All-NBA หรือทีมยอดเยี่ยมของ NBA นั้นคือรางวัลที่ผู้เล่นแต่ละคนให้ความสำคัญไม่ใช่น้อยเนื่องจากมันคือรางวัลที่เอาไว้บอกว่าเขาคือผู้เล่นที่ดีแค่ไหนในฤดูกาลนั้นๆ
ถึงแม้ว่ารางวัลนี้ตามจริงแล้วจะประกาศตอนจบฤดูกาล แต่เมื่อมันผ่านมาแล้วครึ่งฤดูกาล แฟนๆหลายคนก็คงอยากรู้อยู่เหมือนกันว่า 5 ผู้เล่นที่ดีที่สุดในฤดูกาลนี้มีใครกันบ้าง โดยเฉพาะในฤดูกาลนี้ที่ไม่มีการจำกัดตำแหน่งแบบ การ์ดสองคน ฟอร์เวิร์ดสองคน และเซ็นเตอร์หนึ่งคนอีกต่อไป
ใครคือ 5 ผู้เล่นที่สมควรติดทีมยอดเยี่ยมของ NBA? ติดตามได้ที่นี่
NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก
ใครคือ 5 ผู้เล่นที่สมควรติดทีมยอดเยี่ยมของ NBA
1. โจเอล เอ็มบีด (ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตี้ซิกเซอร์ส)
เอ็มบีดคือตัวเต็งอันดับหนึ่งของผู้เล่นที่จะเป็น MVP อยู่ในขณะนี้ เพราะฉะนั้นการที่เขาจะได้อยู่ในทีมยอดเยี่ยมหลังจากผ่านไปครึ่งฤดูกาลจึงเป็นเรื่องที่เหมาะสมอย่างมาก
ถึงแม้ว่าเขาจะพลาดไปแล้ว 10 เกม แต่ในเกมที่เขาได้ลงสนามก็สามารถเรียกได้เลยว่ายอดเยี่ยมมากๆ ด้วยการทำไป 35.1 แต้มต่อเกม ซึ่งนี่เป็นตัวเลขที่มากที่สุดในลีก พร้อมกับอีก 11.6 รีบาวด์, 6.1 แอสซิสต์, 1.1 สตีล และ 1.9 บล็อกต่อเกม พร้อมกับยิงฟิลด์โกลด้วยความมีประสิทธิภาพสูงถึง 53.8%
เพิ่มเติมคือในตอนนี้ ซิกเซอร์ส ยังมีสถิติทีมที่ดีด้วยการอยู่ในอันดับ 3 ของสายตะวันออกที่ ชนะ 26 แพ้ 13 เกม
2. นิโคลา โยคิช (เดนเวอร์ นักเก็ตส์)
ถ้ามี โจเอล เอ็มบีด อีกคนหนึ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยสำหรับ All-NBA ทีมแรกก็คือ นิโคลา โยคิช เซ็นเตอร์ซูเปอร์สตาร์ของ นักเก็ตส์ ที่ทำ ทริปเปิล-ดับเบิล ให้เป็นเหมือนเรื่องง่ายอย่างที่ใครไม่เคยทำได้มาก่อน
โยคิช ในฤดูกาลนี้มีสถิติอยู่ที่ 25.5 แต้ม, 11.9 รีบาวด์ และ 9.1 แอสซิสต์ต่อเกม จาก 58.2% ฟิลด์โกล พร้อมกับพา เดนเวอร์ นักเก็ตส์ อยู่ที่อันดับ 3 ของสายตะวันตก (28-14) นี่คือผลงานที่คงเส้นคงวาของ MVP สองสมัยและไม่มีทีท่าว่าจะตกลงไปเลยแม้แต่น้อย
3. ยานนิส อันเทโทคุมโป (มิลวอกี้ บัคส์)
มิลวอกี้ บัคส์ คือทีมอันดับ 2 ของสายตะวันออกอยูในขณะนี้โดยเป็นรองเพียงแค่ บอสตัน เซลติกส์ ทีมเดียวเท่านั้น และหนึ่งในสาเหตุที่ บัคส์ ทะยานสูงขนาดนี้ก็คือความมีประสิทธิภาพในการทำแต้มของ ยานนิส อันเทโทคุมโป
