เมื่อวันศุกร์ที่ 6 มกราคม ทาง NBA ได้เปิดเผยผลโหวตครั้งแรกของแฟนๆ สำหรับเกม NBA All-Star ปี 2023
แน่นอนว่าผลโหวตเหล่านี้จะเป็นที่ข้อกังขาเสมอเพราะนี่คือการโหวตของคนจากทั่วโลกที่ใช้ความชอบส่วนตัวเป็นตัววัดและโหวตผู้เล่นที่ตนเองชื่นชอบ (ซึ่งไม่มีผิดไม่มีถูกอยู่แล้ว) แต่ถ้าหากเราใช้ผลงานในสนามเป็นตัววัดก็อาจจะสามารถบอกได้ว่าใครบ้างที่อยู่ในอันดับที่สูงหรืออยู่ต่ำเกินไป
LeBron James and Kevin Durant lead their respective conferences in the first fan returns of #NBAAllStar Voting presented by AT&T.
— NBA Communications (@NBAPR) January 5, 2023
Fans account for 50% of the vote to decide All-Star starters. NBA players and a media panel account for 25% each.
The next fan update is Jan. 12. pic.twitter.com/osVeUGI8H4
จากรายชื่อของผลโหวตครั้งแรกจากแฟนๆ สำหรับเกม NBA All-Star ปี 2023 ใครอยู่สูงและต่ำเกินไปบ้างเราจะอธิบายเอาไว้ด้านล่างนี้
สามารถดูวิธีโหวตผู้เล่น NBA All-Star 2023 ได้ที่นี่
สายตะวันออก
สูงเกินไป
เปาโล บันเคโร่ (อันดับ 8 ในตำแหน่งฟรอนต์คอร์ท)
ตัวเต็งรุกกี้แห่งปีทะยานขึ้นมาเป็นอันดับ 8 ของฟรอนท์คอร์ทด้วยสถิติ 21.0 แต้ม, 6.7 รีบาวด์ และ 4.0 แอสซิสต์แต่ถ้าไปดูประสิทธิภาพของเขาจะเห็นว่าเขาไม่ได้ยอดเยี่ยมมากขนาดนั้นด้วยการยิง 3 คะแนนที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของลีก และ ออร์แลนโด เมจิก จะมีผลงานที่ดีกว่าหากเขาไม่ได้อยู่บนสนามอีกต่างหาก แน่นอนว่าในอนาคตไม่แปลกที่จะติดออลสตาร์ แต่ในตอนนี้อันดับที่เขาอยู่อาจจะสูงไปซักหน่อย
ลาเมโล่ บอล (อันดับ 7 ในตำแหน่งการ์ด)
แน่นอนว่าด้วยสถิติของเขา เราอาจจะสามารถมองได้ว่าเขามีผลงานที่ค่อนข้างดีด้วยค่าเฉลี่ย 23.7 แต้ม, 8.1 แอสซิสต์ พร้อมด้วยการยิง 3 คะแนนที่ 36.5 เปอร์เซนต์จาก 11.3 ลูกต่อเกม แต่ว่าเปอร์เซนต์ฟิลด์โกลของเขามีเพียง 41.4% เท่านั้น ซึ่งน้อยกว่าค่าเฉลี่ยของลีกอยู่ที่ 5.7 เปอร์เซนต์ นอกจากนั้นเขายังลงเล่นไปเพียง 15 นัดเท่านั้นในฤดูกาลนี้จึงทำให้สถิติที่ได้มาอาจจะยังเป็นตัวอย่างที่ยังไม่มากพอ
เดอร์ริค โรส (อันดับ 9 ในตำแหน่งการ์ด)
เดอร์ริค โรส ลงเล่นในฤดูกาลนี้เพียง 26 เกมและเล่นไปเพียง 12.9 นาทีต่อเกมเท่านั้นด้วยค่าเฉลี่ย 5.8 แต้ม, 1.8 แอสซิสต์ และ 1.5 รีบาวด์เท่านั้น แค่นี้ก็เพียงพอแล้วสำหรับคำตอบว่าทำไมเขาถึงอยู่สูงเกินไปในลิสต์นี้
ต่ำเกินไป
ไทรีส ฮาลิเบอร์ตัน (อันดับ 8 ในตำแหน่งการ์ด)
ด้วยสถิติเบื้องต้นของเขาก็เพียงพอแล้วสำหรับการตอบคำถามว่าทำไมเขาถึงอยู่ต่ำเกินไป ฮาลิเบอร์ตันมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 20.6 แต้ม และ 10.2 แอสซิสต์ ต่อเกม ซึ่งเขาเป็นผู้นำลีกในเรื่องแอสซิสต์ต่อเกม มีการยิง 3 คะแนนอยู่ที่ 40.7 เปอร์เซนต์ด้วยการยิง 7.4 ครั้งต่อเกม แถมยังพา อินเดียนา เพเซอร์ส มีชัยชนะเหนือ 50 เปอร์เซนต์สร้างความเซอร์ไพรส์ให้กับทั้งลีกอีกด้วย
ฮาลิเบอร์ตัน ควรที่จะได้อยู่เหนือ ลาเมโล บอล ในตอนนี้ก็ว่าได้เนื่องจากเล่นมาแล้วถึง 37 เกมและเขาคือคนสำคัญที่ เพเซอร์ส ขาดไม่ได้จริงๆ
