ใครจะเชื่อว่าชีวิตของการ์ดระดับออลสตาร์ 4 สมัย จะตกต่ำได้ขนาดที่ต้องอ้อนวอนผ่านสื่อเพื่อโอกาสในการกลับลงสนามอีกครั้ง และนั่นคือสถานการณ์ที่ เคมบ้า วอล์กเกอร์ ผู้เล่นจากทีมดีทรอยท์ พิสตันส์ กำลังเผชิญอยู่ เกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ ?
ของเหลือจากการเทรด
หลังจากอยู่กับ นิวยอร์ก นิกส์ 1 ในฤดูกาลและฝากผลงานระดับตกต่ำที่สุดในอาชีพเอาไว้ด้วยการทำแค่
11.6 แต้ม จากเวลาลงเล่น 25.6 นาทีต่อเกม ซึ่งถ้าใครได้ดูจะเห็นวิธีการเล่นที่ดูถดถอยของ วอล์คเกอร์ อย่างมาก ทั้งช้าลงและป้องกันได้ไม่ดีเท่าที่ควร
“ผมยังมีดีอยู่อย่างแน่นอน ด้วยความสัตย์จริงผมรู้สึกดีมาก ผมแค่ต้องการโอกาส” อดีตดราฟท์อันดับ 9 ปี 2011 กล่าวถึงความพร้อมของเขาที่จะได้รับโอกาสจากทีมใดทีมหนึ่งในลีกอีกครั้ง
สถานการณ์ปัจจุบันของวอล์กเกอร์ ซึ่งถูกเทรดมายังดีทรอยท์ พิสตันส์ ไม่สู้ดีนัก เพราะทีมนี้ต้องการสร้างกลุ่มผู้เล่นพลังหนุ่มเป็นแกนหลัก และคงเตรียมหาทางเจรจาแยกทางกับเขาเร็วๆนี้ เพราะพิสตันส์ ถือสัญญาผู้เล่นแบบมีการรับประกันเอาไว้ถึง 16 คน อีกอย่างทีมมีทั้ง เคด คันนิงแฮม, คอรี่ย์ โจเซ็ปต์ และ คิลเลียนส์ เฮย์ส เป็นตัวเลือกในตำแหน่งเดียวกับเขาอยู่แล้ว
สาเหตุแห่งความตกต่ำ
นับตั้งแต่ออกจากรังชาร์ล็อตต์ ฮอร์เน็ตส์ ทีมที่ดราฟต์เขาเข้ามาในลีก ผลงานของ วอล์กเกอร์ ตกต่ำลงมาเรื่อยๆ สไตล์การเล่นของเขาดูจะปรับตัวเข้ากับบริบทใหม่ได้ยากเสมอ และสิ่งสำคัญคืออาการบาดเจ็บเรื้อรังที่เข่า ทำให้เจ้าตัวไม่สามารถกลับไปเป็นคนเดิมที่เคยสุดยอดในระดับออลสตาร์ได้อีกเลย
3 ซีซั่นหลังสุดเขาพลาดการลงสนามช่วยทีมมากถึง 110 เกม ทำให้หลายทีมไม่กล้าทุ่มเงินจ้างเขา เพราะเจ้าตัวก็ยังไม่ยอมรับค่าจ้างระดับถูกๆแน่นอน ทำให้แต่ละทีมที่มีความสนใจในตัวเขาต้องแบกรับความเสี่ยง และท้ายสุดทำให้ยังไม่มีใครแสดงความสนใจที่จะมาเจรจายื่นข้อเสนอให้กับเขา ทันทีที่เจ้าตัวแยกทางกับ พิสตันส์ ดังนั้น วอล์กเกอร์ อาจจะต้องกล้ำกลืนอยู่รับเงินฟรีกับต้นสังกัดใหม่นี้ไปก่อน
