โรมาริโอ ถือเป็นกองหน้าที่ขึ้นชื่อเรื่องการก่อความวุ่นวาย แม้ว่าเขาจะเป็นนักเตะพรสวรรค์สูงก็ตาม เขามักมีพฤติกรรมสร้างปัญหาอยู่เสมอ และสร้างความเดือดร้อนอยู่ตลอด
หลาย ๆ ครั้ง ผู้จัดการทีมก็ต้องยอมแลกความปวดหัว เพื่อฝีเท้าที่ยอดเยี่ยมของเขา โดยในฟุตบอลโลก 1994 ทำให้เห็นว่ากองหน้ารายนี้มีปัญหามากแค่ไหน แต่สุดท้ายมันก็คุ้มค่ากับการมีเขาอยู่ในทีม
ไม่นั่งสำรอง
ในปี 1992 คือช่วงเวลาที่โรมาริโอประสบความสำเร็จ กับสโมสรพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น เป็นอย่างมาก เขายิง 96 ประตู ใน 4 ฤดูกาลให้กับยอดทีมจากเนเธอร์แลนด์
อย่างไรก็ตามใน วันที่ 16 ธันวาคม 1992 ทีมชาติบราซิลมีเกมอุ่นเครื่องกับทีมชาติเยอรมัน โรมาริโอถูกเรียกติดทีมชาติตามปกติ แต่ในเกมนี้โค้ชใหญ่ อย่าง คาร์ลอส อัลแบร์โต เปเรย์ร่า ให้โรมาริโอนั่งเป็นตัวสำรองเท่านั้นในเกมนี้
แน่นอนว่ากองหน้ารายนี้รู้สึกไม่พอใจ และแสดงท่าทีชัดเจน เขาบอกกับผู้จัดการทีมทันทีว่า เขาจะไม่บินไกลมาจากเนเธอร์แลนด์ หากรู้ว่าจะต้องมานั่งสำรองแบบนี้
หลังจากที่กองหน้ารายนี้บอกแบบนั้นกับผู้จัดการทีม มันก็ไม่แปลกเลยที่เปเรย์ร่าจะทำการแบนโรมาริโอจากทีมชาติในทันที
อย่างไรก็ตาม การแบนโรมาริโอส่งผลเสียทันทีกับทีมชาติบราซิล เพราะพวกเขาแพ้ในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกโซนอเมริกาใต้ให้กับทีมชาติโบลิเวียทันที จนแฟน ๆ เริ่มเรียกร้องให้เอาโรมาริโอกลับมาเล่นให้ทัพเซเลเซาอีกครั้ง
บราซิลอยู่ในสถานการณ์ที่จะต้องเอาชนะ หรือเสมอทีมชาติอุรุกวัยเท่านั้น เพื่อให้จบรอบคัดเลือก ในฐานะอันดับที่ 1 ของกลุ่ม เพื่อเป็นการการันตีในการไปเล่นฟุตบอลโลก
ในช่วงก่อนเกมที่จะต้องเจอกับทีมชาติอุรุกวัย เปเรย์ร่า ยอมแพ้ต่อเสียงเรียกร้อง และเรียกโรมาริโอกลับมาติดทีมชาติจนได้
ในช่วงก่อนเกม โรมาริโอประกาศว่า เขารู้ว่าเขาจะถูกเรียกติดทีมชาติแน่ ๆ และเขาจะเป็นคนจัดการกับทีมชาติอุรุกวัยเอง ด้วยถ้อยคำที่มั่นใจนี้ มันมาจากความเชื่อมั่นในความสามารถของตัวเองมาก ๆ และเขาทำมันได้จริง ๆ
นัดนั้นทีมชาติบราซิลเอาชนะทีมชาติอุรุกวัย 2-0 โดยที่เป็นโรมาริโอยิงได้ทั้ง 2 ประตู และส่งผลให้ทีมชาติบราซิลได้ไปลุยฟุตบอลโลก 1994 ในฐานะแชมป์กลุ่ม แน่นอนว่าทางเปเรย์ร่าผู้จัดการทีมเองก็ยอมรับว่า พระเจ้าได้ส่งโรมาริโอมาช่วยพวกเขาให้เข้ารอบ