เจเลน บรันสัน (ไม่ติดอันดับ)
ด้วยการที่ เจเลน บรันสัน มีค่าเฉลี่ยที่ 20.8 แต้ม และ 6.5 แอสซิสต์ต่อเกม และอยู่ในทีมที่ตลาดใหญ่ที่สุดของ NBA อย่าง นิวยอร์ก นิกส์ และเขากำลังพาทีมอยู่เข้าไปอยู่ในโซนเพลย์ออฟ แต่เขากลับไม่ติด 10 คนแรกของการ์ดฝั่งตะวันออก นี่คือเรื่องที่น่าแปลกใจมากๆทั้งๆที่เพื่อนร่วมทีมอย่าง โรส ติดอยู่ในอันดับที่ 9
สายตะวันตก
สูงเกินไป
ผู้เล่น วอร์ริเออร์ส ทุกคนที่ไม่ใช่ เคอร์รี และ กรีน
วิกกินส์ (อันดับ 5 ของ ฟรอนต์คอร์ท) ทำผลงานได้ดีมากก็จริงแต่ว่าเขาลงเล่นในฤดูกาลนี้ไปเพียง 22 เกมเท่านั้นในขณะที่วอร์ริเออร์ส เล่นไปถึง 39 เกม ส่วน เควอน ลูนีย์ (อันดับ 10 ของ ฟรอนต์คอร์ท) นั่นก็เล่นได้โอเคแต่ทว่าเขาไม่มีความครบเครื่องเลยเช่นการทำแต้มหรือสร้างเพลย์เองโดยที่มีค่าเฉลี่ยแค่ 6.7 แต้ม และ 8.4 แอสซิสต์ต่อเกมเท่านั้น
คนสุดท้ายคือ จอร์แดน พูล ที่ อยู่อันดับ 10 ของตำแหน่งการ์ด ถึงแม้เขาจะทำไปถึง 20.9 แต้มต่อเกมแต่ว่าประสิทธิภาพการยิงของเขาค่อนข้างต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของลีก แถมค่าความต่างของคะแนนเมื่อ พูล อยู่ในสนามจะแย่กว่าตอนที่เขาอยู่นอกสนามถึง 10.3 แต้มต่อ 100 การครองบอล
ออสติน รีฟส์ (อันดับ 9 ของการ์ด)
รีฟเล่นได้ดีขึ้นมากๆในปีนี้จริงๆ แต่ว่าเขายังไม่ใช่ผู้เล่นในระดับนี้หรือใกล้เคียงแม้แต่น้อย เขาทำไปเพียง 10.8 แต้มต่อเกมและยิง 3 แต้มโดยมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าลีกเล็กน้อยในทีมที่อยู่ท้ายตารางเท่านั้น (เลเกอร์ส)
รัสเซล เวสต์บรูค (อันดับ 6 ของการ์ด)
สถิติของ รัสเซล เวสต์บรูค ค่อนข้างโอเคที่ 14.5 แต้ม และ 7.7 แอสซิสต์ แต่ถ้าหากเทียบกับความมีประสิทธิภาพกับค่าเฉลี่ยของลีกแล้ว เขาถือว่าสอบตกมากๆเลยทีเดียวแถมทีมของเขายังไม่ได้อยู่ในโซนเพลย์อินเลยด้วยซ้ำ
ต่ำกินไป
โดมันทาส ซาโบนิส และ เดอารอน ฟ็อกซ์ (ไม่ติดอันดับ)
ซาโบนิส มีค่าเฉลี่ย ที่ 18.7 แต้ม, 12.4 รีบาวด์ (ผู้นำของลีก) และ 6.7 แอสซิสต์ต่อเกม ส่วน เดอารอน ฟ็อกซ์ มีค่าเฉลี่ยที่ 23.9 แต้ม, 5.9 แอสซิสต์ โดยมีฟิลด์โกลอยู่ที่ 50.4 เปอร์เซนต์ ทั้งสองคนนี้มีส่วนร่วมอย่างมากในการพา คิงส์ ขึ้นมาอยู๋ในพื้นที่โซนเพลย์ออฟ ทั้งเรื่องประสิทธิภาพส่วนตัวและเรื่องอันดับของทีมพวกเขาสมควรที่จะติด 1 ใน 10 อันดับที่อยู่ในตอนนี้มากกว่าหลายคนเลยทีเดียว
ลาวรี มาร์คคาเนน (อันดับ 7 ในตำแหน่งฟรอนต์คอร์ท)
มาร์คคาเนน มีค่าเฉลี่ย อยู่ที่ 23.9 แต้มต่อเกม และ มีค่าทรู ชูตติ้ง เปอร์เซนเทจที่ 66.9% ซึ่งในฤดูกาลนี้มีเพียงแค่ เคอร์รี เท่านั้นที่ทำได้ แถมเขายังเป็นเสาหลักของ แจ๊ซ ที่ยังอยู่ในพื้นที่เพลย์อินแบบไม่มีใครคาดคิดและพลาดการลงเล่นไปเพียง 3 นัดเท่านั้น
นี่คือการวิเคราะห์และอ้างอิงจากผลงานและสิ่งต่างๆที่เกี่ยวข้องกับทีมผู้เล่นว่าใครอยู่สูงหรือต่ำเกินไปในผลโหวตรอบแรก เราคงต้องรอดูกันอีกครั้งว่าผลโหวตรอบสองจะเป็นอย่างไร แต่แน่นอนว่ามันจะมีอะไรเซอร์ไพรส์เราอย่างแน่นอน