ด้วยการทำ 31.2 แต้มต่อเกมพร้อมกับการมีฟิลด์โกลดีที่สุดในอาชีพถึง 60.8% โดยที่ยังมีการรีบาวด์ถึง 11.4 ครั้ง, 5.9 แอสซิสต์, 1.3 สตีล และ 1.1 บล็อกต่อเกม มันทำให้ปฎิเสธไม่ได้จริงๆว่าทำไมเขาถึงสมควรติดอยู่ใน All-NBA ทีมแรก
4. เช กิลเจียส-อเล็กซานเดอร์ (โอคลาโฮมา ซิตี้ ธันเดอร์)
การพา ธันเดอร์ ทะยานขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ของสายตะวันตก คงเป็นอะไรที่น่าเซอร์ไพรส์พอตัว แต่ถ้าพูดถึงผลงานส่วนตัวก็ไม่ได้น่าเซอร์ไพรส์ขนาดนั้นเนื่องจากเขาก็คือหนึ่งในผู้เล่นที่ติดทีมนี้ในปีที่ผ่านมาเช่นกัน
ตลอด 38 เกม การ์ดวัย 25 ปีคนนี้สามารถกดไปได้ถึง 31.5 แต้ม, 5.8 รีบาวด์, 6.3 แอสซิสต์ และเป็นผู้นำในลีกเรื่องการขโมยบอลที่ 2.3 สตีลต่อเกม พร้อมกับการมีฟิลด์โกลสูงถึง 55.6% เลยทีเดียว
หากในฤดูากลนี้ กิลเจียส-อเล็กซานเดอร์ สามารถพาทีมเข้าเพลย์ออฟแบบอัติโนมัติได้ รับรองว่าในอนาคตรางวัล All-NBA ทีมแรกจะไม่หายไปจากมือเขาแน่นอน
5. ลูก้า ดอนซิช (ดัลลาส แมฟเวอร์ริกส์)
มาถึงคนสุดท้าย หากไม่มีชายคนนี้ก็คงจะใจร้ายเกินไปหน่อย แม้ว่าในรายชื่อนี้เขาจะเป็นผู้นำทีมของทีมที่อันดับต่ำที่สุดอย่าง ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ (อันดับ 5 ชนะ 24 แพ้ 17) แต่ผลงานของเขานั้นยังยอดเยี่ยมเหนือการบรรยาย
ด้วยวัยเพียง 24 ปี ลูก้าในฤดูกาลนี้นั้นมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 33.6 แต้ม (มากสุดในอาชีพ), 9.1 แอสซิสต์ พร้อมกับ 8.1 รีบาวด์ ต่อเกม เพิ่มเติมคือการยิงสามคะแนนที่แม่นสุดในชีวิตที่ 38.0% จากการยิง 10.4 ครั้งต่อเกม พร้อมกับมี เอฟเฟคทีฟฟิลด์โกล (eFG%) ดีที่สุดในอาชีพเช่นกันที่ 56.9%
จากสถิติระดับนี้ ถึงแม้ว่าทีมเขาจะอยู่ในอันดับที่ 5 แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลอะไรเท่าไหร่ในการจะให้เขาติดทีมนี้เลยแม้แต่น้อย
บทความที่เกี่ยวข้อง : กรีนออกโรงสับเพื่อนร่วมทีม! หลัง วอร์ริเออร์ส พ่ายแพ้ให้กับ กริซลีย์ส ที่ไม่มี จา มอแรนท์
ติดตามบทความและข่าวสารกีฬาอื่นๆของเรา
Facebook : https://www.facebook.com/TheSportingNewsTH
Instagram : https://www.instagram.com/thesportingnews_th