ปัญหากับเบเบโต้
ในฟุตบอลโลก 1994 ที่จัดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา โรมาริโอ จะต้องเล่นร่วมกับกองหน้าอีกคนที่มีชื่อว่า เบเบโต้ โดยทั้งคู่เล่นร่วมกันมาแล้วหลายปีในทีมชาติบราซิล และเป็นคู่กองหน้าตัวความหวังที่จะคว้าถ้วยฟุตบอลโลกสมัยที่ 4 มาครองให้ได้ หลังจากที่ทีมชาติบราซิลไม่สามารถคว้าแชมป์ได้เลยนับตั้งแต่ฟุตบอลโลก 1970 มันนานเหลือเกินสำหรับพวกเขา 24 ปี ที่รอคอยสำหรับแฟนบอลทีมชาติบราซิล มันใกล้จะจบลงแล้วโดยที่จะต้องหวังจากกองหน้าคู่นี้
อย่างไรก็ตามทั้งคู่มีความแตกต่างกันมาก ๆ ในการใช้ชีวิต โรมาริโอเป็นคนที่มีแพชชั่นสูงมาก ๆ และยังมีอารมณ์แปรปรวน เขาเป็นอัจฉริยะในสนามฟุตบอล แต่ก็ไม่ใช่คนที่ดีนัก
ขณะที่เบเบโต้เป็นคนที่เคร่งศาสนา และรักครอบครัวมาก ๆ เขาเป็นเหมือนกับฮีโร่ในชีวิตจริง โดยที่ครั้งหนึ่งโรมาริโอเคยบอกว่า เขาทั้งคู่ควรที่จะต่างคนต่างอยู่ เบเบโต้รักครอบครัวมาก แต่เขาขอเป็นแมวข้างถนน ด้วยความต่างนี้มันก็ไม่แปลกเลยที่จะทำให้ทั้งคู่อยู่ร่วมกันไม่ได้
โชคดีที่ทั้งคู่ในสนามถือว่าเล่นเข้าขากันเป็นอย่างมาก และฟุตบอลโลก 1994 ไม่ใช่ครั้งแรกของทั้งคู่ มากไปกว่านั้นเหตุผลที่ เปเรย์ร่าเลือกที่จะเรียกโรมาริโอกลับมาติดทีมชาติบราซิลอีกครั้งนั้น ก็เป็นเพราะคำแนะนำจากเบเบโต้ด้วย
ซึ่งแน่นอนว่าเบเบโต้เป็นนักเตะที่มีความเป็นมืออาชีพสูงมาก ๆ โดยมองว่าการเล่นเข้าขากันของทั้งคู่จะส่งผลดีต่อทีมชาติบราซิลแน่นอน โดยเฉพาะนัดตัดสินสำคัญในการเจออุรุกวัย เพื่อไปลุยฟุตบอลโลก 1994
อย่างไรก็ตาม โรมาริโอยืนยันว่าเขาจะไม่ขออยู่ร่วมกับเบเบโต้ เช่น เรื่องการนั่งบนเครื่องบิน ก็ไม่ขอไปนั่งข้าง ๆ เบเบโต้ เป็นต้น
แม้จะดูเหมือนมีความไม่กินเส้นกันอยู่ แต่ทั้งสองคนก็เจอเรื่องโชคร้าย โดย เดนิส เด โอลิเวร่า ภรรยาที่ตั้งครรภ์ของเบเบโต้ เธอถูกขโมยรถ และถูกจี้เพื่อชิงนาฬิกาโรเล็กซ์ โชคดีที่ภรรยาของเบเบโตไม่ได้รับบาดเจ็บ
ขณะที่ คุณพ่อของโรมาริโอถูกลักพาตัวไป และเรียกค่าไถ่ถึง 7 ล้านปอนด์ หรือ 294 ล้านบาท แต่โชคดีที่มีการช่วยคุณพ่อของโรมาริโอออกมาได้อย่างปลอดภัย
