ไขข้อสงสัย! ประวิตร สั่ง สมยศ ลาออกนายกฯ บอลไทย จะถูกฟีฟ่าแบนหรือไม่

Author Photo
ไทยรัฐ

แฟนบอลชาวไทยจิตใจหวั่นไหวไปตลอดทั้งวันนี้ หลัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ออกมาบีบบังคับให้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ลาออกจากตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เหตุจากบริหารงานล้มเหลวมาตลอด 8 ปีที่ดำรงตำแหน่งโดยเฉพาะทัวร์นาเมนต์ ซีเกมส์ ที่คว้าเหรียญทองมาได้แค่สมัยเดียวจาก 4 ครั้งหลังสุด

จากกรณีขั้นต้นทำให้เกิดข้อสงสัยว่า ฟุตบอลทีมชาติไทยจะถูกแบนจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) หรือไม่ เนื่องจาก พล.อ.ประวิตร มีศักดิ์เป็นรองนายกรัฐมนตรีอยู่ในขณะนี้ และการไปบังคับให้ประมุขฟุตบอลไทยลาออกจะเข้าข่ายผิดกฏการแทรกแซงโดยการเมืองหรือเปล่า

เมื่อความจริงยังไม่กระจ่าง ดังนั้นทีมงานของ The Sporting News จะพามาหาเหตุผลถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นในกรณีนี้

ถ้าไม่อยากให้ทีมชาติไทยโดนแบนก็มาร่วมเล่นสนุก ชิงรางวัลกับการแข่งขันฟุตบอลได้ที่นี่

กฏของฟีฟ่า

เมื่อกางกฎออกมาจะพบว่า ความเสี่ยงในการถูกแบนของทีมชาติไทยเข้าข่ายกับกฏข้อที่ 14, 17 และ 19 ดังต่อไปนี้ 

เริ่มจากข้อ 14 ในหัวข้อหน้าที่ของประเทศสมาชิก ข้อ 14.1 ระบุว่า การบริหารกิจการของสมาคมหรือสหพันธ์ต้องเป็นอิสระ ปราศจากการแทรกแซงจากบุคคลที่สาม ต่อมาในข้อ 14.3 ระบุว่า การกระทำผิดข้อบังคับในข้อ 14.1 อาจนำไปสู่การถูกลงโทษ แม้ว่าการแทรกแซงจากบุคคลที่สาม จะไม่ได้เกิดขึ้นจากความผิดของประเทศสมาชิกโดยตรง

ในข้อ 17 หัวข้อการถูกถอดถอนความเป็นสมาชิก ซึ่งฟีฟ่าเขียนไว้ในข้อ 17.1 แยกเป็นข้อย่อยอีก 3 หน่วยดังต่อไปนี้ 1.) สมาชิกไม่สามารถชี้แจงหรือแสดงสถานะทางการเงินได้ครบตามระเบียบของฟีฟ่า 2.) ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับของฟีฟ่าอย่างร้ายแรง 3.) สูญเสียสถานะความเป็นองค์กรอิสระ

และในกฏข้อที่ 19 ซึ่งเป็นกรณีใกล้เคียงที่สุดกับสถานการณ์ปัจจุบัน ระบุไว้ดังนี้
19.1 สมาชิกจะต้องบริหารกิจการของตนอย่างเป็นอิสระ ปราศจากการแทรกแซงจากบุคคลที่สาม
19.2 คณะผู้บริหาร จะต้องได้รับเลือกตั้งหรือแต่งตั้งอย่างเป็นอิสระตามระเบียบข้อบังคับฯ ด้วยวิธีการที่เป็นประชาธิปไตย
19.3 ผู้บริหารสมาคมที่ไม่ได้มีที่มาตามข้อ 19.2 จะไม่ได้รับการยอมรับ หรือ รับรองจากฟีฟ่า
19.4 มติต่าง ๆ ของผู้บริหารสมาคม ที่ไม่ได้รับการแต่งตั้งหรือเลือกตั้ง ตาม ข้อ 19.2 จะไม่ได้รับการยอมรับหรือรับรองจากฟีฟ่า

ความเป็นไป(ได้)

หากว่าตามกฏที่กล่าวมา สามารถสรุปได้ว่าสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย จะไม่ถูกฟีฟ่าแบน 3 กรณีใหญ่ ๆ เริ่มจากประเด็นแรก พล.อ.ประวิตร ไม่ได้ใช้อำนาจจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีหรือประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ปลด พล.ต.อ.สมยศ ออกจากตำแน่งโดยตรงทันที ซึ่งทาง พล.ต.อ.สมยศ ก็ไม่ได้ลาออกตามคำสั่งใด ๆ

