เจาะความอัจฉริยะ อิชิอิ กับแผนปั้นกองหน้าโนเนมเป็นดาวซัลโวเจลีก 2

Songsak Srisuk

• 2นาทีที่อ่าน

Getty Images

เครื่องหมายการค้าเด่นของกุนซือชาวญี่ปุ่น มาซาทาดะ อิชิอิ คือการปั้นทีมเล็กก้าวขึ้นไปต่อกรกับทีมใหญ่อย่างไม่เกรงกลัว ดั่งที่เคยทำกับ สมุทรปราการ เมื่อปี 2019 จนสะท้านไทยลีก แต่นอกจากนั้นเขาก็ยังเก่งในเรื่องปั้นนักเตะธรรมดา ๆ ให้เป็นยอดแข้งในชั่วพริบตามาแล้วหลายคน เช่น กาคุ ชิบาซากิ จนได้ไปค้าแข้งที่ ลา ลีกา, ปั้น เจริญศักดิ์ วงศ์กรณ์ เป็นดาวแอสซิสไทยลีก 2019 และปั้น ศุภชัย ใจเด็ด คว้าดาวซัลโวไทยลีก 2022

แต่กระนั้นช่วงหนึ่งของ อิชิอิ สมัยคุมทีม โอมิยะ อาดิย่า ในศึกเจลีก 2 เมื่อปี 2018 นักเตะคู่บุญของเขากลับเป็นตัวละครลับอย่าง เกนกิ โอมาเอะ กองหน้าร่างเล็กสูงแค่ 167 ซม. ที่ถูก อิชิอิ ปั้นจนเป็นดาวซัลโวเจลีก 2 ด้วยสถิติถล่มประตูสุดคลั่ง 24 ลูก จาก 41 เกม ทั้งที่ฤดูกาลก่อนเขายิงได้แค่ 2 ประตูจาก 25 เกมเท่านั้น

อิชิอิ ใช้กลยุทธ์อะไรในการพลิก โอมาเอะ จากกองหน้าปืนฝืดสู่เพชรฆาจอมยิงประตู เรื่องจะสนุกแค่ไหน ติดตามเคล็ดลับของเขาได้ที่นี่...

[red-block widget_catalog_id="m88_th_6" title="เดิมพันฟรีพร้อมรับโบนัสก้อนใหญ่สุดคุ้ม! คลิกที่นี่" link="https://record.cole5555.com/_hW07bz6k-ZcysOMpZep-XGNd7ZgqdRLk/19/"]

รากฐานสู่ความเป็นเลิศ

4-4-2 แฟนบอลที่ได้เห็นแผนนี้อาจมโนไปแล้วว่ามันเชย โบราณ ไม่ทันสมัย แต่สำหรับ มาซาทาดะ อิชิอิ กลับเป็นเครื่องทำมาหากินชั้นเอกที่ใช้มาตั้งแต่วันแรกที่เป็นกุนซือ คาชิมา แอนท์เลอร์ เมื่อปี 2015

และด้วยความที่เป็นโค้ชฟิตเนสมาก่อน แผน 4-4-2 ที่กองกลาง 4 ตัวต้องใช้พละกำลังความฟิตในการวิ่งอย่างมหาศาลจึงเข้าทางกับ อิชิอิ อย่างมากเพราะฟุตบอลญี่ปุ่นเน้นเพรสซิ่งเป็นทุนเดิมอยู่แล้วเลยส่งผลให้กองหน้าและกองหลังไม่แบกภาระหนักเกินไป ซึ่งแผนนี้ก็พาเขากวาดแชมป์กับ คาชิมา ได้ถึง 4 ถ้วยในปี 2016-2017

จนกระทั่งฤดูกาล 2017-18 อิชิอิ ได้รับหน้าที่เป็นกุนซือ โอมิยะ อาดิย่า ให้พาทีมหนีตกชั้นเจลีก 1 แต่เขาทำไม่สำเร็จจบบ๊วยทั้งซีซั่นชนะแค่ 5 เกม ตกชั้นมาเจลีก 2 อย่างไรก็ตาม การที่ร่วงมาลีกความเข้มข้นน้อยกว่าทำให้เขาเค้นศักยภาพนักเตะออกมาได้อย่างสูงสุดซึ่งคนนั้นคือ เกนกิ โอมาเอะ

