เวนท์ฟอเรท์ โคฟุ : จากทีมที่ประธานเดินขอเงินสนับสนุน สู่แชมป์บอลถ้วยญี่ปุ่นสุดยิ่งใหญ่

Author Photo
SN Illustration

สำหรับการแข่งขันฟุตบอลแล้ว เรื่องราวที่สวยงามที่หลายคนมักจะชอบพูดถึง คงเป็นเรื่องราวในเวลาที่ทีมรองบ่อนเอาชนะทีมยักษ์ใหญ่ นั่นเป็นพล็อตเรื่องสุดคลาสสิกในโลกลูกหนังที่กลายเป็นเรื่องเล่าต่อๆกันมา 

มันคงจะเป็นเรื่องพิเศษยิ่งกว่านั้น หากการเป็น “แจ็คผู้ฆ่ายักษ์” เกิดขึ้นในการแข่งขันฟุตบอลถ้วย และสุดท้ายพวกเขาสามารถคว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ 

เรื่องราวแบบนี้ล่าสุด มันเกิดกับทีมที่อยู่ในเมืองเล็กๆ ของญี่ปุ่นที่มีชื่อว่า เวนท์ฟอเรท์ โคฟุ สโมสรที่ก่อตั้งมายาวนานหลายปี แต่แทบไม่เคยได้แชมป์อะไร แถมวนเวียนอยู่ลีกรองเป็นส่วนใหญ่ 

แต่ตอนนี้พวกเขากลายเป็นแชมป์บอลถ้วยรายการใหญ่ของญี่ปุ่น แถมเป็นการล้มยักษ์ดีกรีระดับอดีตแชมป์เจลีกอีกด้วย 

Getty Images

DNA ของเมืองที่แข็งแกร่ง

ในเมืองโคฟุ จังหวัดยามานาชิ เมืองเล็กๆที่มีภูเขาไฟฟูจิอยู่ที่นั่น เวนท์ฟอเรท์ โคฟุ คือสโมรฟุตบอลที่อยู่ห่างไกลจากสายตาผู้คน ด้วยเมืองที่มีประชากรไม่ถึง 200,000 คน ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่นี่ไม่ใช่เมืองเศรษฐกิจ และไม่ได้มีเงินมหาศาล

สิ่งเหล่านี้ส่งผลโดยตรงมายังสโมสรฟุตบอล แน่นอนว่าพวกเขาเป็นทีมนอกสายตาที่ต่างจังหวัดที่ใครก็คงไม่ได้สนใจพวกเขาสักเท่าไร ทำให้เวนท์ฟอเรท์ โคฟุ ไม่ได้เป็นทีมที่จะไม่มีเงินมากพอจะไปดึงนักเตะคุณภาพดีเข้ามาได้ 

แน่นอนว่าด้วยขนาดทีมที่เล็กสำหรับพวกเขา อะไรที่สามารถช่วยสนับสนุนทีมกันได้ภายในทีมก็จะพยายามช่วยๆกัน ซึ่งสิ่งนี้ก็สะท้อนผ่านตัวตนของเมืองเป็นอย่างดี 

เพราะเมืองโคฟุ ในอดีตเคยเจอภัยภิบัติทางธรรมชาติมาหลายครั้ง ทั้งพายุไต้ฝุ่นถล่ม และน้ำท่วม แต่เป็นชาวเมืองที่ร่วมมือร่วมใจ ฟื้นฟูเมืองให้กลับมาอีกครั้ง

นอกจากนี้เมืองยังสร้างของดีหลาย ๆ อย่างขึ้นมาด้วยตัวเอง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นอาหารรสเลิศ โดยเฉพาะกับไวน์ เครื่องดื่มที่เมืองโคฟุมีสูตรเฉพาะของตัวเอง และกลายเป็นหนึ่งในของดีของประเทศญี่ปุ่น ที่หากใครได้ไปเมืองนี้ ต้องห้ามพลาดที่จะได้ลิ้มลอง 

ย้อนกลับมาที่สโมสรฟุตบอลเวนท์ฟอเรท์ โคฟุ ทีมขาดอะไรหลายอย่าง ไม่ได้มีความพร้อมแต่พวกเขาก็สร้างทุกอย่างขึ้นมาเอง

ในทีแรกเวนท์ฟอเรท์เป็นเพียงแค่ทีมที่เล่นอยู่ในลีก JFL หรือลีกระดับรองของประเทศญี่ปุ่น ที่มีให้ทีมที่ไม่ใช่ทีมอาชีพเต็มตัวได้แข่งขัน (ทีมอาชีพเล่นในเจลีก) ซึ่งเวนท์ฟอเรท์ ไม่ใช่แค่เพียงเล่นใน JFL แต่เล่นในลีกระดับสองของ JFL อีกด้วย