อีกกรณี ถ้าหาก พล.ต.อ.สมยศ ลาออกจากตำแหน่งก็อาจมีการสอบสวนจาก ฟีฟ่า ภายหลังว่าการลาออกของเขามีผลมาจากคำสั่งของ พล.อ.ประวิตร ซึ่งถ้าพบว่าเกี่ยวข้องจริงก็มีสิทธิที่จะโดนแบนสูง

ปิดท้ายในกรณีที่ 3 ถ้าหาก พล.ต.อ.สมยศ  ลาออกหรือถูกสั่งปลดโดยบุคคลที่ 3 แล้ว พล.อ.ประวิตร หรือผู้มีอำนาจใดก็ตามแต่งตั้งบุคคลใหม่ขึ้นมาแทน พล.ต.อ.สมยศ ก็จะเข้าข่ายกฏข้อที่ 19 ซึ่งอาจทำให้ฟุตบอลทีมชาติไทยโดนแบนทันที!

กรณีตัวอย่าง

ถือเป็นเรื่องดีที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ยังแค่เข้าค่ายเฝ้าระวังรับโทษแบนแต่สมมติว่าถ้าฟีฟ่าสั่งแบนทีมชาติไทยจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ทั้งนี้ โทษของการแบนส่วนใหญ่จะเป็นการสั่งห้ามทีมชาติทุกเพศและทุกรุ่นอายุลงแข่งขันในรายการที่ฟีฟ่าหรือองค์กรที่สังกัดในฟีฟ่ารับรอง เช่น ฟุตบอลโลก, เอเชียน คัพ , ฟีฟ่า เดย์ เป็นต้น แต่กระนั้นก็ยังสามารถลงแข่งขันในทัวร์นาเมนต์ที่ไม่ได้ถูกรับรองจากฟีฟ่า เช่น ซีเกมส์, เอเชียนเกมส์, อาเซียน คัพ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม จากกรณีศึกษาชาติที่เคยถูกฟีฟ่าแบน พบว่า ยังมีโอกาสแก้ตัวเสมอหากยอมรับผิดและแก้ไขโดยเร็ว ซึ่งทางฟีฟ่าจะพิจารณาโมฆะโทษแบนให้ตามความเหมาะสม เช่น 

ทีมชาติอินเดีย ถูกฟีฟ่าแบนในวันที่ 16 สิงหาคม 2022 ด้วยสาเหตุที่ศาลอินเดียมีคำสั่งยุบสมาคมฟุตบอลอินเดีย (AIFF) ชั่วคราว และแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาควบคุมแทน แต่ต่อมาในวันที่ 27 สิงหาคม 2022 ฟีฟ่าได้ยกเลิกโทษแบน หลังจากรัฐบาลอินเดียตกลงที่จะยุติการแทรกแซง และจัดการเลือกตั้งนายกสมาคมฯ ขึ้นมาใหม่ในเดือนกันยายนปีเดียวกัน   

ทีมชาติไนจีเรีย ถูกฟีฟ่าสั่งแบนทันทีในวันที่ 9 กรกฎาคม 2014 เนื่องจากสหพันธ์ฟุตบอลไนจีเรีย (NFF) ตัดสินใจปลดคณะกรรมการบริหาร และศาลไนจีเรียก็แต่งตั้งให้คนในรัฐบาลเข้ามาบริหารสหพันธ์แทน แต่ทว่าฟีฟ่ากลับยกเลิกโทษแบนในเดือนเดียวกัน

ปิดท้ายที่กรณีของทีมชาติอินโดนีเซียในปี 2015 ถูก ฟีฟ่า แบนหลังจากรัฐบาลสั่งยกเลิกสมาคมฟุตบอลแล้วก่อตั้งสมาคมฟุตบอลขึ้นมาบริหารโดยรัฐบาลเอง อย่างไรก็ตามพวกเขาได้รับการยกเลิกโทษแบนในปี 2016

บทสรุป

แม้ว่าสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จะยังห่างไกลจากการโดนฟีฟ่าแบน แต่ทว่าเมื่อใดหาก พล.อ.ประวิตร หัวร้อนจนหยุดไม่อยู่และใช้อำนาจปลด พล.ต.อ.สมยศ ขึ้นมาจริง ๆ ก็ขอบอกเลยว่า "บ๊าย ๆ ฟุตบอลทีมชาติไทย" 

NBA LEAGUE PASS สมัครเพื่อชมการแข่งขันเอ็นบีเอสดทุกนัดคลิก 

ผู้แต่ง
Author Photo
นักเขียน The Sporting News Thailand ที่อยากถามว่าคุณฟังวงอะไร? ผมฟังวง "ไปส่งกู บขส. ดู๊
LATEST VIDEOS