เดรย์มอนด์ กรีน คือหนึ่งในผู้เล่นที่ไม่ค่อยปลื้มในการที่ลีกกำหนดให้ผู้เล่นต้องลงอย่างน้อย 65 เกมถึงจะได้รางวัลหรือเกียรติยศของ NBA เท่าไหร่นัก
อย่างล่าสุดเขาก็ได้ยกประเด็นของ โจเอล เอ็มบีด เซ็นเตอร์ของซิกเซอร์ส ขึ้นมาเป็นตัวอย่างว่าเขาเหมือนถูกเข็นให้ลงเล่นทั้งๆที่ไม่จำเป็น นอกจากนั้น กรีน ก็ยังยกเรื่องที่เขาต้องเสียรางวัลชิ้นใหญ่ไปทั้งๆที่ได้ลงเล่นมากกว่าคนที่ได้รางวัลไปอีกด้วย
กรีนมีมุมมองต่อกฎเรื่องนี้ว่าอย่างไรและมันทำร้ายผู้เล่น NBA คืออย่างไรบ้าง? ติดตามไปพร้อมกันได้ที่นี่
NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก
เดรย์มอนด์ กรีน เปิดจุดอ่อนของกฎการลงเล่น 65 เกม เพื่อคว้ารางวัลใน NBA
“การที่ โจเอล ลงเล่นในวันนี้มันดูเหมือนว่าจะเป็นเพราะเรื่อง 65 เกมนี่แหล่ะ ซึ่งจริงๆผมมองว่ามันเลอะเทอะมาก” กรีนกล่าวในพอดแคสต์ของเขา “ผู้เล่นทุกคนไม่เคยเจอกฎนี้มาก่อน ซึ่งก็เหมือนกันกับรางวัล All-NBA หรือผู้เล่นที่เป็นตัวเต็ง MVP, ผู้เล่นเกมรับยอดเยี่ยมก็เหมือนกัน”
แต่ท่อนที่ดูเหมือนจะเป็นการแค้นฝังหุ่นไม่น้อยของ กรีน ก็คือ “ผมเคยแพ้รางวัลผู้เล่นเกมรับยอดเยี่ยมให้กับ คาไว เลียวนาร์ด และผมคิดว่าเขาเล่นไปแค่ 51 เกมเท่านั้นเอง”
Draymond Green criticizing the NBA's 65-game rule: "I once lost a DPOY award to Kawhi Leonard and I think he played 51 games."
— Ballislife.com (@Ballislife) January 31, 2024
(Via @TheVolumeSports) pic.twitter.com/Sy2MgNYpAZ
หากย้อนกลับไปเช็คตัวเลขสักหน่อย จริงๆแล้วปีนั้น (2014-15) คาไวลงเล่นมากกว่า 51 เกม โดยลงเล่นไปทั้งหมด 64 เกม แต่เมื่อเทียบกับกฎในตอนนี้ เขาก็ยังไม่สามารถที่จะได้รับรางวัลอยู่ดี
กลับกันในปีนั้น กรีน ลงเล่นไปทั้งหมด 79 เกม หรืออีกด้านก็คือเขาพลาดการลงเล่นไปเพียงแค่ 3 เกมเท่านั้น ซึ่งถ้ามานับผลการโหวต กรีน นั้นแพ้ไป 333 ต่อ 317 คะแนนให้กับ คาไว เลียวนาร์ด เรียกได้ว่าถ้า คาไว ถูกตัดสิทธิ์ ปีนั้นรางวัลแทบจะถูกยกให้ กรีน ทันที มันจึงไม่แปลกที่ กรีน จะมีปัญหากับกฎนี้เพราะเขาไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย แถมยังเคยเสียประโยชน์อีกต่างหาก
แน่นอนว่าถ้า กรีน ได้ก็จะกลายเป็นผู้เล่นที่ได้รางวัลผู้เล่นเกมรับยอดเยี่ยมถึง 2 สมัยเลยทีเดียว นี่จึงไม่แปลกว่าทำไมเขาถึงคิดว่ากฎนี้มันเลอะเทอะและกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ไม่ชอบในการกำหนดเกมของการได้รางวัลเท่าไหร่นัก
บทความที่เกี่ยวข้อง : จักรวาลคู่ขนาน! โจเอล เอมบิด บอกถ้าได้เป็นนักฟุตบอลตามฝันอาจเก่งกว่าโรนัลโด้, เมสซี
บทความที่เกี่ยวข้อง : ฟอร์มร้อนเป็นไฟ : เบน ซิมมอนส์ สร้างผลกระทบแค่ไหนให้ เน็ตส์ ในเกมแรกที่กลับมาลงเล่น
ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา
Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th