เรื่องความพร้อมไม่ต้องพูดกันเยอะ นักเตะส่วนใหญ่เป็นนักเตะสมัครเล่นที่มีงานประจำเป็นพนักงานบริษัท แถมพนักงานบริษัทที่มาเล่นเกือบทุกคน ก็เป็นพนักงานจากบริษัทสปอนเซอร์ของสโมสรด้วย เรียกได้ว่าใช้สิทธิ์ในการลงสนามเป็นทางหาเงินให้กับทีม

โชคดีที่ว่า นักเตะส่วนใหญ่ และบริษัทที่มาสนับสนุน ก็อยู่ในท้องถิ่นทั้งหมด ทำให้ความผูกพันระหว่างชุมชนกับทีมเกิดขึ้นอย่างช้า ๆ 

แม้ในช่วงแรกจะมีผู้ชมไม่ถึงพันคน แต่การสนับสนุนก็ค่อย ๆ เข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ จนก้าวเป็นสมาชิกของเจลีกในปี 1998 และเพียงแค่ในปี 2001 เวนท์ฟอเรท์สามารถมีคนดูเฉลี่ยต่อเกมมากกว่า 3,000 คน ทั้งที่ยังอยู่ในระดับเจลีก 2

Getty Images

แต่ทั้งที่คนดูเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ในความเป็นจริงผลงานของทีมกลับแย่มาก ๆ พวกเขาเคยแพ้ 25 นัดติดต่อกัน แถมใน 3 ฤดูกาลแรกที่เล่นในเจลีก 2 เวนท์ฟอเรท์ยังคว้าตำแหน่งบ๊วย 3 ปีติดต่อกัน ในฤดูกาล 1999, 2000 และ 2001 จนได้รับฉายาว่า “ขยะแห่งเจลีก 2” 

โชคดีที่ในตอนนั้น วงการฟุตบอลญี่ปุ่นใช้ระบบแฟรนไชส์ ทำให้เวนท์ฟอเรท์รอดพ้นจากการตกชั้นมาได้ เพราะระบบแฟรนไชส์ไม่มีการตกชั้น เปิดโอกาสให้พวกเขาได้แก้ตัวต่อไป

แต่เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ทั้งที่ผลงานแย่ขนาดนี้ แต่คนดูในสนามของเวนท์ฟอเรท์กลับเพิ่มขึ้น มันน่าเหลือเชื่อมาก ๆ แต่แท้จริงแล้ว นี่คือ DNA ของเมืองที่เมื่อเจอปัญหาหนัก ๆ เข้ามาเล่นงาน พวกเขาจะไม่ทิ้งกันไปไหน และจะร่วมใจช่วยกันฟื้นฟู เพื่อให้เจอกับวันที่สวยงามอีกครั้ง 

ยิ่งทีมห่วย แฟนบอลท้องถิ่นยิ่งสนับสนุน และนี่คือสิ่งที่ชุบชีวิตเวนท์ฟอเรท์ เพราะพวกเขามีแฟนบอลมากกว่า 6 พันคน ทั้งที่เล่นอยู่ในเจลีก 2 และเงินที่ได้จากแรงสนับสนุนของแฟนบอล ก็ทำให้ทีมเสริมทัพจนเลื่อนชั้นขึ้นสู่เจลีก 1 ได้สำเร็จเป็นครั้งแรก ในปี 2006 

Getty Images

แต่เนื่องจากเป็นทีมท้องถิ่น ไม่มีเงินก้อนโตมาสนับสนุน เวนท์ฟอเรท์ จึงทำได้แค่เวียนวน เลื่อนชั้น และตกชั้น ระหว่างเจลีก 1 กับเจลีก 2

ถึงผลงานจะไม่ใช่ทีมใหญ่อะไร และพวกเขาไม่เคยเล่นในเจลีกได้อันดับดีกว่าที่ 13 แม้แต่ครั้งเดียว แต่อย่างน้อยพวกเขาได้สร้าง DNA ของทีมฟุตบอลที่แข็งแกร่งขึ้นมาแล้ว

ทำงานอย่างเป็นทีม

ภายในสโมสรของเวนท์ฟอเรท์ โคฟุ รู้ดีถึงการทำงานอย่างเป็นทีมที่มีระบบ และแน่นอนกับการทำงานอย่างหนักเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายที่พอจะเป็นไปได้ ทุกคนพร้อมร่วมใจช่วยกันเป็นอย่างดี 

ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ผู้บริหาร, ผู้จัดการทีม, นักเตะ หรือแฟนบอล ทุกคนคือส่วนหนึ่งของสโมสรที่จะร่วมทำงานกันอย่างเป็นทีม เพื่อความสำเร็จของพวกเขา เมื่อสิ้นสุดฤดูกาลที่มีการแข่งขัน  

โดยนักเตะรุ่นใหญ่ภายในทีมจะพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อเป็นตัวอย่างให้กับคนรุ่นหลังอยู่เสมอ โดยเฉพาะนักเตะชุดใหญ่ที่จะต้องเป็นตัวอย่างที่ดี ให้กับนักเตะชุดเล็กในอนาคต 

การแสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพส่งต่อเรื่องราว พวกเขาไม่จำเป็นต้องมีเงินทุนมากมาย แต่ก็ต่อยอดนักเตะจากชุดเยาวชนเพื่อขึ้นมาช่วยทีมได้ 

รวมถึงใช้กลยุทธ์ดึงผู้เล่นสำรองทีมอื่นมาเป็นตัวจริงที่นี่ หรืออาจเป็นผู้เล่นมากประสบการณ์ร่วมทีม เพื่อปลุกไฟในตัวนักเตะเหล่านั้น    

Getty Images

การให้โอกาส และการสร้างแรงบันดาลใตคือสิ่งสำคัญ เพราะนี่คือ DNA ของสโมสรมาตั้งแต่เริ่ม ย้อนไปในวันที่ประธานสโมสรอย่าง อูมิโนะ คาซึยูกิ เข้ามารับตำแหน่งในวันที่ทีมเริ่มต้นจากศูนย์ พวกเขาคือทีมที่ไม่มีความสมบูรณ์เลยแม้แต่นิดเดียว โดยที่ครั้งหนึ่งเคยถึงขั้นเกือบล้มละลายเลยด้วยซ้ำ 

แต่อูมิโนะในตอนนั้นพยายามออกไปหาสปอนเซอร์ด้วยตัวเอง เพื่อให้ทีมยังอยู่รอดไปได้ จนสุดท้ายได้สปอนเซอร์ต่าง ๆ จากภายในเมืองเพิ่มขึ้น ๆ เรื่อย ๆ จนสามารถช่วยให้ทีมอยู่รอดจนต่อยอดมาถึงทุกวันนี้ 

พวกเขากลายเป็นหนึ่งในทีมที่มีสปอนเซอร์เยอะมากที่สุดในญี่ปุ่น ด้วยความเหนียวแน่นกับแฟนบอลท้องถิ่น ด้วยความเชื่อเดียวกันที่ว่า หากเมืองนี้ยังมีฟุตบอลที่คอยขับเคลื่อนอยู่ มันก็ช่วยให้เกิดแรงบันดาลใจในการทำสิ่งดี ๆ ได้อีกมากมาย ทุกคนเชื่อแบบนั้น และสานต่อลมหายใจให้กับเวนท์ฟอเรท์ โคฟุ   

อีกหนึ่งพลังงานสำคัญของพวกเขาคือเสียเชียร์จากแฟนบอลในสนามเจไอที รีไซเคิล อิงค์ สเตเดี้ยม ที่ถ้าหากเต็มความจุ ก็มีแฟนเข้ามากว่าหมื่นคนเลยทีเดียว 

ในเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ถือว่ามีคนที่รักฟุตบอลอยู่มาก โดยเฉพาะในวันแข่งขันพวกเขาจะเข้ามาชมทีมที่พวกเขาภูมิใจเพื่อให้กำลังใจ 

มันแสดงให้เห็นว่าบางทีจากวันที่เราไม่มีอะไรเลย แต่ร่วมแรงร่วมใจกันวันหนึ่งเราอาจพบกับความสำเร็จได้เช่นเดียวกัน 

Getty Images

พบกับความสำเร็จ

เวนท์ฟอเรท์ โคฟุ ณ ปัจจุบัน พวกเขาก็ยังคงเป็นทีมเล็ก ๆ จากเมืองเล็ก ๆ เหมือนเดิม ไม่ได้กลายเป็นมหาอำนาจแต่อย่างใด 

สำหรับผลงานในเจลีก 2 ในตอนนี้ ผลงานของทีมแย่เป็นพิเศษ กับการเป็นทีมหนีตกชั้นที่อยู่ในท้ายตาราง เราคงคิดภาพไม่ออกเลยว่า พวกเขาจะจบฤดูกาลพร้อมกับความสำเร็จได้อย่างไร หากทีมยังมีศักยภาพได้แค่นี้ 

