องค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก หรือ วาดา ยืนยันว่า กัญชา ยังคงเป็นสารต้องห้ามในวงกากีฬา
หลังจากที่องค์กรได้นำเรื่องนี้มาทบทวน ขณะที่ยาระดับปวดอย่างทรามาดอลก็จะถูกเพิ่มเป็นสารต้องห้ามอีกประเภทในปี 2024 เป็นต้นไป
การพลาดรายการใหญ่ของหนึ่งในตัวเต็งที่กรุงโตเกียว
ประเด็นดังกล่าวกลายเป็นเรื่องใหญ่เมื่อปีที่แล้ว หลังจากที่ ชาคาร์รี ริชาร์ดสัน นักวิ่งจากประเทศอเมริกา ถูกลงโทษแบนเป็นเวลา 1 เดือน เพราะถูกตรวจพบสารกัญชาในร่างกาย ซึ่งโทษแบนนั้นส่งผลให้เจ้าตัวอดเข้าร่วมการแข่งขัน โอลิมปิก เกมส์ 2020 ที่กรุงโตเกียว
แม้ว่า ริชาร์ดสัน จะยืนยันว่าเธอใช้กัญชาเพื่อผ่อนคลายจิตใจหลังจากที่คุณแม่ของเธอเสียชีวิต
“แม่ของฉันเสียชีวิต และฉันไม่สามารถวิ่งได้ อย่างไรก็ตามฉันยังถูกยกให้เป็นเต็ง 3 ความแตกต่างเพียงอย่างเดียวที่ทำให้ฉันได้รับโทษคือฉันเป็นหญิงผิวสี” มุมมองของ ริชาร์ดสัน ที่รู้สึกว่าเธอถูกเลือกปฏิบัติ
เพราะถึงแม้เธอจะยอมรับผิดจริงแต่อยากได้คำอธิบายว่าทำไมสิ่งที่เธอได้รับจึงต่างจาก คามิลา วาเลียว่านักกีฬาไอซ์สเก็ตดาวรุ่งของรัสเซีย
วาดา ยืนยันว่าทบทวนมาดีแล้ว
ซึ่งผู้เกี่ยวข้องในวการกีฬาบางคนเรียกร้องให้วาดาทบทวนเรื่องนี้ และหลังจากที่พวกเขาได้รับข้อเรียกร้องจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด วาดายังคงยืนยันว่ากัญชายังเป็นสิ่งของต้องห้ามต่อไป เพราะถือเป็นการละเมิดจิตวิญญาณแห่งเกมกีฬา
โอลิเวียร์ นิกกลี ผู้อำนวยการทั่วไปของวาดา “วาดา ตระหนักถึงความเห็นและการรับรู้ข้อมูลเกี่ยวกับสารนี้ที่หลากหลาย เราวางแผนจะดำเนินการวิจัยเกี่ยวกับกัญชาต่อไป ไม่ว่าจะในแง่การเพิ่มประสิทธิภาพ ผลกระทบต่อสุขภาพ หรือ การตระหนักรู้ในวงกว้าง”
จริงๆแล้ว วาดา ก็เหมือนเข้าใจทั้งสองมุม เมื่อปีที่แล้วจึงมีการลดหย่อนโทษของผู้ที่ใช้กัญชาจากเดิม 2 ปี ลดลงเหลือ 1-3 เดือน ซึ่งขึ้นอยู่กับการพิจารณาตัดสิน ทั้งๆที่ในสหราชอาณาจักรกัญชาจัดเป็นสารเสพติดประเภทบี และมีสิทธิจำคุกสูงสุดถึง 5 ปี และมีวงเงินค่าปรับแบบไม่จำกัดอีกด้วย
ทรามาดอล รวมอยู่ในสิ่งต้องห้ามด้วย
นอกจากนั้น วาดา ยังเพิ่ม ทรามาดอล เข้ามาเป็น 1 ในรายการสารต้องห้ามสำหรับนักกีฬาตั้งแต่ปี 2024 เป็นต้นไป
“การใช้ทรามาดอลในทางที่ผิด การติดฝิ่น และการใช้ยาเกินขนาด เป็นที่สิ่งที่น่ากังวล และทำให้ยาชนิดนี้กลายเป็นยาควบคุมตามกฎหมายของหลายประเทศ และผลจากการวิจัยยังพบด้วยว่า ทรามาดอล มีผลต่อการเพิ่มประสิทธิภาพทางร่างกายด้วย”
แม้กระทั่ง คริส เคิร์กแลนด์ อดีตผู้รักษาประตูทีมชาติอังกฤษ ยังเคยให้สัมภาษณ์เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาด้วยว่า เขาเคยเกือบตายเพราะเสพติดทรามาดอลมาแล้ว “ผมเคยคิดว่าตัวเองเข้มแข็งพอและจะไม่มีทางเสพติด แต่ผลลัพธ์กลับตรงข้าม ร่างกายของผมต้องการมันมากขึ้นเรื่อยๆ รู้ตัวอีกทีก็ตกเป็นทาสของยานี้ไปแล้ว” โดยเจ้าตัวยอมรับว่าเขาสั่งซื้อยานี้ผ่านทางอินเตอร์เน็ต และเชื่อว่าปัญหาเรื่องการเสพติด ทรามาดอล ของนักกีฬายังเป็นสิ่งที่น่ากังวลอยู่มาก