใกล้เคียง ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะปิดดีลตรงนี้ได้แน่นอน 

หากมองถึงสถานการณ์ปัจจุบัน เงิน 600 ล้านที่กสทช. ระดมทุนมา จะอยู่ในมือของ การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. ที่จะต้องนำไปดำเนินการต่อ เพื่อปิดดีลลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกให้ได้ 

ซึ่ง กกท. คือหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่อยู่ใต้การดูแลของ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ดังนั้นกลุ่มสำคัญที่จะชี้ชะตาว่า คนไทยจะได้ดูฟุตบอลโลกหรือไม่ในตอนนี้ ก็คือ “กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา”

จากรายจ่ายประจำ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มีจำนวนทั้งสิ้น 9,564,753,700 บาท ซึ่งจากข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2565 ก็ได้มีการใช้ไปมากกว่า 8 พันล้านบาทแล้ว

พูดง่าย ๆ คือ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ก็แทบไม่เหลืองบมาใช้จ่ายเพิ่มเติมในการสมทบทุนค่าลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก 2022 เช่นกัน

ดังนั้นตัวชี้ชะตาคือรัฐบาลไทย จะยอมจัดสรรงบประมาณโดยเฉพาะลงมา เพื่อสบทบทุนซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกหรือไม่ ถ้ามีการแบ่งงบมาคงไม่ใช่เรื่องอยากที่จะปิดดีลฟุตบอลโลก แต่ถ้าไม่เกิดขึ้นก็เป็นงานหนักมาก ๆ ที่คนไทยจะได้ชมฟุตบอลโลกในรอบนี้

NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก

ผู้แต่ง
Author Photo
Beyond the score: The sports world explained. The Sporting News has been a trusted sports media publisher since 1886, delivering the news, insights and entertainment that fans around the world need to know.
LATEST VIDEOS