แต่นั่นเป็นเรื่องของฟุตบอลลีก เวท์ฟอเรท์ทำผลงานได้ดีในฟุตบอลถ้วย และดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ไกลเกินเอื้ม เมื่อพูดถึงแชมป์เอ็มเพอเรอร์ คัพ

การแข่งขันเอ็มเพอเรอร์ คัพ เป็นการแข่งขันฟุตบอลถ้วย ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์แบบแพ้คัดออกตามแต่ละรอบ แน่นอนว่าการแข่งขันแบบนี้เปิดโอกาสให้ทีมเล็ก ๆ สามารถที่จะหาโอกาสในการประสบความสำเร็จได้ และเป็นเวนท์ฟอเรท์ โคฟุฉวยโอกาสครั้งสำคัญนี้ไปได้นั่นเอง 

พวกเขาล้มทีมดังมากมาย ซึ่งรวมถึง 4 ทีมจากเจลีก 1 ไม่ว่าจะเป็น คอนซาโดเล่ ซัปโปโร, ซากัน โทสุ, อาวิสปา ฟุกุโอกะ และคาชิม่า แอนท์เลอร์ เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ ด้วยผลงานที่ยิงได้ถึง 13 ลูก และเสียแค่ 4 ประตูเท่านั้น จากการแข่งขันใน 5 รอบก่อนเข้าสู่แมทช์ชิงแชมป์

Getty Images

โดยที่ทีมที่ขวางพวกเขาอยู่ข้างหน้าก็คือ ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า หนึ่งในทีมลุ้นแชมป์เจลีก ซึ่งมีศักยภาพที่แข็งแกร่งกว่ามาก ๆ แต่นั่นไม่ได้แปลว่าโคฟุจะมีโอกาสเป็นศูนย์

นัดชิงชนะเลิศเอ็มเพอเรอร์คัพ 2022 เวนท์ฟอเรท์ โคฟุ ดวลจุดโทษเอาชนะ ซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า ได้สำเร็จ หลัง 90 นาทีทั้งคู่เสมอกันที่สกอร์ 1-1 ก่อนเป็นโคฟุชนะจุดโทษที่ 5-4 คว้าแชมป์เอ็มเพอเรอร์ คัพ มาครองได้สำเร็จ และเป็นครั้งที่สองในประวัติศาสตร์ของฟุตบอลถ้วยนี้ ที่ทีมจากเจลีก 2 ก้าวมาคว้าแชมป์

ถือเป็นเรื่องที่สวยงามสำหรับพวกเขา โดยรางวัลนอกจากการคว้าแชมป์ในคราวนี้ไปครอง ซึ่งถือเป็นแชมป์แรกในรอบ 10 ปีของพวกเขาแล้ว ยังได้สิทธิ์ไปแข่งขันเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของทีม ถือเป็นเรื่องราวเหมือนกับความฝันสำหรับทีมเล็ก ๆ ทีมนี้

เส้นทางกว่าที่ เวนท์ฟอเรท โคฟุ จะถึงวันที่พวกเขาประสบความสำเร็จได้ ถือว่าต้องผ่านเส้นทางยากลำบากมามากมาย 

พวกเขาต้องฝ่าฟันอุปสรรคหลาย ๆ อย่างกว่าจะมาถึงจุดนี้ ทั้งเกือบจะล้มละลาย ถูกเรียกว่าเป็นขยะของวงการฟุตบอลญี่ปุ่น

แต่พวกเขาไม่ยอมแพ้จนกระทั่งโอกาสมาถึง ชัยชนะในนัดชิงชนะเลิศเอ็มเพอเรอร์คัพ 2022 จะกลายเป็นที่จดจำไปอีกนานสำหรับสโมสรเล็ก ๆ แห่งนี้ และอาจกลายเป็นแรงบันดาลใจให้นักเตะรุ่นต่อไปของพวกเขา 

Getty Images

นี่คือเรื่องราวของสโมสรเล็กของญี่ปุ่น ที่แสดงให้เห็นภาพอะไรหลายอย่างว่า ความรักในทีมฟุตบอลไม่เกี่ยวกับผลการแข่งขัน มันเกี่ยวกับความรักที่คุณมีให้กับเมือง

ถ้าสโมสรสู้เพื่อเมืองที่ทุกคนรัก สู้เพื่อท้องถิ่นจริง ๆ ไม่ทำเพื่อผลประโยชน์ของใคร ทุกคนในเมืองก็พร้อมจะสู้กลับมาเพื่อสโมสรเช่นกัน 

 

ผู้แต่ง
Author Photo
Beyond the score: The sports world explained. The Sporting News has been a trusted sports media publisher since 1886, delivering the news, insights and entertainment that fans around the world need to know.
LATEST VIDEOS