เรียกได้ว่านี่เป็นเกมที่ไม่น่าจดจำมากเท่าไหร่สำหรับ ไมอามี ฮีต หลังจากพวกเขาต้องแพ้ให้กับ นักเก็ตส์ ไป 104-93 ในเกมแรกของรอบชิงชนะเลิศ NBA
หลังจากที่พวกเขาสามารถขโมยเกมแรกของการแข่งนอกบ้านมาได้ในตลอดสามซีรีส์ที่ผ่านมา แต่ทว่าพวกเขากลับไม่สามารถทำได้กับแชมป์สายตะวันตกอย่าง เดนเวอร์ นักเก็ตส์ แถมมีบางช่วงที่พวกเขาตามหลังถึง 24 แต้มเลยด้วยซ้ำ
จิมมี บัตเลอร์ ผู้ที่มีสถิติทำ 28.5 แต้มต่อเกมก่อนลงเล่นในรอบชิงชนะเลิศสามารถทำไปเพียง 13 แต้มเท่านั้นจากการยิงลงไป 6 จาก 14 ลูก ซึ่งนี่เป็นเกมที่เขามีแต้มน้อยที่สุดตลอดการเล่นเพลย์ออฟในปี 2023 และแม้ว่า ฮีต จะเริ่มหาจังหวะของตัวเองเจอในช่วงท้ายเกมแต่ภาพรวมเกมรุกทั้งหมดก็ไม่ได้ดีมากนักในเกมนี้
อะไรคือสิ่งที่ ไมอามี ฮีต ต้องปรับเพื่อที่จะทำได้ดีขึ้นในเกมที่สองหรือทุกเกมที่เหลือของซีรีส์ หากใครอยากรู้ติดตามได้ที่นี่
ร่วมเล่นสนุก ชิงรางวัลกับการแข่งขันNBAได้ที่นี่
ไมอามี ฮีต ต้องปรับอะไร? หลังแพ้เกมแรกในรอบชิงชนะเลิศ NBA
จิมมี บัตเลอร์ ต้องดุดันมากขึ้นในการเล่นเกมรุก
เราคงต้องบอกว่า บัตเลอร์ ไม่ค่อยดุดันเท่าไหร่นักในเกมนี้และมันค่อนข้างผิดวิสัยของเขาอยู่ไม่น้อย
นอกจากที่จะทำแต้มได้น้อยแล้ว อีกอย่างที่มองข้ามไม่ได้ก็คือเขาไม่สามารถเรียกลูกโทษได้เลยแม้แต่ครั้งเดียวทั้งๆที่มันเป็นจุดเด่นในการเล่นของเขา
ผู้นำการทำแต้มของ ไมอามี ฮีต นั้นดูไม่ค่อยกระตือรือร้นเท่าไหร่นักในการทำแต้มสำหรับเกมนี้ แต่เหมือนเขาเลือกที่จะสร้างเพลย์ให้กับ แบม อเดบาโย, เคเล็บ มาร์ติน, แม็กซ์ สตรูส และ เกบ วินเซนต์ ซะมากกว่า
ถึงแม้ว่า แบม จะมีสถิติเกมรุกที่ดี แต่ทว่าตัวหลักอีกสองคนอย่าง สตรูซ และ มาร์ติน นั้นเรียกได้ว่าฟอร์มเงียบมากๆ
“ผมจะหาทางจ่ายบอลให้เพื่อนเรื่อยๆ” จิมมีกล่าวไว้หลังเกม “นี่คือสิ่งที่เราทำมาตลอด และมันจะไม่เปลี่ยนเมื่อเราได้เข้ามาเล่นในรอบชิง”
"We'll take this, we'll learn from it, and we'll be back in two days."
