หากเราดูไปที่ทีมจ่าฝูงของ 5 ลีกใหญ่ยุโรป สิ่งที่เราเห็นคือแต่ละทีม มักเป็นทีมที่เคยลุ้นแชมป์มาอยู่แล้ว
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตามหลังอาร์เซนอลมาติด ๆ ที่พรีเมียร์ลีก,นาโปลีโชว์ฟอร์มเทพในเซเรีย อา, เปแอสเชยังคงผูกขาดความแข่งแกร่งกับลีกเอิง หรือบาร์เซโลน่าที่เพิ่งแซงเรอัล มาดริด ในลาลีกาสัปดาห์ล่าสุด
ภาพที่เกิดขึ้นจาก 4 ลีกที่เรากล่าวมา คือเรื่องที่เป็นไปได้อยู่แล้ว แต่หากมองมาที่บุนเดสลีกาของเยอรมัน ใครจะไปคิดว่าทีมเล็ก ๆ อย่าง อูนิโอน เบอร์ลินจะสามารถขึ้นไปอยู่ในฐานะจ่าฝูงของลีกได้ ในลีกที่มีมหาอำนาจอย่างบาเยิร์น มิวนิค และทีมลุ้นแชมป์เจ้าประจำอย่างโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ รวมถึงแอร์เบ ไลป์ซิก แต่ทีมเล็ก ๆ ที่ขึ้นมาเล่นลีกสูงสุดเพียงไม่กี่ปี กลับขึ้นมารั้งหัวตารางหน้าตาเฉย
แน่นอนว่าพวกเขามีความสุดยอดของตัวเองที่ได้มาอยู่ในจุดนี้ แต่อะไรคือเบื้องหลังความสุดยอดนั้น ติดตามไปพร้อมกับเรา
การเตรียมทีมให้พร้อม
การเตรียมทีมของอูร์ส ฟิสเชอร์ ผู้จัดการทีมอูนิโอน เบอร์ลิน ต้องทำให้พร้อมในทุกด้านก่อนเข้าสู่ฤดูกาล แน่นอนว่าด้วยความที่พวกเขาเป็นทีมเล็ก ๆ ที่พึ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาจากลีกา 2 ได้ไม่นาน ยิ่งไม่แปลกเลยที่พวกเขาจะมีโอกาส จะเสียผู้เล่นตัวหลักไปเป็นว่าเล่น ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ต้องพบเจออยู่แล้วสำหรับทีมระดับนี้
ซัมเมอร์ล่าสุดพวกเขาเสียกองหน้าตัวหลักอย่าง ไตโว อโวนิยี่ ไปในราคา 20.5 ล้านยูโร ให้กับน็อตติงแฮม ฟอร์เรสต์ และอีกหลาย ๆ คนในแต่ละจุด หลังจากพวกเขาทำผลงานดีในฤดูกาลทีผ่านมา ขนาดที่ทำอันดับไปเล่นยูโรปาลีกได้
โดยการเตรียมพร้อมพบเจอกับการสูญเสียผู้เล่นตัวหลักนั้นคือสิ่งสำคัญที่ผู้จัดการทีมต้องได้เจอ ไม่ว่าจะเป็นการดึงนักเตะใหม่เข้ามาร่วม, ดันนักเตะจากตัวสำรองขึ้นมา รวมถึงเปลี่ยนแทคติก สิ่งสำคัญคือการทำให้มันเหมาะสมกับทรัพยากรที่มีอยู่ในมือ ณ ช่วงเวลานั้น ๆ
อูนิโอนเสริมนักเตะราว 10 รายเข้าสู่ทีม และครึ่งหนึ่งเป็นนักเตะที่เซ็นมาแบบฟรี ๆ แต่นักเตะที่อูนิโอเสริมทัพเข้ามา ทุกคนใช้ได้จริง และนักเตะต้องจ่ายเงินซื้อมา ทั้ง จอร์แดน ซีบาตเซอ, มอร์เธน ธอร์สบี้ รวมถึงผู้เล่นที่ยืมตัวมาแบบเสียเงิน อย่าง ดีโอโก้ ไลเต้ ต่างก็ยึดตัวจริงของทีมได้หมด
โดยจนถึงตอนนี้หลังผ่านไป 8 เกมแล้ว ก็เห็นได้ชัดว่าพวกตัวแทนที่เขาใส่เข้ามาในทีม สามารถโชว์ฟอร์มได้ดีจนเป็นส่วนประกอบให้พวกเขามาถึงจุดนี้
รู้เป้าหมาย
นับตั้งแต่ที่อูนิโอน เบอร์ลิน เลื่อนชั้นขึ้นมา พวกเขาสามารถจบอันดับที่ไม่ต้องไปหนีตกชั้นให้มันลำบาก เริ่มจากฤดูกาล 2019-20 พวกเขาอยู่ที่กลางตาราง
