ดีลปาดหน้าซื้อตัวสะท้านฟ้าตลอดกาลแห่งประวัติศาสตร์ฟุตบอล ชื่อของ "จอห์น โอบี มิเกล" ต้องขึ้นมาเป็นอันดับแรกโดยเฉพาะแฟนผีที่แค้นฝังหุ่นจากกรณีชิ่งย้ายซบเชลซีเมื่อปี 2006 ทั้งที่เขาสวมเสื้อ "ปีศาจแดง" เปิดตัวไปก่อนหน้าแล้ว
แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป อีโก้ก็จางหายตามเช่นกันเพราะไฟแค้นที่สุมมานานกว่า 18 ปี ได้ยุติลงแล้วเมื่อ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เปิดอกเคลียร์ใจกับ โอบี มิเกล ถึงดีลในตำนานกันแบบสองต่อสองในเกมนัดชิงแชมเปียนส์ลีกเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา โดยเรื่องนี้ตัวของนักเตะเป็นคนเอามาเล่าเองกับปากในรายการพอดแคสต์ของสื่อกีฬา talkSPORT ในวันนี้
[red-block widget_catalog_id="dafa_th_2" title="ทำนายผลการแข่งขันเพื่อรับรางวัลใหญ่! คลิกที่นี่" link="https://bit.ly/3AaJ15t"]
ปิดตำนาน "เซอร์ อเล็กซ์" VS "จอห์น โอบี มิเกล"
หลังจบเกมนัดชิง UCL เมื่อ 1 มิถุนายนที่ผ่านมาทวิตเตอร์ของ จอห์น โอบี มิเกล ได้เผยภาพเขาร่วมเฟรมกับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตำนานกุนซือที่ครั้งหนึ่งเมื่อปี 2005 เคยตกปากอย่างดีว่าจะได้ร่วมงานกันแต่สุดท้ายเป็นฝ่ายนักเตะเองที่หักหลังไปเลือกเชลซี ที่มาทีหลัง
เมื่อภาพดังกล่าวกระจายออกไป โอบี มิเกล ก็เผยในเวลาต่อมาผ่านรายการของสื่อ talkSPORT เทปเมื่อวานนี้(5 มิ.ย.) ว่าเขาได้เคลียร์ใจกับป๋าแล้ว ซึ่งตัวของป๋าก็ไม่ถือโทษโกรธเคืองอีกต่อไป
"เป็นเรื่องดีจริง ๆ ที่เขา(ป๋า)ให้อภัยผมหลังจากเรื่องผ่านมานานมาก ผมได้คุยกับเขาแบบส่วนตัว ป๋าพูดถึงเรื่องฟุตบอลยุคเก่า ๆ ที่ผมเคยผ่านช่วงเวลานั้นมา แต่เขาเป็นคนน่ารัก ขนาดอายุ 82 ปีแล้วก็ยังแข็งแกร่งอยู่"
"เมื่อถึงตอนผมพูด ผมอวยพรขอให้ป๋าอายุมั่นขวัญยืน จากนั้นเขาก็ให้โอวาทแก่ผม 'นาย(มิเกล)มีอาชีพค้าแข้งที่น่าทึ่งกับเชลซี ฉันจะไม่พูดอะไรถึงเรื่องนั้นอีกต่อไป แต่ตอนนี้ฉันยกโทษให้นายแล้วนะ' นั่นคือสิ่งที่ป๋าพูดกับผม"
เท่านั้นไม่พอ มิเกล ยังเล่าถึงช่วงเวลาที่ เชลซี ลักพาตัวเขาไปเซ็นสัญญาจนเกิดเป็นดีลในตำนานว่า
"แล้วเมื่อ เชลซี เห็นข่าวเซ็นสัญญากับ ยูไนเต็ด แบบล่วงหน้า มันทำพวกเขาอยู่เฉยไม่ได้ต้องส่งเจ้าหน้าที่มาลงตรวจสอบเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น แลัววันหนึ่งผมก็ถูกลักพาตัวที่นอร์เวย์ ผมถูกพาไปซ่อนที่ไหนสักแห่งประมาณ 2-3 ชั่วโมงและไม่มีใครรู้ว่าผมอยู่ไหน ก่อนจะบินไปลอนดอนและขังผมอยู่ที่ไหนสักแห่ง แล้วค่อยมาเซ็นสัญญากัน"
ร่วมสนุกลุ้นรางวัลพร้อมโบนัสก้อนใหญ่
ลุ้นโชคที่นี่! ทายผลฟุตบอลประจำวันกับเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือที่สุด
ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา
Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th
Tiktok : https://www.tiktok.com/@thesportingnewsthailand