— Bally Sports Sun: HEAT (@BallyHEAT) June 2, 2023
Jimmy Butler and Gabe Vincent discuss the Heat's resolve after their loss, the way they need to attack offensively in Game 2, and more
𝘞𝘢𝘵𝘤𝘩 → https://t.co/2D92c6IisA@MiamiHEAT | #HEATCulture pic.twitter.com/RdA4fPs61Q
และถึงแม้ว่าฟอร์มของ บัตเลอร์ จะดูเงียบๆแต่เขาก็มีถึง 7 แอสซิสต์ ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดของทีมในเกมแรก
การสร้างเพลย์ให้เพื่อนไม่ใช่สิ่งที่ไม่ดีแต่การที่ บัตเลอร์ ต้องทำงานหนักกว่าเดิมก็เป็นเรื่องที่ควรทำเช่นกันหากต้องการพาทีมไปสู่ชัยชนะ ซึ่งเขาก็รับรู้ในเรื่องนี้ “ผมจำเป็นที่จะต้องเข้าหาห่วงมากขึ้น การที่ผมลงไปในสนามโดยไม่สามารถเก็บลูกโทษได้เลยนั้นมันคือความผิดของผมเอง”
“เพราะฉะนั้นเราจะทำให้ดีขึ้นในเกมหน้า แต่มีแค่ผมเท่านั้นที่ทำได้”
มือปืนต้องทำหน้าที่ให้ดีขึ้น
ก่อนที่ ฮีต จะเข้ามาเล่นใน NBA ไฟนอลส์ พวกเขาคือทีมที่มีเปอร์เซนต์การยิง 3 คะแนนลงมากที่สุดจากทีมเพลย์ออฟที่ 39.0 เปอร์เซนต์ แต่ในเกมแรกนั้นพวกเขากลับทำได้ไม่ดีเท่าไหร่นักเพราะยิงลงไปเพียงแค่ 13 จาก 39 ลูกเท่านั้นซึ่งนับเป็นเพียง 33.3 เปอร์เซนต์
แม้ว่า 33.3 เปอร์เซนต์จะไม่ใช่ตัวเลขที่แย่ขนาดนั้นแต่ทว่ามันกลับสร้างความยากลำบากให้กับ ฮีต อยู่ไม่น้อยเนื่องจากตั้งแต่ควอเตอร์ 1-3 ไมอามี ยิงลงไปเพียงแค่ 25.9 เปอร์เซนต์ เท่านั้นและทำให้ นักเก็ตส์ มีโอกาสที่จะเล่นเกมสวนกลับแล้วทิ้งห่างพวกเขาออกไปเรื่อยๆ
ควอเตอร์ | 3P-3PA | เปอร์เซนต์ |
1-3 | 7-27 | 25.9% |
4 | 6-12 | 50.0% |
ในเกมนี้ผู้เล่นมือปืนที่น่าเชื่อถือหลายคนก็ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ดีอย่างที่ถูกคาดหวังเอาไว้อย่างเช่น แม็กซ์ สตรูส ที่ยิงไม่ลงเลยแม้แต่ครั้งเดียวจากการพยายามเจ็ดครั้ง ส่วน ดันแคน โรบินสัน ก็ยิงลงไปเพียงลูกเดียวเท่านั้นจากการยิงทั้งหมดห้าครั้ง
ในเกมต่อไปหากพวกเขายังไม่ดีขึ้น รับรองได้เลยว่า ไมอามี จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบากอย่างแน่นอน
ไมอามี ฮีต ต้องสร้างโอกาสยิงลูกโทษให้ได้
ไม่ใช่เพียงแค่ จิมมี บัตเลอร์ เท่านั้นที่ต้องพยายามสร้างลูกโทษ แต่ ไมอามี ฮีต ทั้งทีมก็ควรจะสร้างโอกาสแบบนี้ขึ้นมาเหมือนกันเพราะว่าพวกเขาได้ยิงลูกโทษไปเพียงสองลูกเท่านั้นในเกมแรกของ NBA ไฟนอลส์
แน่นอนว่าสิ่งนี้มันเป็นอะไรที่รับไม่ได้
“อาจจะเป็นเพราะว่าพวกเราเน้นยิงจากวงนอกกันมากเกินไป…แทนที่เราจะกดดันไปที่ใต้แป้น, เข้าไปเลย์อัพ หรือแม้กระทั่งหาทางให้ได้ยิงลูกโทษ” บัตเลอร์กล่าวถึงเรื่องที่ทีมทำผลงานไม่ดีในเกมรุก
ถ้าหาก อีริค สโปลส์ตรา ได้ดูฟิล์มย้อนหลังเขาจะเห็นอย่างแน่นอนว่า ฮีต ค่อนข้างขาดเรื่องความดุดันที่จะเข้าใต้แป้นและการกดดันใต้ห่วง ซึ่ง ฮีตจะสามารถแก้ได้หรือไม่เราคงต้องรอดูกันในเกม 2 ในวันจันทร์ที่ 5 มิถุนายน 2023
บทความที่เกี่ยวข้อง : ทีมไหนบ้างใน NBA ที่ไม่เคยเข้าไปเล่นใน NBA รอบชิงชนะเลิศ?
บทความที่เกี่ยวข้อง : นักเก็ตส์สร้างทีมอย่างไร? จนไปชิงแชมป์ NBA ครั้งแรกของแฟรนชายส์
บทความที่เกี่ยวข้อง : ชนะเกมแรกใน NBA นัดชิงสำคัญแค่ไหนกับการคว้าแชมป์ NBA?