จากนั้นฤดูกาลถัด ๆ มา พวกเขาจบอันดับที่ได้เล่นฟุตบอลยุโรปอยู่เสมอ อย่างฤดูกาลที่แล้วคือในรายการยูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีก และในฤดูกาลนี้พวกเขาได้ไปยูโรปาลีก
ผลงานของอูนิโอนดีเกินคาด ส่วนหนึ่งไม่ใช่เพราะว่าพวกเขามีความมุ่งมั่นจะประสบความสำเร็จ ในทางตรงกันข้ามปรัชญาของอูนิโอน คือขอแค่อยู่รอดไม่ให้ตกชั้นก็พอเท่านั้น จะผ่านไปแค่ไหนก็ถือว่าเป็นโบนัส
แน่นอนว่าเราจะได้เห็นอูนิโอน เบอร์ลิน โชว์ผลงานที่ไม่ดีนัก ในรายการฟุตบอลยุโรป เพราะฤดูกาลก่อนก็ตกรอบแรก หรือฤดูกาลนี้ก็ยังหาชัยชนะไม่ได้เลยหลังแข่งไป 2 นัด
เนื่องมาจากโฟกัสของพวกเขาอยู่ที่บุนเดสลีกา และพวกเขาจะใส่เต็มมากกว่าในการแข่งขันเกมลีก ด้วยขนาดทีมในตอนนี้ที่มีจำกัด หากสนใจแต่ฟุตบอลยุโรปมากเกินไป อาจทำให้ผลงานในลีกพังได้
และเราเห็นกันมาหลายต่อหลายครั้งแล้วกับทีมเล็ก ๆ ในบุนเดสลีกาที่พุ่งความมุ่งมั่นให้ฟุตบอลยุโรปจนผลงานในลีกย่ำแย่ ซึ่งอูนิโอนจะไม่ยอมให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น เพราะเป้าหมายหนึ่งเดียวของสโมสรคือต้องไม่ตกชั้นในบุนเดสลีกา
เป้าหมายที่ชัดเจนทำให้อูนิโอนเล่นอย่างมุ่งมั่นในบุนเดสลีกา แต่ขณะเดียวกันก็ไม่กดดันตัวเองจนเกินไปว่าต้องประสบความสำเร็จอย่างเดียวเท่านั้น จนทำให้พวกเขาออกมามีผลงานที่ดีเกินคาด
ซึ่งเมื่อพวกเขารู้เป้าหมายที่ต้องการแล้วแน่นอนต้องมีวิธีการที่เหมาะสมจึงพาพวกเขามาถึงตรงนี้ได้ตามที่เราได้เห็นกัน
วิธีการที่เหมาะกับทีม
โดยกุญแจสำคัญที่ อูร์ส ฟิสเชอร์ ได้ติดตั้งให้กับทีมนี้ คือความแข็งแรงของร่างกาย พวกเขาจะต้องวิ่งหนักมาก ๆ พยายามวิ่งปิดช่องทางการจ่ายของคู่แข่ง ปิดพื้นที่ต่าง ๆ ในส่วนของการเล่นเกมรับโดยที่ทำงานหนักกันทั้งทีม นั่นคือปรัชญาของทีมชุดนี้ ซึ่งนักเตะหลายคนอาจไม่ใช่ดาวดังจากที่ไหน แต่ทุกคนลงไปเล่นอย่างเต็มที่เพื่อสโมสรแห่งนี้
ถึงจะเน้นหัวใจเป็นหลัก แต่อูนิโอนก็ไม่ใช่ทีมฟุตบอลที่เล่นแบบไร้สมอง โดยที่แต่ละคนจะต้องมีทักษะในการครอบครองบอลที่ดี พวกเขาพยายามสร้างสมดุลระหว่างเกมรุกและเกมรับ
พร้อมด้วยกองหน้าที่มีความเร็วและเฉียบคม ทั้งเชรัลโด้ เบ็คเกอร์ และ จอร์แดน ซีบาตเชอ ที่เป็นกองหน้าคู่ของพวกเขาใช้โอกาสไม่เปลือง จากโอกาสที่มีไม่มากนักได้
ด้วยการทำงานหนักของนักเตะทุกคนในทีม, ความยืดหยุ่นในการครองบอล และความเฉียบคมจากแนวรุก ทำให้อูนิโอน เบอร์ลินสามารถเก็บแต้มมาได้อย่างสม่ำเสมอ
ผลงาน 8 นัดมี 17 แต้มเป็นอันดับที่ 1 ของบุนเดสลีกาถือเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมเป็นอย่างมากสำหรับพวกเขา
ต้องติดตามกันต่อว่าทีมชุดนี้ จะสามารถต่อยอดจนสร้างเซอร์ไพรส์ในฤดูกาลนี้ได้หรือไม่ ในการคว้าแชมป์บุนเดสลีกา