เหตุการณ์ที่กระทบต่อจิตใจส่งผลให้ทั้งคู่ได้พูดคุยกันมากขึ้น มันได้พัฒนาความสัมพันธ์ของทั้งคู่ได้ดีมาก ๆ แบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน พวกเขาได้มีการพูดคุยกัน และยิ่งได้เห็นการเล่นที่เข้าขากันมากขึ้นระหว่าง โรมาริโอ และ เบเบโต้
สุดท้ายแล้วมันดีต่อส่วนรวม ทีมชาติบราซิลสามารถคาดหวังได้หลายอย่างในฟุตบอลโลกคราวนี้ บางทีพวกเขาอาจจะกลับมาเป็นแชมป์ เพราะกองหน้า 2 คนนี้ก็ได้
ฮีโร่แชมป์โลก
โรมาริโอ ยิงได้ 5 ประตูในทัวร์นาเมนต์นั้น โดยยิงได้ในรอบแบ่งกลุ่มทั้ง 3 นัด ในกลุ่มที่มีทีมชาติสวีเดน, ทีมชาติรัสเซีย และทีมชาติแคเมอรูน ช่วยให้ทีมชาติบราซิลจบรอบแบ่งกลุ่มในฐานะแชมป์กลุ่มได้สำเร็จ
แน่นอนว่าการเล่นร่วมกันของโรมาริโอ และเบเบโต้ได้ผล เปเรย์ร่าผู้จัดการทีมถึงกับออกปากเลยว่า ทั้งคู่เป็นนักเตะที่ความสุดยอดในการเล่น สกิลการเล่นที่สวยงาม ผสมกับความเป็นเพชรฆาตในกรอบเขตโทษนั้นสุดยอดมาก ๆ
ในรอบ 16 ทีมสุดท้ายพวกเขาต้องเจอกับชาติเจ้าภาพอย่างทีมชาติสหรัฐอเมริกา โดยกว่าที่จะยิงได้ก็ต้องรอจนถึงนาทีที่ 72 โดยเป็นประตูจากเบเบโต้ ที่ประตูนั้นเป็นแอสซิสต์โดยโรมาริโอ นั่นเป็นหนึ่งใน 2 นัดเท่านั้นที่เขายิงประตูไม่ได้
ก่อนที่จะมายิงประตูให้ทีมชาติบราซิลอีกครั้ง ในเกมที่เอาชนะทีมชาติเนเธอร์แลนด์ 2-3 ในรอบก่อนรองชนะเลิศ ตามด้วยรอบรองชนะเลิศที่เอาชนะทีมชาติสวีเดนได้ 1-0 จากลูกโหม่งของโรมาริโอในช่วงท้ายเกม ทำให้ทีมชาติบราซิลกลับไปชิงชนะเลิศอีกครั้ง
ในนัดชิงชนะเลิศทีมชาติบราซิลต้องโคจรมาพบกับทีมชาติอิตาลี ก่อนที่เกมจะจบลงที่ผลเสมอ โดยตัดสินกันที่การดวลจุดโทษ โรมาริโอเป็นคนสังหารจุดโทษลูกที่ 2 ก่อนที่จะจบลงที่ทีมชาติบราซิลชนะจุดโทษ 3-2
ทำให้ในครั้งนั้นนอกจากโรมาริโอจะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกแล้ว เขายังได้รับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์ และ ติดทีมรวมดาวฟุตบอลโลกอีกด้วย โดยจนถึงตอนนี้ยังไม่มีนักเตะจากทีมแชมป์ฟุตบอลโลกที่คว้าได้ทั้ง 2 รางวัลนี้เลยนับตั้งแต่นั้นมา
โรมาริโอ ถือเป็นกองหน้าระดับตำนานอีกคนหนึ่งของทีมชาติบราซิล เขาถือเป็นนักเตะพรสวรรค์สูงและมีฝีมือมากๆ ถึงแม้ว่าเขาจะมีปัญหานอกสนามบ้างก็ตามแต่สุดท้ายเขาก็ทำได้จริง ๆ
เขาเป็นเหมือนกับตัวอย่างของกองหน้าหลายๆคนในบราซิล เพราะฝีเท้าของเขานั้นสุดยอดมากๆ และฟุตบอลโลก 1994 ทีมชาติบราซิลคงกลับมาเป็นแชมป์ไม่ได้ หากไม่ได้มีเขาอยู่ในทีม