หลังจากเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยโชว์ปืนในไลฟ์สดอินสตราแกรมของ จา มอแรนท์ ทาง NBA ก็ได้ออกแถลงการณ์ออกมาแล้วว่าเจ้าตัวจะโดนแบนเป็นเวลา 25 เกมด้วยกันในฤดูกาล 2023-24
ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ตัวเขาโดนแบนไปแปดเกมเนื่องจากกรณีเดียวกันเพียงสามเดือนเท่านั้น
ในเดือนมีนาคม กริซลีย์ส มีสถิติชนะ 5 แพ้ 3 ในช่วงที่ จา มอแรนท์ โดนพักการแข่งขันซึ่งนี่เป็นเรื่องที่ดีเพราะอย่างน้อยเราก็เห็นว่าทีมนี้มีดีมากพอในการเอาตัวรอดแม้จะไม่มีสตาร์ของทีมอยู่ก็ตาม แต่ในครั้งนี้ที่ จา โดนแบนถึง 25 เกม คำถามก็คือพวกเขาจะยังทำได้ดีเหมือนเดิมหรือไม่?
ในสองฤดูกาลที่ผ่านมา เมมฟิส กริซลีย์ส สามารถจบเป็นอันดับสองของสายตะวันตกได้ทั้งสองปีแม้ว่า จา มอแรนท์ จะได้ลงเล่นเพียง 57 เกมเท่านั้นในฤดูกาล 2021-22 และอีกในฤดูกาล 2022-23 การ์ดซุปเปอร์สตาร์ของทีมก็ลงได้น้อยไม่ต่างจากเดิมที่ 61 เกม ซึ่งในปีนี้พวกเขาจะสามารถยืนปักหลักมั่นคงได้แค่ไหน? เนื่องจาก จา มอแรนท์ จะลงได้มากที่สุดเพียงแค่ 57 เกมเท่านั้นในฤดูกาล 2023-24
ซึ่งจำนวน 57 เกมนั้นอาจจะน้อยลงไปอีกก็เป็นได้หากเขามีอาการบาดเจ็บ ร่วมสมัครทายจำนวนเกมของ จา มอแรนท์ ชิงรางวัลกับการแข่งขันNBAได้ที่นี่
การที่ จา มอแรนท์ ถูกจำกัดการลงสนามให้กับทีม เมมฟิส กริซลีย์ส ส่งผลแค่ไหนกับทีมตราหมี? เราจะติดตามไปด้วยกันในบทความนี้
จา มอแรนท์ โดนแบน 25 เกม ส่งผลแค่ไหนกับ เมมฟิส กริซลีย์ส
หากอ้างอิงจากรายชื่อ 30 นักบาสดีที่สุด ณ ปัจจุบันที่จัดอันดับโดย The Sporting News ทางด้านของ มอแรนท์ จะอยู่ที่อันดับ 11 เลยทีเดียว
แน่นอน อย่างที่เรารู้กันดีว่าไม่มีทีมไหนที่เสียผู้เล่นคนสำคัญที่สุดของทีมไปแล้วผลงานทีมจะดีขึ้น ซึ่งการเสีย จา มอแรนท์ ไปนั้นจะทำให้ กริซลีย์ส ต้องปรับอะไรหลายอย่างและหาผู้เล่นที่มาทดแทนในนาทีที่ จา มอแรนท์ ไม่ได้ลงเพื่ออุดช่องโหว่ตรงนี้ให้ได้
ที่เราบอกว่าอุดช่องโหว่ของ จา มอแรนท์ นั้นไม่ใช่การหาคนที่ดีเท่าเขามาทำหน้าที่แต่อย่างใด เพราะ จา มีสถิติอยู่ที่ 26.8 แต้ม กับอีก 7.4 แอสซิสต์ ในช่วงสองฤดูกาลที่ผ่านมา ซึ่งช่องว่างที่เสีย จา มอแรนท์ ไปนั้นทีมต้องการผู้เล่นบางคนเข้ามารับหน้าที่แทน เพราะนี่ไม่ใช่ช่วงเวลาสั้นๆเลยที่ต้องเสียไปและอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ กริซลีย์ส ร่วงลงไปอยู่กลางตารางของสายตะวันตกก็เป็นได้หากไม่มีใครขึ้นมารับหน้าที่เหล่านี้
แต่ถ้าเรามองอีกมุม หากเพื่อนร่วมทีมพร้อมใจกันก้าวขึ้นมารับหน้าที่เกมรุกมากขึ้น ช่องโหว่ที่ขาด จา ไปก็อาจจะน้อยลงจนทำให้ทีมยังประคองเป็นอันดับต้นๆของสายตะวันตกต่อไป ก็เป็นได้เหมือนกัน
การระเบิดฟอร์มของ ไทอัส โจนส์ เพื่อเรียกสัญญา
ในฤดูกาลที่ผ่านมา เมมฟิส มีสถิติชนะ 12 แพ้ 10 (รวม 2 เกมในเพลย์ออฟ) เมื่อ จา มอแรนท์ ไม่สามารถลงสนามให้กับทีมได้ โดยหนึ่งผู้เล่นที่ก้าวขึ้นมารับหน้าที่พอยต์การ์ดแทน จา มอแรนท์ นั้นก็ไม่ใช่ใครนอกจาก ไทอัส โจนส์