แม้กระทั่งสมัยอยู่กับ ฮอร์เน็ตส์ ที่เจ้าตัวสร้างชื่อทีมก็ยังไม่กล้าเซ็นสัญญาระดับเต็มมูลค่าให้กับเขา เพราะติดตรงที่เริ่มเห็นปัญหาอาการบาดเจ็บ และทิศทางทีมก็อยากสร้างดาวรุ่งรายใหม่มาเป็นแกนนำ พอ วอล์กเกอร์ หมดสัญญาก็ได้ทำการเซ็นแล้วเทรดไปอยู่กับ บอสตัน เซลติกส์ ซึ่งตอนนั้นเพิ่งเสีย ไครี่ เออร์วิ่ง ออกจากทีมไปจึงอยากได้การ์ดระดับซูเปอร์สตาร์เข้ามาเสียบแทน แต่จนแล้วจนรอด วอล์กเกอร์ ไม่สามารถโชว์ผลงานในสนามที่ถูกใจ แบรด สตีเว่น โค้ชของทีม ณ เวลานั้นได้เลย
โอกาสที่อาจไม่สูงเท่าเดิม
เชื่อว่าดีกรีและความสามารถของวอล์กเกอร์ จะทำให้เขาได้รับโอกาสครั้งใหม่อย่างแน่นอน แต่เขาจะต้องทำใจยอมรับให้ได้ว่าบทบาทการลงเล่นอาจจะไม่เหมือนช่วงรุ่งโรจน์ เขาคงไม่ได้มีเวลาลงสนามเยอะๆระดับ 30 นาทีขึ้นไป ไม่ได้อยู่ในเพลย์สำคัญหรือชุดตัวจริง ถ้าหากเขาทำใจยอมรับได้ ก็คงจะมีโอกาสให้เขากลับมาลงสนามอีกครั้งได้ไม่ยาก
ไม่แน่ว่าอาจเป็นพิสตันส์เองก็ได้ ที่หยิบยื่นโอกาสในการเป็นไลน์อัพชุดที่ 2 ให้เขาได้ลงมาประคองน้องๆดาวรุ่งในทีม หรือ โอกาสจากทีมอื่นๆ ซึ่งมีข่าวลือเหมือนกันว่าหนึ่งในนั้นคืออ ฮอร์เน็ตส์ อดีตต้นสังกัดเก่าที่เขาเคยลงเล่นและแจ้งเกิดกับที่นั่น
“นั่นคงจะพิเศษมาก” เขาตอบเกี่ยวกับประเด็นที่ทีมเก่าสนใจในตัวเขา “ผมคิดว่าผมเหลือเวลาในลีก 2-3 ปี ผมจึงไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นมาก่อน อย่างไรก็ตามตอนนี้ผมแค่รอสักทีมที่จะติดต่อมาหาผม”
การกลับไปชาร์ล็อตต์ ก็ดูมีความเป็นไปได้ยากเพราะก่อนหน้านี้ทีมเพิ่งจะให้โอกาสกับ เดนนิส สมิธ จูเนียร์ อดีตดราฟท์อันดับ 9 (เหมือนเขา) ในปี 2017 เข้ามาอยู่กับทีม แถมยังเซ็นสัญญาแบบไม่การันตีกับ ลิ แอนเจโล่ บอล พี่ชายของ ลาเมโล บอล การ์ดตัวเก่งของทีมมาเสริมตำแหน่งแบ็คคอร์ตอีก
เคมบ้า อายุ 32 แล้ว และปัญหาบาดเจ็บเรื้อรังบริเวณหัวเข่าทำให้ฟอร์มการเล่นของเขาไม่มีทางดีเหมือนเก่าได้แน่นอน เพราะสไตล์การเล่นที่เน้นการครอสโอเวอร์ และ เปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว จะส่งผลต่อหัวเข่าของเขา ยกเว้นแต่ว่าเขาจะพัฒนาทักษะด้านอื่นๆเพิ่ม เช่นการเล่นออฟบอล (วิ่งหาที่ว่าง) ให้มากขึ้นเพื่อโอกาสทำสกอร์ง่ายๆ หรือ เพิ่มระดับการชู้ต 3 คะแนนให้แม่นกว่าที่เป็น
ถ้ายังจำได้เคสของผู้เล่นคนนึงในลีกซึ่งเคยเข่าพัง แต่ก็สามารถปรับตัวจนคัมแบ็คกลับเข้ามาสู่ลีกแล้วคว้าแชมป์ได้ถึง 3 สมัย ก็คือ ชอน ลิฟวิงสตัน ที่คว้าแชมป์กับ วอริเออร์ส ในปี 2015, 2017 และ 2018