Getty Images

ณ เวลานั้นไม่มีใครเชื่อว่า โอมาเอะ จะยิงประตูถล่มทลายได้เพราะฤดูกาลก่อนตอนที่เล่นอยู่บนเจลีก 1 ยิงได้แค่ 2 ลูกจาก 25 เกมเท่านั้น แต่ในมุมมองของ อิชิอิ เขาปรับปรุงแผน 4-4-2 ที่เขาถนัดใหม่ด้วยการเสริมกองหน้าต่างชาติชาวสวีเดน โรบิน ซิโมวิช สูง 199 ซม. มายืนค้ำให้ โอมาเอะ ที่สูงแค่ 167 ซม. ยืนเป็นหน้าต่ำคอยสอดมาจากแถวสอง

ส่วนแผงกองกลางหัวใจหลักจะเป็น ทาคามิสุ โทมิยามะ กับ คานาซาวะ ชิน คอยวิ่งขึ้นลงและเข้าเพรสซิ่งอย่างบ้าคลั่งร่วมกับ โอมาเอะ ที่เป็นกองหน้าร่างเล็กแต่ทดแทนด้วยการวิ่งไล่แดนบนที่เยอะมาก นำมาสู่แทคติกเพรสซิ่งสูงแล้วโต้กลับเร็วเจาะทะลุตรงกลางแล้วจบสกอร์ตอนที่คู่แข่งกำลังครองบอลบุกเพลิน ๆ ซึ่งมันช่วยพลิก โอมาเอะ จากปืนฝืดยิงปีที่แล้ว 2 ประตู ขึ้นมาเป็น 24 ประตู

อย่างไรก็ตาม หลังจบฤดูกาล 2018 อิชิอิ ถูกปลดจากตำแหน่งกุนซือ โอมิยะ อาดิยา หลังพาทีมจบอันดับ 5 แล้วไปตกรอบแรกเพลย์ออฟเลื่อนชั้นพลาดขึ้นสู่เจลีก 1 แบบน่าเสียดายแม้ว่าทั้งฤดูกาลทีมจะซัดไปถึง 65 ประตูมากเป็นอันดับ 3 ของลีกก็ตาม

Getty Images

ส่วนทาง โอมาเอะ หลังไม่มี อิชิอิ เป็นกุนซือเขาก็ไม่กลับมาถล่มประตูได้อีกเลยโดยฤดูกาล 2019 เขายิงให้ โอมิยะ อาดิยา 6 ประตูจาก 33 เกมเท่านั้นก่อนจะกลายเป็นแข้งพเนจรย้ายทีมไปเรื่อยซึ่งปัจจุบันในวัย 34 ปีเขาค้าแข้งกับ นันคัตสึ เอสซี ในศึกเจลีก 5 และไม่มีรายงานว่าเขายิงไปเท่าไร

ขณะที่ อิชิอิ กลยุทธ์ที่เขาเคยปั้น โอมาเอะ นั้นทำให้นึกถึงไทยลีกฤดูกาล 2022-23 ที่เขาให้ ศุภชัย ใจเด็ด ยืนเป็นกองหน้าตัวต่ำคอยสอดมายิงจากกองหน้าต่างชาติที่คอยพักบอลให้ซึ่งปีนั้นเจ้าอาร์มกดไป 19 ประตู คว้าดาวซัลโวเดี่ยว ๆ

[red-button widget_catalog_id="m88_th_5" link="https://record.cole5555.com/_hW07bz6k-ZcysOMpZep-XGNd7ZgqdRLk/20/" logo_name="M88" game_title="เดิมพันฟรีพร้อมรับโบนัสก้อนใหญ่สุดคุ้ม!" button_text="คลิกที่นี่"]

[/red-button]