และอย่างที่ ไคล์ เออร์วิง ของ The Sporting News ได้บอกเอาไว้ในช่วงเพลย์ออฟว่า โจนส์ คือพอยต์การ์ดสำรองที่ดีที่สุด เนื่องจากเขาสามารถลงมาเป็นตัวสำรองของ มอแรนท์ ได้อย่างดี และยังสามารถขึ้นมาเป็นตัวจริงแทนที่การ์ดซุปเปอร์สตาร์ได้อีกด้วยในเวลาที่จำเป็น
GP | MPG | PPG | APG | RPG | SPG | TOV | เปอร์เซนต์การยิง | |
ตัวจริง | 22 | 33.2 | 16.4 | 8.1 | 4.0 | 1.8 | 1.5 | 50.0/41.5/77.8 |
สำรอง | 58 | 20.8 | 7.9 | 4.1 | 1.9 | 0.7 | 0.7 | 39.7/35.0/83.0 |
ทีนี้เรามาเข้าประเด็นกันเลยดีกว่า เรื่องที่น่าสนใจก็คือสัญญาของ ไทอัส โจนส์ จะหมดลงหลังจากจบฤดูกาล 2023-24 ซึ่งนี่อาจจะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับ กริซลีย์ส ไม่น้อยเพราะ โจนส์ จะต้องทำผลงานให้ดีที่สุดเพื่อที่จะเรียกสัญญาสำหรับฉบับถัดไป ซึ่งด้วยการที่ จา โดนแบนถึง 25 นัด นี่จึงเป็นโอกาสที่ดีมากๆของเขาในการแสดงความประทับใจให้กับทีม
หาก โจนส์ แสดงผลงานได้อย่างก้าวกระโดด ช่องว่างของการขาด จา มอแรนท์ ไปนั้นก็อาจจะลดลงได้ไม่น้อย ซึ่งนั่นอาจหมายความว่าสัญญาที่เขาจะได้รับในฉบับหน้าจะมีมูลค่ามากขึ้นอย่างแน่นอน
เดสมอนด์ เบน ต้องแบกเกมรุกให้ได้
การขาด จา เท่ากับเกมรุกของทีมได้หายไป ซึ่งคนหนึ่งที่ต้องก้าวขึ้นมารับหน้าที่นั้นก็คือ เดสมอนด์ เบน การ์ดจอมแม่นของทีมตราหมี
หลังจากที่เขาได้ขึ้นมาเป็นผู้เล่นตัวจริงแบบเต็มตัว เบนยังคงพัฒนาฝีมืออย่างต่อเนื่องแม้ว่าเขาจะเป็นดราฟท์ท้ายๆของรอบแรกก็ตาม
ในฤดูกาลที่แล้ว เบนมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 21.5 แต้ม, 5.0 รีบาวด์ และ 4.4 แอสซิสต์ ในขณะที่ยิงฟิลด์โกลลงไปที่ 47.9 เปอร์เซนต์, 40.8 เปอร์เซนต์จากหลังเส้นสามคะแนนและ 88.3 เปอร์เซนต์จากเส้นโทษ แม้ว่าเขาจะมีอาการบาดเจ็บที่นิ้วเท้าจนทำให้ต้องพลาดไปถึง 17 เกมก็ตาม
เพราะฉะนั้นเมื่อเขาไม่มีอาการบาดเจ็บรบกวน เบนจะสามารถพัฒนาจนสามารถมีประสิทธิภาพในการทำแต้มให้เป็นระดับ 50-40-90 ได้หรือไม่? ซึ่งถ้าหากเขาทำได้จริง ทั้งในช่วงที่มี จา หรือไม่มีก็ถือว่าเป็นเรื่องดีมากๆสำหรับทีมทั้งนั้น
ฤดูกาลหน้าคงเป็นอีกปีที่ เบน ต้องพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งว่าเขาจะทำได้ดีแค่ไหนในการที่ต้องรับหน้าที่ในเกมรุกเยอะมากขึ้นในช่วงที่ไม่มีพอยต์การ์ดตัวจริงอย่าง มอแรนท์ อยู่ในสนาม
จาเรน แจ็คสัน จูเนียร์ ต้องขึ้นมาเป็นผู้นำของทีม
แจ็คสันคือผู้เล่นที่สามารถติด All-Star ได้ในฤดูกาลที่ผ่านมา แถมยังได้รางวัลผู้เล่นเกมรับยอดเยี่ยมมาครอบครองอีกด้วย ซึ่งเขามีอายุเพียงแค่ 23 ปีเท่านั้น
ด้วยรางวัลที่การันตีและความคาดหวังของแฟนๆ ทำให้ แจ็คสัน หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยที่จะทำให้เขาขึ้นมาแบกรับหน้าตาและตำแหน่งผู้นำของทีมในช่วงที่ จา มอแรนท์ ไม่อยู่ แน่นอนว่าความกดดันคงจะถาโถมมาที่เขาอยู่ไม่น้อย แต่นี่ก็คือก้าวต่อไปที่สำคัญของ จาเรน แจ็คสัน จูเนียร์ เหมือนกัน
บทความที่เกี่ยวข้อง : จา มอแรนท์ โดนแบน 25 นัดจาก NBA กรณีโชว์ปืนผ่านไลฟ์สด
บทความที่เกี่ยวข้อง : ซ้ำรอยเดิม! จา มอแรนท์ ส่อถูกแบนยาวหลังโชว์ปืนผ่านไลฟ์สดอินสตาแกรม
บทความที่เกี่ยวข้อง : จา มอแรนท์ ไม่ติดทีม All-NBA! จะทำให้อดสัญญาก้อนโตหรือไม่?